สภาเดือด ส่งท้ายก่อนปิดสมัย พิเชษฐ์ ปะทะ ณัฐชา ไล่พ้นห้องประชุม หลังประท้วงวุ่น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9712946
.
.
สภาเดือด ส่งท้ายก่อนปิดสมัย ณัฐชา โวย อัครา ตอบ 3 กระทู้แต่เมินเรื่องปลาหมอคางดำ อ้างไม่รู้กลัวข้อมูลซ้ำซ้อนกับที่แถลงไปแล้ว พิเชษฐ์ เดือดไล่พ้นห้องประชุม หลังประท้วงวุ่น
.
วันที่ 10 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ระหว่างพิจารณากระทู้ถามด้วยวาจาเสร็จสิ้น นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์เป็นผู้มาตอบกระทู้
.
จากนั้น กำลังเข้าสู่การพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาปลาหมอสีคางดำและการจัดสรรงบประมาณเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งถามโดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. พรรคประชาชน ที่ถามรมว.เกษตรและสหกรณ์ และได้มอบหมายให้ รมช.เกษตรฯ มาตอบแทน แต่มีการทำหนังสือขอเลื่อน
.
ทำให้นายณัฐชา ลุกขึ้นประท้วงว่า วันนี้มีการตั้งกระทู้ถามกระทรวงเกษตรฯ 4 กระทู้ แต่ปรากฏว่ากระทู้จากสส. ฝั่งรัฐบาลได้รับการตอบไปทั้งหมด 3 กระทู้ แต่กระทู้ของตนที่เป็นฝ่ายค้านกลับถูกเลื่อน และตนได้ถามเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกของสมัยประชุมสภาฯนี้ และวันนี้ประชุมวันสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม กลับถูกเลื่อนอีก
.
“เลื่อนแล้วเลื่อนแบบเจ็บช้ำกว่าเพื่อน เพราะเลื่อนแบบ รมช.เกษตรฯนั่งอยู่ตรงนี้แต่ไม่สามารถตอบผมได้ กระทรวงเกษตรมีรัฐมนตรีถึว 3 คนแต่ผมนับไปนับมามี 4 คน มีรัฐมนตรีสั่งการ 1 คน รัฐมนตรีว่าการ1 คนและรัฐมนตรีช่วย 2 คน สับเปลี่ยนกันยังไงก็ตอบของผมได้ เลื่อนมา 4 เดือนเต็มจนถึงวันสุดท้ายยังตอบผมไม่ได้ ทั้งที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ จึงขอความชอบธรรมความเห็นใจจากประธานด้วย จะเอาอย่างไรดี” นายณัฐชา กล่าว
.
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะนายณัฐชา ได้พูดแล้ว แต่นายณัฐชา ลุกขึ้นสวนทันทีว่า ไม่เป็นไรไม่ได้ ได้พูดอย่างเดียวไม่ได้ต้องได้ถามด้วย เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้าย
.
จากนั้นนายพิเชษฐ์ ได้ปิดไมค์นายณัฐชา และหันไปถามนายอัคราว่ามีธุระต่อหรือไม่ ก่อนจะกล่าวว่ารัฐมนตรีบางคนไม่ใช่พหูสูตร มีการแบ่งงานกันดูแลตามสายงาน และแม้นายอัคราจะมาตอบกระทู้แล้ว แต่ไม่ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้ของนายณัฐชาเรื่องปลาหมอคางดำเพราะไม่ได้ดูแลสายงานนี้ จึงตอบได้แค่เรื่องที่ถูกมอบหมาย และจะให้ไปตอบในราชกิจจานุเบกษา
.
