การอภิวัฒน์การศึกษา 2538
ผลงานของคุณพ่อ สุขวิช รังสิตพล มีความโดดเด่นในการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาทุนมนุษย์ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนมี “อาวุธทางปัญญา” ที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจนและสามารถ “ทำสงครามกับยาเสพติด” ได้อย่างยั่งยืนด้วยสันติวิธี ผลงานสำคัญที่ได้รับการจัดตั้งและสนับสนุนมีดังนี้:
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ใช้ที่ดินที่ดอยแง่มจำนวน 4,997 ไร่ พร้อมงบประมาณในปี 2540 เพื่อสร้างสถาบันการศึกษาที่ทรงคุณค่า
สถาบันราชภัฏในภูมิภาคต่าง ๆ
จัดตั้งสถาบันราชภัฏในจังหวัดร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, ศรีสะเกษ, นครพนม และชัยภูมิ โดยเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2540
สถาบันอาชีวศึกษา
สร้างเครือข่ายสถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศรวมทั้งหมด 278 แห่ง เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ด้านอาชีพ
โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ จำนวน 12 แห่ง
โรงเรียนจุฬาภรณ์ 2 แห่ง, โรงเรียนกาญจนาภิเษก 1 แห่ง และมหาวิทยาลัยมหิดลวิทยานุสรณ์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในระดับที่หลากหลาย
โรงเรียนขยายโอกาส
ตั้งโรงเรียนขยายโอกาสให้กับนักเรียนทั่วประเทศถึง 2,685 แห่ง เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่ด้อยโอกาส
ศูนย์เด็กเล็ก
ขยายจำนวนศูนย์เด็กเล็กจาก 74 แห่งเป็น 3,470 แห่ง ช่วยพัฒนาพื้นฐานการเรียนรู้ตั้งแต่วัยเบื้องต้น
ศูนย์วิทยาศาสตร์ในสถาบันราชภัฏ
จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ 17 แห่งเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์
ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
เปิดให้บริการห้องสมุดทั่วประเทศ 99 แห่ง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2539 ซึ่งเป็นแหล่งความรู้สำคัญให้กับประชาชน
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
จัดตั้งในถนนพหลโยธินในปี 2539 เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม, ศูนย์การเรียนรู้ และห้องสมุดประชาชน
สร้างและสนับสนุนให้มีห้องสมุดในโรงเรียนมัธยมทั้งหมด 2,542 แห่ง พร้อมทั้งศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดประชาชนทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างทั่วถึง
ภาพรวม:
ผลงานทั้งหมดเหล่านี้เป็นการลงทุนใน “อาวุธทางปัญญา” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง ปลดปล่อยจากความยากจน และมีความเข้มแข็งในการต่อต้านปัญหาสังคม เช่น ยาเสพติด โดยใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนและสันติวิธีในสังคมไทย
ผลของการอภิวัฒน์การศึกษา กับรายได้คนไทย
สรุปข้อมูลจากสำนักงานสถิติและธนาคารโลก
1. ข้อมูลจากสำนักงานสถิติ (ปี พ.ศ. 2533-2543)
แนวโน้มรายได้ครัวเรือน:
รายได้ครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 5,625 บาท/เดือนในปี 2533 และเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 12,150 บาท/เดือนในปี 2543
การจำแนกตามภูมิภาค:
กรุงเทพฯและปริมณฑลมีรายได้สูงสุด โดยรายได้ในปี 2543 อยู่ที่ประมาณ 25,242 บาท/เดือน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้ต่ำสุด โดยในปี 2543 อยู่ที่ประมาณ 7,765 บาท/เดือน
การจำแนกตามชนิดอาชีพ:
เกษตรกร (ทั้งที่มีและไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน) และแรงงานทั่วไปแสดงให้เห็นแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของรายได้ แต่ยังคงมีระดับรายได้ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มอาชีพอื่น ๆ
ตัวเลขรายได้ในแต่ละกลุ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ (ต้มยำกุ้ง) ผลกระทบจากวิกฤตไม่ได้หยุดยั้งการเติบโตของรายได้ในระดับบางกลุ่ม
2. ข้อมูลจากธนาคารโลก
ผลกระทบเชิงบวกของการลงทุนด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐาน:
การลงทุนในด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานช่วยลดอัตราความยากจนจาก 21.3% ลงมาเหลือ 11.3%
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการเพิ่มขึ้นของรายได้ถึง 46% ในช่วงปี 2538-2543
ผลลัพธ์ที่ได้:
การลงทุนในทุนมนุษย์ผ่านการพัฒนาการศึกษาช่วยยกระดับทักษะของประชากร ทำให้มีแรงงานที่มีคุณภาพและสามารถรับมือกับภาวะวิกฤตได้ดียิ่งขึ้น
การกระจายความมั่งคั่งที่เกิดจากการลงทุนด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานส่งผลให้เกิดความเสมอภาคในสังคมและลดช่องว่างทางเศรษฐกิจ
สรุปโดยรวม
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของรายได้ครัวเรือนในทุกภูมิภาคและทุกกลุ่มอาชีพในช่วงปี พ.ศ. 2533-2543 แม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปลายทศวรรษ 90
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากธนาคารโลกชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานมีผลกระทบที่ยั่งยืน โดยลดอัตราความยากจนและช่วยเพิ่มรายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยด้อยโอกาส เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งสองแหล่งข้อมูลสนับสนุนแนวคิดว่าการลงทุนในทุนมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล : การDisruption ทางการศึกษา 2538 : รายได้คนไทยสวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
ผลงานทั้งหมดเหล่านี้เป็นการลงทุนใน “อาวุธทางปัญญา” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง ปลดปล่อยจากความยากจน และมีความเข้มแข็งในการต่อต้านปัญหาสังคม เช่น ยาเสพติด โดยใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนและสันติวิธีในสังคมไทย