ตามกระทู้เลยค่ะ เราโตมากับพ่อซึ่งดูแลเรา100% แต่เนื่องจากเรากับพ่อค่อนข้างมีปัญหากันบ่อยครั้ง ซึ่งแม่ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูแต่จะติดต่อมาเป็นครั้งคราว จนเราอายุ20+ ประสบอุบัติเหตุเลยได้มีโอกาสเจอแม่บ่อยขึ้นและในช่วงนั้นแม่ก็มีธุรกิจค้าขายออนไลน์พอจะมีเงินบ้างแต่พอกระแสเริ่มเปลี่ยนขายของได้ไม่ดีนักแม่ก็ได้ผันมาทำธุรกิจทุเรียนแกะเนื้อส่งโรงงาน เราก็ได้ติดต่อกับแม่บ่อยในช่วงนี้ และช่วงนี้แม่ก็มีมาขอเงินเราเรื่อยๆ ตั้งแต่200-1000 เกือบทุกวัน
จนเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นแม่มาพูดโน้มน้าวให้เราเอาเงินมาลงทุนเพื่อจะได้เก็บเงิน โดยให้เราเอารถมอเตอร์ไซค์ที่พ่อซื้อให้ไปเข้าสินเชื่อ และสัญญาว่าจะปิดรถภายใน3เดือน โดยเอากำไรจากที่จะเอาไปลงทุนมาปิดให้ 2เดือนแรก แม่ก็โอนเงินมาจ่ายค่างวดปกติพอเข้าเดือนที่3 เราก็ได้สอบถามเรื่องการปิดหนี้ก้อนนี้ที่ 40,000 แม่ให้เหตุผลว่าขออีก 4 เดือนจะปิดให้แน่นอนและเดือนนี้จะให้จ่ายค่างวดปกติไปก่อนจนถึงวันจ่ายค่างวดเราได้มีการติดต่อไปขอเงิน ก็ได้คำตอบว่าเดี๋ยวจะโอนให้ตอนค่ำและได้ผลัดเราไปเรื่อยๆจนเราเริ่มเอะใจว่ามันผิดปกติ แต่ด้วยคิดว่าแม่คงจะไม่ทำกับเราแบบที่เราคิดหรอก เพราะเคยพูดไปแล้วว่ารถคันนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวของเรานะ แม่ก็ได้มีการตอบปากรับคำว่าจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
และเมื่อเลยกำหนดวันชำระเงินไปแล้วเราก็เริ่มติดต่อแม่ไม่ได้ โทรไปไม่รับ แชทไม่ตอบ หรือตอบช้าจนเราเริ่มโทรไปหาคนรู้จักของแม่และได้รู้ความจริงหลายๆเรื่องว่า แม่มีการเอาชื่อเราไปแอบอ้างขอเงินจากญาติพี่น้องบอกขอมาจ่ายค่าเทมอบ้าง ค่าหอบ้าง ค่าโทรศัพท์บ้าง
และญาติพี่น้องทุกคนก็เริ่มบล็อกไลน์ บล็อกเฟสเราไปเพราะกลัวเราจะขอเงิน
เมื่อเวลาผ่านไปสัก1เดือนเราพยายามติดต่อหาแม่มาตลอดแต่ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง เข้าเดือนที่2 จึงได้การตอบกลับมาบอกว่าแม่ป่วยหนัก อาการโคม่าเลยไม่ได้ติดต่อกลับมา และบอกว่าจะหาเงินมาจ่ายหนี้เราให้ได้
แต่ก็ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์แม่ก็ได้ขาดการติดต่อไปอีกรอบนี้เราพยายามโทรหาทุกคนที่รู้จักและใกล้ชิดกับแม่ และก็สามารถติดต่อคนที่แม่เคารพและอยู่ใกล้ชิดกับแม่ เราได้รู้ความจริงว่าแม่ไม่ได้ป่วยอะไร ใช้ชีวิตปกติไปวันๆ ไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนใจอะไร และเมื่อแม่รู้ว่าเราได้คุยกับผู้ใหญ่คนนี้ก็มีโอกาสได้คุยกับแม่ โดยได้รับการตอบกลับมาที่ว่า เราโง่เองที่เอาเงินมาให้ และอย่าคิดว่าจะมีใครช่วยเรื่องนี้เราได้