ขณะที่นายณัฐชา กล่าวว่า หากยึดหลักการนี้สภาจะเสื่อมทันที และบอกว่ามีสายรายงานจากกระทรวงเกษตรฯ ว่าพอถึงวันนพฤหัสบดี ก็จองตั๋วเครื่องบินกันขวักไขว่ รันเวย์แทบทรุด พอเจอกระทู้ถามก็จองตั๋วเครื่องบิน แสดงว่าสภาฯ ไม่มีความหมาย และกว่าจะได้ตั้งกระทู้ถามผู้ช่วยตนต้องต่อแถวตั้งแต่ตี 1 เลื่อนจนนาทีสุดท้ายแล้วมานั่งตาปริบๆ บอกไม่ว่า เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯได้อย่างไร เรื่องนี้เรื่องใหญ่จะบอกไม่รู้ไม่เป็นไม่ทราบไม่ได้ถ้าไม่ตอบกระทู้กันแบบนี้เดี๋ยวก็โดน 157 กัน
.
ด้านนายพิเชษฐ์ ปิดไมค์นายณัฐชาอีกครั้ง ก่อนจะบอกให้พอแล้ว และในหลักการ รัฐมนตรีจะมาตอบหรือไม่จะทำหนังสือแจ้งมา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสียเวลาถามกระทู้ต่อ และกล่าวต่อว่า รัฐมนตรีบางท่านวางไทม์ไลน์ไว้ ตอบ 3 กระทู้และต้องเดินทางไปตามนัดหมายสำคัญต่อ คิดว่านายณัฐชาน่าจะเข้าใจ มาตอบ 3 กระทู้ก็ถือว่าเยอะแล้วและขอให้นายณัฐชา พอแล้ว
.
นายณัฐชา จึงลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง ว่า ยิ่งประธานชี้แจงแทนรัฐมนตรี ท่านประธานยิ่งเจ็บ ที่บอกว่าจะเสียเวลาสภาฯ แต่ตอนนี้ยิ่งเสียชื่อประธานสภาฯ ถ้าอย่างนั้นร่างข้อบังคับใหม่เลย ให้เป็นกระทู้ถามในห้องประชุมพรรค จะได้ตอบให้เสร็จในที่ประชุมพรรค หากจะตอบแบบเฉพาะที่ชงกันหวานๆ แล้วกระทู้ของฝ่ายค้านไม่ ตอบเลย
.
ทำให้นายพิเชษฐ์ต้องปิดไมค์ในนายณัฐชาและถามว่าประท้วงเสร็จหรือยัง พร้อมขอให้นั่งเพราะจะวินิจฉัยแต่นายณัฐชาไม่นั่ง นายพิเชษฐ์จึงถามย้ำว่าจะนั่งหรือไม่ ก่อนพยายามอธิบายระเบียบข้อบังคับ ว่าทำหนังสือเลื่อนมาถูกต้อง ตามหลักการ หากจะไปร้องเรียนที่ไหนก็ให้ไป ตนขอทำตามระเบียบ จะไม่อนุญาตให้พูด
.
ช่วงนี้นายณัฐชาได้ลุกขึ้นทำให้นายพิเชษฐ์ ต้องตะคอกเสียงดังว่า ไม่อนุญาตให้พูดอีกแล้ว จะไปอ้างอิงที่ไหนก็ไป ทำให้นายณัฐชา พูดสวนโดยไม่ได้เปิดไมค์ ทำให้นายพิเชษฐ์ ต้องเชิญออกนอกห้องประชุม แต่นายณัฐชาไม่ออก
.
ทำให้นายพิเชษฐ์เรียกตำรวจสภาเข้ามาในห้องประชุม ขณะที่นายณัฐชายังคงตะโกนโดยไม่เปิดไมค์ ทำให้นายพิเชษฐ์ หยิบหนังสือขึ้นมาตะคอกกลับไปอีกว่า เขามีหนังสือมา ไม่ใช่เป็นดาวสภาแล้วจะทำอะไรก็ได้ ตนทำตามหลักการ และให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่เชิญเอาตัวออกไปเลย
.
“เขามีหนังสือมาคุณไม่รู้เรื่องหรือ เอาไปดูสิ หลักการเรามีสภาเราต้องยึดถือข้อบังคับ มันมีหลักการอยู่คุณจะเอาสีข้างมาถูได้ยังไง เขาทำหนังสือมาแล้ว จะไปร้องที่ไหนก็ไป” นายพิเชษฐ์ระบุ
.
