หลายสัปดาห์ก่อน หลังส่งลูกเข้านอน ผมเดินเข้าไปในห้องทีวี มีศรีภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอทักผมว่า
“สวัสดี กวานชิก” พลางยิ้มแบบมีเลศนัย
ผมคิดในใจ “ใครวะ”
คือรู้ว่ามันต้องเกี่ยวกับซีรีย์เกาหลีที่เธอดูอยู่แน่ๆ
จึงถามว่า ดูเรื่องอะไรอยู่ เธอตอบกลับมาว่า
”มันโรแมนติกมากเลยนะ“
เธอตอบไม่ตรงคำถาม
แต่นั่นคือที่มา ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ดู series เกาหลี When Life Gives You Tangarines ที่ on air ทาง Netflix
นี่คือ series ที่เหมาะกับการดูคนเดียวเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะได้ร้องไห้แบบไม่ต้องกั๊ก และไม่ต้องเกรงใจใคร
โดยเฉพาะคน sensitive (แบบผม) เรื่องครอบครัว จะต้องน้ำตาไหล ไปกับความรัก ความทุกข์ ความสุข ความเศร้า ในทั้ง 16 ตอน ของซีรีย์เรื่องนี้
คนเขียนบท แมร่ง! เก่ง ship หาย สามารถสร้างเรื่องราวความรักของคนสองคนในเกือบทุกช่วงวัย ประหนึ่งกำลังเรียนวิชา สปช. คือ ไล่ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยแก่ ตลอดจนการสู้ชีวิต (แต่ชีวิตสู้กลับตลอด สู้กลับแบบพายุดีเปรสชั่นด้วย)
รวมถึงวิชา สลน. (เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา) ว่าด้วยเรื่องสัจธรรมแห่งชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย (แถมมีเวียนว่ายตายเกิดอีกต่างหาก) ชีวิตมีทุกข์ มีสุข คละเคล้า ปะปนกันไป
นอกจากนี้ ยังมีวิชา กพอ. ที่แสดงให้เห็นถึงการประกอบอาชีพของหลากหลายตัวละครในซีรีย์ ช่องทางทำมาหากิน พร้อมปัญหา อุปสรรค ทำให้เห็นแบบครบเครื่องมาก
ดูเสร็จแทบอยากจะหาซื้อเรือประมงสักลำ เพื่อออกไปจับปลามาให้เมียทำมื้อเย็นให้ลูกกิน
ด้วยความที่ผู้ชมจะได้เห็นชีวิตและความเป็นไปของ “แอซุน“ ผู้เป็นดั่งเข็มทิศนำทางชีวิตที่สดใสให้กับ ”กวานชิก“ ผู้เป็นดั่งเสาเหล็กของครอบครัว
ตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก ยันแก่ ทำให้เราเกิดความผูกพันกับตัวละครเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ประหนึ่งเป็นลูกเป็นหลาน เป็นลูกเขยลูกสะใภ้ เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นปู่ย่าตายาย ฯลฯ เรียกว่าเป็นได้ครบทั้งวงศาคณาญาติของผู้ชมเลยทีเดียว
ดังนั้น เวลาที่ตัวละครเผชิญกับมรสุมชีวิตอะไร เราจึงมีอารมณ์ร่วมมากเป็นพิเศษ
เก่งจริง เก่งจังนะคุณผู้สร้าง series จนอยากให้คณะกรรมการพลังอ่อน เชิญมาสอนวิชาสร้างละครน้ำดีที่บ้านเราบ้างจังเลย
กลับไปที่ “กวานชิก” อยากรู้จริงๆ ว่า จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่จะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้มากและนานขนาดนี้
ขนาดรักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนแก่เฒ่า ยังมีเพียงน้อยนิด แล้วนับประสาอะไรกับรักกันตั้งแต่เด็ก จนตายจากกัน เหมือนใน series
ยิ่งสมัยนี้ ไม่ต้องพูดถึง จะคบกันจนเรียนจบเทอมหรือเปล่า ยังลุ้นแล้วลุ้นอีก
ดังนั้น ตัวละคร “กวานชิก” ใน series เรื่องนี้ จึงออกแนว soap opera มาก แต่เปรียบเหมือนดาบสามคม สำหรับผม
