เรื่องย่อ:
La Dolce Villa (2024) เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่าโรแมนติกที่ให้ฟีล Feel-Good เต็มเปี่ยม เล่าเรื่องของ “โอลิเวีย” สาวนักออกแบบชาวนิวยอร์กที่ชีวิตกำลังวุ่นวายทั้งงาน ความรัก และอนาคต จู่ ๆ เธอกลับได้รับมรดกเป็น “วิลล่าเก่า ๆ” กลางเนินเขาในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี จากคุณยายที่เธอไม่เคยรู้จัก
เธอตัดสินใจเดินทางไปดูด้วยตัวเองว่าจะขายหรือเก็บไว้ แต่เมื่อไปถึงกลับพบกับชาวบ้านที่อบอุ่น วัฒนธรรมที่ชวนหลงใหล และ “ลูก้า” หนุ่มชาวไร่องุ่นมาดนิ่งที่กลายมาเป็นทั้งไกด์และ… คนที่ทำให้ใจเธอสั่น ความอลหม่านปนอบอุ่นเริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอต้องเลือกว่าจะกลับไปสู่ชีวิตวุ่นวายแบบเดิม หรือจะกล้าพอที่จะเริ่มต้นใหม่ใน “La Dolce Villa”
รีวิว:
หนังเรื่องนี้คือคำตอบสำหรับคนที่ชอบหนังสไตล์
Under the Tuscan Sun,
Eat Pray Love หรือหนังที่ทำให้เราอยากทิ้งทุกอย่าง แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านน่ารัก ๆ สักที่ในอิตาลี!
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ “บรรยากาศ” หนังถ่ายภาพชนบทของอิตาลีได้สวยงามราวกับโปสการ์ด แสงอาทิตย์ยามเย็น ไร่องุ่น บ้านหิน วิลล่ากลางเขา และอาหารอิตาเลียนที่ดูแล้วหิวสุด ๆ ทั้งหมดนี้ช่วยให้เรารู้สึกเหมือนได้เดินทางไปที่นั่นจริง ๆ
นักแสดงนำหญิงรับบท “โอลิเวีย” ได้อย่างมีเสน่ห์ เป็นตัวละครที่ทั้งเก่ง กล้า และเปราะบางในเวลาเดียวกัน ส่วน “ลูก้า” ก็เป็นหนุ่มอิตาเลียนที่น่าเอ็นดูแบบไม่ต้องพยายาม – เคมีของทั้งสองคนเข้ากันดี ดูแล้วอดอมยิ้มตามไม่ได้เลย
แม้พล็อตจะเดาได้ไม่ยาก แต่หนังก็ไม่ได้พยายามเป็นอะไรที่ซับซ้อน เพราะสิ่งที่มันทำได้ดีคือการเล่าเรื่องของ “การค้นหาตัวเอง” และ “การยอมรับความสุขในรูปแบบที่แตกต่างจากที่เราคิดไว้” อย่างเรียบง่ายแต่งดงาม
สรุป:
La Dolce Villa คือหนังที่ดูแล้วใจฟู เหมือนการไปพักร้อนโดยไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบิน มันพูดถึงความสุขเล็ก ๆ ความรักที่เติบโตช้า ๆ และการเริ่มต้นใหม่ได้ทุกช่วงวัย หนังที่เหมาะกับการดูในวันหยุด พร้อมไวน์หนึ่งแก้วและใจที่พร้อมจะหลงใหลไปกับวิวอิตาลี
คะแนน:
7.5 / 10
(สำหรับความอบอุ่นหัวใจ, บรรยากาศสวยจับใจ และพลังบวกของหนัง)
La Dolce Villa” – วิลล่าแสนหวาน กับชีวิตที่น่าหลงใหลในชนบทอิตาลี
เรื่องย่อ:
La Dolce Villa (2024) เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่าโรแมนติกที่ให้ฟีล Feel-Good เต็มเปี่ยม เล่าเรื่องของ “โอลิเวีย” สาวนักออกแบบชาวนิวยอร์กที่ชีวิตกำลังวุ่นวายทั้งงาน ความรัก และอนาคต จู่ ๆ เธอกลับได้รับมรดกเป็น “วิลล่าเก่า ๆ” กลางเนินเขาในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี จากคุณยายที่เธอไม่เคยรู้จัก
เธอตัดสินใจเดินทางไปดูด้วยตัวเองว่าจะขายหรือเก็บไว้ แต่เมื่อไปถึงกลับพบกับชาวบ้านที่อบอุ่น วัฒนธรรมที่ชวนหลงใหล และ “ลูก้า” หนุ่มชาวไร่องุ่นมาดนิ่งที่กลายมาเป็นทั้งไกด์และ… คนที่ทำให้ใจเธอสั่น ความอลหม่านปนอบอุ่นเริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอต้องเลือกว่าจะกลับไปสู่ชีวิตวุ่นวายแบบเดิม หรือจะกล้าพอที่จะเริ่มต้นใหม่ใน “La Dolce Villa”
รีวิว:
หนังเรื่องนี้คือคำตอบสำหรับคนที่ชอบหนังสไตล์ Under the Tuscan Sun, Eat Pray Love หรือหนังที่ทำให้เราอยากทิ้งทุกอย่าง แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านน่ารัก ๆ สักที่ในอิตาลี!
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ “บรรยากาศ” หนังถ่ายภาพชนบทของอิตาลีได้สวยงามราวกับโปสการ์ด แสงอาทิตย์ยามเย็น ไร่องุ่น บ้านหิน วิลล่ากลางเขา และอาหารอิตาเลียนที่ดูแล้วหิวสุด ๆ ทั้งหมดนี้ช่วยให้เรารู้สึกเหมือนได้เดินทางไปที่นั่นจริง ๆ
นักแสดงนำหญิงรับบท “โอลิเวีย” ได้อย่างมีเสน่ห์ เป็นตัวละครที่ทั้งเก่ง กล้า และเปราะบางในเวลาเดียวกัน ส่วน “ลูก้า” ก็เป็นหนุ่มอิตาเลียนที่น่าเอ็นดูแบบไม่ต้องพยายาม – เคมีของทั้งสองคนเข้ากันดี ดูแล้วอดอมยิ้มตามไม่ได้เลย
แม้พล็อตจะเดาได้ไม่ยาก แต่หนังก็ไม่ได้พยายามเป็นอะไรที่ซับซ้อน เพราะสิ่งที่มันทำได้ดีคือการเล่าเรื่องของ “การค้นหาตัวเอง” และ “การยอมรับความสุขในรูปแบบที่แตกต่างจากที่เราคิดไว้” อย่างเรียบง่ายแต่งดงาม
สรุป:
La Dolce Villa คือหนังที่ดูแล้วใจฟู เหมือนการไปพักร้อนโดยไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบิน มันพูดถึงความสุขเล็ก ๆ ความรักที่เติบโตช้า ๆ และการเริ่มต้นใหม่ได้ทุกช่วงวัย หนังที่เหมาะกับการดูในวันหยุด พร้อมไวน์หนึ่งแก้วและใจที่พร้อมจะหลงใหลไปกับวิวอิตาลี
คะแนน:
7.5 / 10
(สำหรับความอบอุ่นหัวใจ, บรรยากาศสวยจับใจ และพลังบวกของหนัง)