จนสุดท้ายเราก็ไม่สามารถติดต่อใครได้อีกเลย และเราก็ต้องจ่ายหนี้ก้อนนี้เองทุกบาท อยากถามทุกคนว่าเราโง่เหมือนที่แม่พูดไหม ปล.เรื่องนี้ทำให้เราเป็นซึมเศร้าเพราะเราไม่กล้าจะพูดกับใคร (พ่อกับแม่เลิกกันไม่ดี)
โดนแม่ที่ไม่เคยเลี้ยงดู หลอกให้เอารถเข้าสินเชื่อสุดท้ายเอาเงินหนี้ไป
จนเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นแม่มาพูดโน้มน้าวให้เราเอาเงินมาลงทุนเพื่อจะได้เก็บเงิน โดยให้เราเอารถมอเตอร์ไซค์ที่พ่อซื้อให้ไปเข้าสินเชื่อ และสัญญาว่าจะปิดรถภายใน3เดือน โดยเอากำไรจากที่จะเอาไปลงทุนมาปิดให้ 2เดือนแรก แม่ก็โอนเงินมาจ่ายค่างวดปกติพอเข้าเดือนที่3 เราก็ได้สอบถามเรื่องการปิดหนี้ก้อนนี้ที่ 40,000 แม่ให้เหตุผลว่าขออีก 4 เดือนจะปิดให้แน่นอนและเดือนนี้จะให้จ่ายค่างวดปกติไปก่อนจนถึงวันจ่ายค่างวดเราได้มีการติดต่อไปขอเงิน ก็ได้คำตอบว่าเดี๋ยวจะโอนให้ตอนค่ำและได้ผลัดเราไปเรื่อยๆจนเราเริ่มเอะใจว่ามันผิดปกติ แต่ด้วยคิดว่าแม่คงจะไม่ทำกับเราแบบที่เราคิดหรอก เพราะเคยพูดไปแล้วว่ารถคันนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวของเรานะ แม่ก็ได้มีการตอบปากรับคำว่าจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
และเมื่อเลยกำหนดวันชำระเงินไปแล้วเราก็เริ่มติดต่อแม่ไม่ได้ โทรไปไม่รับ แชทไม่ตอบ หรือตอบช้าจนเราเริ่มโทรไปหาคนรู้จักของแม่และได้รู้ความจริงหลายๆเรื่องว่า แม่มีการเอาชื่อเราไปแอบอ้างขอเงินจากญาติพี่น้องบอกขอมาจ่ายค่าเทมอบ้าง ค่าหอบ้าง ค่าโทรศัพท์บ้าง
และญาติพี่น้องทุกคนก็เริ่มบล็อกไลน์ บล็อกเฟสเราไปเพราะกลัวเราจะขอเงิน
เมื่อเวลาผ่านไปสัก1เดือนเราพยายามติดต่อหาแม่มาตลอดแต่ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง เข้าเดือนที่2 จึงได้การตอบกลับมาบอกว่าแม่ป่วยหนัก อาการโคม่าเลยไม่ได้ติดต่อกลับมา และบอกว่าจะหาเงินมาจ่ายหนี้เราให้ได้
แต่ก็ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์แม่ก็ได้ขาดการติดต่อไปอีกรอบนี้เราพยายามโทรหาทุกคนที่รู้จักและใกล้ชิดกับแม่ และก็สามารถติดต่อคนที่แม่เคารพและอยู่ใกล้ชิดกับแม่ เราได้รู้ความจริงว่าแม่ไม่ได้ป่วยอะไร ใช้ชีวิตปกติไปวันๆ ไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนใจอะไร และเมื่อแม่รู้ว่าเราได้คุยกับผู้ใหญ่คนนี้ก็มีโอกาสได้คุยกับแม่ โดยได้รับการตอบกลับมาที่ว่า เราโง่เองที่เอาเงินมาให้ และอย่าคิดว่าจะมีใครช่วยเรื่องนี้เราได้
จนสุดท้ายเราก็ไม่สามารถติดต่อใครได้อีกเลย และเราก็ต้องจ่ายหนี้ก้อนนี้เองทุกบาท อยากถามทุกคนว่าเราโง่เหมือนที่แม่พูดไหม ปล.เรื่องนี้ทำให้เราเป็นซึมเศร้าเพราะเราไม่กล้าจะพูดกับใคร (พ่อกับแม่เลิกกันไม่ดี)