คมแรก “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นคนรักไว้สูงมาก ยอมละทิ้งทุกอย่างในชีวิตของตัวเองเพื่อเธอคนเดียว
ดีนะ ที่เราผ่านช่วงชีวิตเหล่านั้นมาแล้ว ไม่อย่างนั้น ซวยแน่นอน
คมสอง “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นสามีไว้สูงมากๆ สร้างความลำบากให้เหล่าบุรุษมนุษย์สามีเป็นอย่างยิ่ง บอกเลยว่ายากที่จะไปถึงระดับนั้น
จะพยายามรักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับสูงนะ แต่คงไม่ถึงระดับ “กวานชิก” แน่ๆ
ทำใจซะนะ คุณภรรยา
คมสาม “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นพ่อไว้สูงมากเช่นกัน แต่บอกเลยว่า “บ่ยั่น” สำหรับเรื่องนี้
หลายฉากที่ series นำเสนอว่า ลูกสาวในสายตาพ่อเป็นอย่างไร ในชีวิตจริงของผม ก็มองลูกสาวด้วยสายตาแบบนั้นเหมือนกัน (ร้องไห้หนักมากกก เวลาเจอ scene แบบนี้)
สรุปว่า ที่คุณภรรยา เรียกผมว่า “กวานชิก” ในวันนั้น มันหมายความว่าเยี่ยงไร
ข้อ 1 ผมมีพฤติกรรมเหมือน “กวานชิก”
ข้อ 2 เป็นการประชดประชันตัวผม
ข้อ 3 เป็นการปลอบประโลม ให้กำลังใจตัวเธอเอง
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเธอหมายถึงข้อไหน
แต่ไม่เป็นไร ไอ้เรามันคนประเภทคิดบวกอยู่แล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจว่า เธอหมายถึงข้อ 1
ผมต้องดีใจสินะ
.................
เราอาจเคยฟัง “เพลงเพื่อชีวิต” แต่ไม่แน่ใจ มีนิยามของ “ละครเพื่อชีวิต“ หรือเปล่า
ถ้ามี ”ละครเพื่อชีวิต“ เรื่องนี้ ก็อยู่ในลิสต์ GOAT
และถ้าให้นิยาม ละครเรื่องนี้ คงประมาณว่า
“ละมุน อบอุ่น และงดงาม ดั่งดอกไม้ผลิบานในฤดูหนาว“
#กระต่ายป่า#
07/04/2025
เมื่อภรรยาเรียกผมด้วยชื่อชายอื่นว่า ”กวานชิก“ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือร้องไห้ดี
“สวัสดี กวานชิก” พลางยิ้มแบบมีเลศนัย
ผมคิดในใจ “ใครวะ”
คือรู้ว่ามันต้องเกี่ยวกับซีรีย์เกาหลีที่เธอดูอยู่แน่ๆ
จึงถามว่า ดูเรื่องอะไรอยู่ เธอตอบกลับมาว่า
”มันโรแมนติกมากเลยนะ“
เธอตอบไม่ตรงคำถาม
แต่นั่นคือที่มา ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ดู series เกาหลี When Life Gives You Tangarines ที่ on air ทาง Netflix
นี่คือ series ที่เหมาะกับการดูคนเดียวเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะได้ร้องไห้แบบไม่ต้องกั๊ก และไม่ต้องเกรงใจใคร
โดยเฉพาะคน sensitive (แบบผม) เรื่องครอบครัว จะต้องน้ำตาไหล ไปกับความรัก ความทุกข์ ความสุข ความเศร้า ในทั้ง 16 ตอน ของซีรีย์เรื่องนี้
คนเขียนบท แมร่ง! เก่ง ship หาย สามารถสร้างเรื่องราวความรักของคนสองคนในเกือบทุกช่วงวัย ประหนึ่งกำลังเรียนวิชา สปช. คือ ไล่ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยแก่ ตลอดจนการสู้ชีวิต (แต่ชีวิตสู้กลับตลอด สู้กลับแบบพายุดีเปรสชั่นด้วย)
รวมถึงวิชา สลน. (เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา) ว่าด้วยเรื่องสัจธรรมแห่งชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย (แถมมีเวียนว่ายตายเกิดอีกต่างหาก) ชีวิตมีทุกข์ มีสุข คละเคล้า ปะปนกันไป
นอกจากนี้ ยังมีวิชา กพอ. ที่แสดงให้เห็นถึงการประกอบอาชีพของหลากหลายตัวละครในซีรีย์ ช่องทางทำมาหากิน พร้อมปัญหา อุปสรรค ทำให้เห็นแบบครบเครื่องมาก
