คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.6/10
กำกับโดย: Steven Spielberg
นำแสดงโดย: Tom Hanks, Matt Damon, Tom Sizemore, Edward Burns, Barry Pepper
🌊
เรื่องย่อ
"Saving Private Ryan" เป็นภาพยนตร์สงครามสุดคลาสสิก ที่ได้รับเสียงชื่นชมในระดับตำนาน ด้วยการเปิดฉาก “ยกพลขึ้นบกที่หาด Omaha” ในวัน
D-Day ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในฉากเปิดที่สมจริงและรุนแรงที่สุดในโลกภาพยนตร์
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกองทัพสหรัฐฯ ค้นพบว่า
Private James Francis Ryan (Matt Damon) ทหารพลร่มผู้สูญเสียพี่ชายไปถึง 3 คนในสงคราม ยังคงมีชีวิตอยู่ในสมรภูมิเยอรมนี
เพื่อคืนลูกชายคนสุดท้ายให้กับครอบครัว
กัปตัน John H. Miller (Tom Hanks) จึงได้รับคำสั่งให้นำหน่วยออกเดินทางฝ่ากองทัพนาซีเพื่อตามหา Ryan ให้เจอ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร...
🎞
รีวิวหลังรับชม
✅
จุดเด่นของภาพยนตร์
ฉากเปิดที่กลายเป็นตำนานของวงการภาพยนตร์
ฉากยกพลขึ้นบกที่ Omaha Beach เต็มไปด้วยโคลน เลือด ความกลัว และความโกลาหล ถูกถ่ายทอดอย่างไม่ปรานี ด้วยกล้องสั่น เสียงระเบิดที่บาดหู และภาพที่ชวนขนลุก
การแสดงของ Tom Hanks ที่เปี่ยมด้วยมนุษยธรรม
เขารับบทกัปตันผู้แบกรับภาระที่เกินมนุษย์ธรรมดา ถ่ายทอดความเหนื่อยล้า ความลังเล และความเป็นผู้นำได้อย่างยอดเยี่ยม
โทนหนังสมจริง ไม่สวยหรูเหมือนฮอลลีวูดทั่วไป
ไม่มีฮีโร่ที่ยิงไม่โดน ไม่มีฉากโรแมนติกหรูหรา มีเพียง “ความจริง” ของสงคราม ที่เต็มไปด้วยการเสียสละ ความหวาดกลัว และการตั้งคำถามว่า
“อะไรคือสิ่งที่คุ้มค่าต่อการแลกชีวิต?”
การเล่าเรื่องที่ทรงพลัง ทั้งภาพ เสียง และจังหวะอารมณ์
Spielberg ใช้การเคลื่อนกล้อง การตัดต่อ และดนตรีประกอบน้อย ๆ แต่พอดี เพื่อดึงผู้ชมให้ “เข้าไปอยู่” ในสนามรบ
❌
จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
หนังมีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง
อาจรู้สึกเนือยในช่วงกลางเรื่อง ที่เน้นบทสนทนาและการสร้างตัวละครมากกว่าฉากแอ็กชัน
ความรุนแรงและบาดแผลจิตใจ
ด้วยความสมจริงระดับสูง หนังจึงมีฉากความรุนแรงเลือดสาดและการตายที่ “ไม่โรแมนติก” ซึ่งอาจหนักสำหรับผู้ชมบางคน
🏆
สรุป
"Saving Private Ryan" ไม่ใช่แค่หนังสงคราม — มันคือ
บทกวีแห่งความเสียสละ ที่เต็มไปด้วยคำถามอันเจ็บปวดและการตัดสินใจที่ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงถูกยกย่องว่าเป็น
หนึ่งในหนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล และควรค่าแก่การดูอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เพื่อให้เราเข้าใจว่า...