จากนั้นสส.พรรคประชาชน อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ช่วยกันประท้วงว่าทำไมไม่ตอบกระทู้ ขณะที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ประท้วงว่าไม่อยากให้ประธานตอบแทนรัฐมนตรี อยากให้รัฐมนตรีชี้แจงเองที่มานั่งอยู่ตรงนี้ พร้อมชี้ไปที่นายอัครา ทำไมไม่ลุกขึ้นตอบ จะสละเวลา 30 นาทีเพื่อตอบเพิ่ม ให้ประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องปลาหมอคางดำ ได้ฟังได้หรือไม่ หรือไม่ได้เตรียมข้อมูลมีเหตุติดขัดอันใด ขอให้ชี้แจงว่าเป็นอะไร ที่นั่งอยู่ตั้งแต่เช้าแล้วทำไมตอบไม่ได้ ตนคิดว่ามันตลก
.
ด้าน สส.พรรคเพื่อไทยที่ถูกเลื่อนตอบกระทู้ได้ลุกขึ้นพูดว่า ขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐมนตรีเพราะถูกเลื่อนเหมือนกัน
.
สุดท้ายนายอัครา ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า กรณีปลาหมอคางดำได้แถลงข่าวและตอบกระทู้ไปแล้ว และนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ 98 ล้านบาทในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงมีแผนการทำงานบูรณาการร่วมกับท้องถิ่นในการกำหนดจุดรับซื้อ ส่วนตัวเข้าใจการทำงานสส.ที่ดูแลผลประโยชน์ประชาชน
นายอัครา กล่าวว่า ที่ไม่ตอบเรื่องนี้เพราะไม่ทราบว่ามีเรื่องปลาหมอคางดำอยู่ด้วย เพราะคณะทำงานเตรียมข้อมูลมาชี้แจง 3 กระทู้ และเรื่องปลาหมอมีการแถลงข่าวชัดเจนไปแล้ว จึงกลัวข้อมูลซ้ำซ้อนกันและขออภัยด้วย
.
อย่างไรก็ตาม หลังมีการเจรจากัน นายณัฐชาได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องดังกล่าว โดยมีนายอัครา เป็นผู้ตอบ ซึ่งในช่วงนี้ได้สลับให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
.
.
ปชน.ข้องใจ รมว.พลังงาน ไม่ชะลอสั่งซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทำค่าไฟพุ่ง พีระพันธุ์ ลุกแจง ย้ำหากพบผิดไม่ปล่อย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5133814
.
ปชน. จี้ พีระพันธุ์ แจงเหตุไม่ชะลอสั่งซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟสหนึ่งเหมือนเฟสสอง ทำ ปชช. ต้องจ่ายค่าไฟพุ่งเกินจำเป็น ด้าน พีระพันธุ์ ยอมรับ บ้อท่ากฎหมายไม่ให้อำนาจ อ้างบางส่วนเกิดก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่ส่วนที่เหลือหากสอบพบผิดก็ไม่ปล่อย
.
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 10 เมษายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายศุภโชติ ไชยสัจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาตอบแทน
.
นายศุภโชติ กล่าวว่า โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังงานสะอาด 2 เฟสจำนวน 5,200 เมกะวัตต์ และ 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งตนขอขอบคุณนายพีระพันธุ์ที่มีมติให้ชะลอการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ออกไปก่อน ตามที่ฝ่ายค้านเคยตั้งกระทู้ถาม จนสามารถหยุดภาระเพิ่มค่าไฟให้ประชาชนได้ชั่วคราว แต่การรับซื้อเฟสแรกที่เราเคยตั้งคำถามเช่นกัน ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับเฟส 2 โดยศาลปกครองเคยวินิจฉัยว่าขบวนการที่เกิดขึ้นในการรับซื้อเฟสแรกส่อให้เกิดการทุจริตทำให้ประเทศ และประชาชนเสียหายเพราะต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น โดยมีการคำนวณว่าหากมีการปล่อยให้มีการซื้อตามโครงการนี้ ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น 1 แสนล้านบาทตลอด 25 ปี แทนที่จะสั่งให้มีการชะลอการลงนามซื้อขายเหมือนเฟส 2
.