ดูเสร็จแทบอยากจะหาซื้อเรือประมงสักลำ เพื่อออกไปจับปลามาให้เมียทำมื้อเย็นให้ลูกกิน
ด้วยความที่ผู้ชมจะได้เห็นชีวิตและความเป็นไปของ “แอซุน“ ผู้เป็นดั่งเข็มทิศนำทางชีวิตที่สดใสให้กับ ”กวานชิก“ ผู้เป็นดั่งเสาเหล็กของครอบครัว
ตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก ยันแก่ ทำให้เราเกิดความผูกพันกับตัวละครเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ประหนึ่งเป็นลูกเป็นหลาน เป็นลูกเขยลูกสะใภ้ เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นปู่ย่าตายาย ฯลฯ เรียกว่าเป็นได้ครบทั้งวงศาคณาญาติของผู้ชมเลยทีเดียว
ดังนั้น เวลาที่ตัวละครเผชิญกับมรสุมชีวิตอะไร เราจึงมีอารมณ์ร่วมมากเป็นพิเศษ
เก่งจริง เก่งจังนะคุณผู้สร้าง series จนอยากให้คณะกรรมการพลังอ่อน เชิญมาสอนวิชาสร้างละครน้ำดีที่บ้านเราบ้างจังเลย
กลับไปที่ “กวานชิก” อยากรู้จริงๆ ว่า จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่จะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้มากและนานขนาดนี้
ขนาดรักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนแก่เฒ่า ยังมีเพียงน้อยนิด แล้วนับประสาอะไรกับรักกันตั้งแต่เด็ก จนตายจากกัน เหมือนใน series
ยิ่งสมัยนี้ ไม่ต้องพูดถึง จะคบกันจนเรียนจบเทอมหรือเปล่า ยังลุ้นแล้วลุ้นอีก
ดังนั้น ตัวละคร “กวานชิก” ใน series เรื่องนี้ จึงออกแนว soap opera มาก แต่เปรียบเหมือนดาบสามคม สำหรับผม
คมแรก “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นคนรักไว้สูงมาก ยอมละทิ้งทุกอย่างในชีวิตของตัวเองเพื่อเธอคนเดียว
ดีนะ ที่เราผ่านช่วงชีวิตเหล่านั้นมาแล้ว ไม่อย่างนั้น ซวยแน่นอน
คมสอง “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นสามีไว้สูงมากๆ สร้างความลำบากให้เหล่าบุรุษมนุษย์สามีเป็นอย่างยิ่ง บอกเลยว่ายากที่จะไปถึงระดับนั้น
จะพยายามรักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับสูงนะ แต่คงไม่ถึงระดับ “กวานชิก” แน่ๆ
ทำใจซะนะ คุณภรรยา
คมสาม “กวานชิก” ได้สร้างมาตรฐานการเป็นพ่อไว้สูงมากเช่นกัน แต่บอกเลยว่า “บ่ยั่น” สำหรับเรื่องนี้
หลายฉากที่ series นำเสนอว่า ลูกสาวในสายตาพ่อเป็นอย่างไร ในชีวิตจริงของผม ก็มองลูกสาวด้วยสายตาแบบนั้นเหมือนกัน (ร้องไห้หนักมากกก เวลาเจอ scene แบบนี้)
สรุปว่า ที่คุณภรรยา เรียกผมว่า “กวานชิก” ในวันนั้น มันหมายความว่าเยี่ยงไร
ข้อ 1 ผมมีพฤติกรรมเหมือน “กวานชิก”
ข้อ 2 เป็นการประชดประชันตัวผม
ข้อ 3 เป็นการปลอบประโลม ให้กำลังใจตัวเธอเอง
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเธอหมายถึงข้อไหน
แต่ไม่เป็นไร ไอ้เรามันคนประเภทคิดบวกอยู่แล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจว่า เธอหมายถึงข้อ 1
ผมต้องดีใจสินะ
.................
เราอาจเคยฟัง “เพลงเพื่อชีวิต” แต่ไม่แน่ใจ มีนิยามของ “ละครเพื่อชีวิต“ หรือเปล่า
ถ้ามี ”ละครเพื่อชีวิต“ เรื่องนี้ ก็อยู่ในลิสต์ GOAT
และถ้าให้นิยาม ละครเรื่องนี้ คงประมาณว่า
“ละมุน อบอุ่น และงดงาม ดั่งดอกไม้ผลิบานในฤดูหนาว“
#กระต่ายป่า#
07/04/2025