"สงครามไม่มีผู้ชนะ มีแต่ผู้รอด"
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
รีวิวภาพยนตร์ "Saving Private Ryan" (1998) – ภารกิจชีวิตเดียว แลกกับศักดิ์ศรีของมนุษยชาติ
คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.6/10
กำกับโดย: Steven Spielberg
นำแสดงโดย: Tom Hanks, Matt Damon, Tom Sizemore, Edward Burns, Barry Pepper
🌊 เรื่องย่อ
"Saving Private Ryan" เป็นภาพยนตร์สงครามสุดคลาสสิก ที่ได้รับเสียงชื่นชมในระดับตำนาน ด้วยการเปิดฉาก “ยกพลขึ้นบกที่หาด Omaha” ในวัน D-Day ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในฉากเปิดที่สมจริงและรุนแรงที่สุดในโลกภาพยนตร์
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกองทัพสหรัฐฯ ค้นพบว่า Private James Francis Ryan (Matt Damon) ทหารพลร่มผู้สูญเสียพี่ชายไปถึง 3 คนในสงคราม ยังคงมีชีวิตอยู่ในสมรภูมิเยอรมนี
เพื่อคืนลูกชายคนสุดท้ายให้กับครอบครัว กัปตัน John H. Miller (Tom Hanks) จึงได้รับคำสั่งให้นำหน่วยออกเดินทางฝ่ากองทัพนาซีเพื่อตามหา Ryan ให้เจอ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร...
🎞 รีวิวหลังรับชม
✅ จุดเด่นของภาพยนตร์
ฉากเปิดที่กลายเป็นตำนานของวงการภาพยนตร์
ฉากยกพลขึ้นบกที่ Omaha Beach เต็มไปด้วยโคลน เลือด ความกลัว และความโกลาหล ถูกถ่ายทอดอย่างไม่ปรานี ด้วยกล้องสั่น เสียงระเบิดที่บาดหู และภาพที่ชวนขนลุก
การแสดงของ Tom Hanks ที่เปี่ยมด้วยมนุษยธรรม
เขารับบทกัปตันผู้แบกรับภาระที่เกินมนุษย์ธรรมดา ถ่ายทอดความเหนื่อยล้า ความลังเล และความเป็นผู้นำได้อย่างยอดเยี่ยม
โทนหนังสมจริง ไม่สวยหรูเหมือนฮอลลีวูดทั่วไป
ไม่มีฮีโร่ที่ยิงไม่โดน ไม่มีฉากโรแมนติกหรูหรา มีเพียง “ความจริง” ของสงคราม ที่เต็มไปด้วยการเสียสละ ความหวาดกลัว และการตั้งคำถามว่า “อะไรคือสิ่งที่คุ้มค่าต่อการแลกชีวิต?”
การเล่าเรื่องที่ทรงพลัง ทั้งภาพ เสียง และจังหวะอารมณ์
Spielberg ใช้การเคลื่อนกล้อง การตัดต่อ และดนตรีประกอบน้อย ๆ แต่พอดี เพื่อดึงผู้ชมให้ “เข้าไปอยู่” ในสนามรบ
❌ จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
หนังมีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง
อาจรู้สึกเนือยในช่วงกลางเรื่อง ที่เน้นบทสนทนาและการสร้างตัวละครมากกว่าฉากแอ็กชัน
ความรุนแรงและบาดแผลจิตใจ
ด้วยความสมจริงระดับสูง หนังจึงมีฉากความรุนแรงเลือดสาดและการตายที่ “ไม่โรแมนติก” ซึ่งอาจหนักสำหรับผู้ชมบางคน
🏆 สรุป
"Saving Private Ryan" ไม่ใช่แค่หนังสงคราม — มันคือ บทกวีแห่งความเสียสละ ที่เต็มไปด้วยคำถามอันเจ็บปวดและการตัดสินใจที่ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงถูกยกย่องว่าเป็น หนึ่งในหนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล และควรค่าแก่การดูอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เพื่อให้เราเข้าใจว่า...
"สงครามไม่มีผู้ชนะ มีแต่ผู้รอด"
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