สหรัฐแจงใหม่เก็บภาษีจีนพุ่ง – บีบีซี รายงานวันที่ 11 เม.ย. ว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาแถลงยืนยันว่าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่ร้อยละ 145 ภายหลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศจัดเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีกร้อยละ 125 เมื่อวันพุธที่ 9 เม.ย.

โดยทำเนียบขาวระบุว่ายังไม่รวมอัตราภาษีร้อยละ 20 ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกเก็บก่อนหน้านี้เพื่อลงโทษจีนจากกรณีละเลยการสกัดกั้นการไหลทะลักของยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐ

ขณะที่นายทรัมป์กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีโดยปกป้องนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกว่าสหรัฐ “อยู่ในสถานะที่ดีมาก เราพอใจมากกับแนวทางการดำเนินงานของประเทศ เรากำลังพยายามทำให้โลกปฏิบัติต่อเราอย่างยุติธรรม” นายทรัมป์ย้ำ

ก่อนตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนในอนาคตว่า “เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น” สหรัฐต้องการบรรลุข้อตกลงกับจีน แม้จีนใช้ประโยชน์จากสหรัฐมานานแล้วในอดีต อย่างไรก็ตาม ตนแน่ใจว่าทั้งสองประเทศจะสามารถอยู่ร่วมกันได้

ขณะเดียวกัน สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสัปดาห์หน้าเพื่อขยายความร่วมมือกับชาติพันธมิตรในการรับมือกับสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นของจีนกับสหรัฐ

กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า นายสีจะเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 14-15 เม.ย. จากนั้นเดินทางไปมาเลเซียและกัมพูชาระหว่างวันที่ 15-18 เม.ย. โดยทั้งสามประเทศต่างได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น

กัมพูชาถูกเรียกเก็บร้อยละ 49 เวียดนามร้อยละ 46 และมาเลเซียร้อยละ 24 แต่ต่อมานายทรัมป์ประกาศชะลอการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นประเทศจีน นอกจากนี้ยังเดินหน้ากระบวนการเจรจากับสหรัฐด้วยและส่งผลให้เกิดการโดดเดี่ยวจีน...
ที่มา: https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_9714150