นายศุภโชติ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นกระแสในสังคม จึงมีการตีเนียนปล่อยผ่าน ไม่เคยมีการขยายการทำงานให้ครอบคลุมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน แต่กลับทำตรงกันข้ามให้เอกชนทยอยเซ็นสัญญาซื้อขายแบบเงียบๆ ทั้งที่มีสิทธิที่จะยกเลิกได้เฉพาะโครงการที่ยังไม่มีการลงนามซื้อขายเท่านั้น เนื่องจากระเบียบระบุชัดว่าหากจะยกเลิกต้องมีมติคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หากปล่อยให้เอกชนเซ็นสัญญาแล้วจะยกเลิกได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย พวกตนถามไปหลายรอบก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เคยตั้งกระทู้หารือให้ระงับโครงการ แต่ในสัปดาห์เดียวกันกลับให้เอกชนมาลงนามในสัญญาซื้อขายกับภาครัฐอีกหลายรอบเมกะวัตต์ ปัจจุบันเหลืออีกไม่กี่โครงการที่ยังไม่เซ็นสัญญาที่จะสามารถยกเลิกการลงนามได้
.
นายศุภโชติ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น ตนขอถามว่าทำไมรัฐมนตรีจึงไม่สั่งชะลอการเซ็นสัญญาดังกล่าวเหมือนเฟส 2 ทั้งที่มีปัญหาเหมือนกัน และจะมีคำสั่งให้ยกเลิกซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในส่วนของโครงการที่เหลือหรือไม่ เพราะการกำหนดการจะมีการเซ็นสัญญาทั้งหมดวันที่ 19 เมษายนนี้ และจะเอาอย่างไรกับโครงการที่ลงนามไปแล้ว จะมีการแก้ไขได้หรือไม่
.
ด้านนายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ตนยอมรับว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงเป็นสิ่งเดียวกับที่ตนและนายกฯ เป็นห่วงเช่นกันว่าวันหนึ่งหากท่านได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็จะรู้ว่ามันไม่ง่าย เพราะไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งอะไรต้องมีกฎหมายให้อำนาจด้วย และยังมีกฎกติกาที่คนอื่นมีอำนาจ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญ เหมือนที่ตนเคยพูดว่าปัญหาพลังงานหมักหมมมานานไม่มีใครมาแก้ปัญหาได้ เรามีกฎหมายเกี่ยวกับพลังงานน้อยมากและแทบจะไม่ให้อำนาจอะไรรัฐมนตรีเลย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาด ขณะนี้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องไฟฟ้า ยกเว้น EGAT จะมีกพช.ดูแล และคณะกรรกมากำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดปัญหาเพราะนโยบายอยู่ที่ กพช. แต่ฝ่ายปฏิบัติอยู่ที่ กกพ.ที่เป็นองค์กรอิสระ ซึ่งในอดีตกฎหมายให้อำนาจ กกพ. เพราะคาดการณ์ว่าจะมีการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) การไฟฟ้าฝ่ายภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นเอกชน ซึ่งกฎหมายนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่ กพช.เป็นหน่วยงานนโยบายเวลามีปัญหาอะไรก็จะโยนไปให้ กกพ. แต่ไม่เคยมารายงานเพราะไม่มีเคยมีกฎหมายบังคับ หากจะให้แก้ปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าหรือพลังงาน จึงไม่ใช่แก้ที่การประมูลงานแต่ต้องแก้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกฎหมายกำกับ
JJNY : พิเชษฐ์ ปะทะ ณัฐชา│ปชน.ข้องใจ รมว.พลังงาน│เชื่อมั่นผู้บริโภคมี.ค.ลงทุกรายการต่อเนื่อง│ยูเอ็นเผย สหรัฐ ‘กลับลำ’
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9712946
.
.
ปชน.ข้องใจ รมว.พลังงาน ไม่ชะลอสั่งซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทำค่าไฟพุ่ง พีระพันธุ์ ลุกแจง ย้ำหากพบผิดไม่ปล่อย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5133814
.