พระ​พุทธ​ทาส​ ​พูด​เองถูก​ด่า​ เรื่อง​อธิบาย​ วัฏสงสาร​ ​กับ​ นิพพาน​

ที่มาคำเทศน์เฟสบุ๊ค​
ชื่อ​สืบสานงานพระพุทธ​ทาส
เฟสบุ๊ค​นี้
https://www.facebook.com/share/p/1Bs4s2zj78/


เรื่องถัดไปก็คือถูกด่าเพราะการอธิบายเรื่องวัฏสงสารกับนิพพาน วัฏสงสารกับนิพพาน

เป็นเรื่องที่แฝดกันอยู่เสมอ เพราะว่านิพพานเป็นเรื่องสิ้นสุดแห่งวัฏสงสาร

จึงมีเรื่องวัฏสงสารกับเรื่องนิพพานที่เป็นเรื่องสิ้นสุดแห่งวัฏสงสาร

เขากล่าวหาว่าอาตมาอธิบายเรื่องวัฏสงสารผิดจากพระพุทธวจน เพราะว่าเขาต้องการจะอธิบายให้เป็นสามชาติ ชาตินี้ทำกรรม ชาติหน้าได้รับผลกรรม แล้วก็มีกิเลสสำหรับจะทำกรรมต่อไปอีก มันคร่อมกันเป็นชาติๆ

ชนิดที่เข้าโลง เขาเรียกว่าเวียนว่าย ตาย เกิดไปในวัฏสงสาร เป็นชาติชาติๆ ชาติๆ เกี่ยวกันอย่างนั้น เรียกว่าวัฏสงสาร กินเวลาตั้ง 3 ชาติจึงจะได้วัฏสงสารสักวงหนึ่ง
.
ทีนี้อาตมามาศึกษาแล้ว พิจารณาดูแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น

อย่างนั้นมันนานเกินไป กิเลส ทำกรรมแล้วรับวิบากที่ตรงนี้เดี๋ยวนี้ก็เป็นวัฏสงสารได้

ขณะจิตหนึ่ง กลุ่มแรกนี้เป็นกิเลส ขณะจิตกลุ่มถัดมาเป็นการทำกรรม

ขณะจิตกลุ่มถัดมาเป็นการได้รับวิบาก

แล้วมันก็วนกันอยู่อย่างนี้ ถ้าเรามีสติสมบูรณ์เพียงพอเราหยุดชะงักวัฏสงสารนี้ได้

หยุดชะงักกิเลสเสียได้ก็ไม่มีกรรม หรือว่าทำกรรมกันไป แล้วยังหยุดชะงักกรรม

ไม่ยึดถือกรรม มีสติพอ มันก็ยังได้ แปลว่าเราควบคุมวัฏสงสารได้ตามสมควรแก่สติปัญญา ถ้ามีสติปัญญาก็ควบคุมกิเลสได้

นี่เรียกว่าวัฏสงสารมันก็หมดพิษๆ

มันไม่ต้องรอต่อตายแล้วตั้ง 3 ชาติ

ในวันหนึ่งเนี่ยก็มีวัฏสงสารได้หลายๆ วง

เกิดกิเลสทีหนึ่งก็มีวัฏสงสารทีหนึ่ง
แล้วมันก็ครบวงของมันเอง
.
นี่เขาหาว่าคำอธิบายนี้ผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ
เลิกร้างของเก่า

มาตั้งเอาเอง มาว่าเป็นลัทธิใหม่ ก็ตามใจ

เรามีความมุ่งหมายจะให้คนเอาชนะวัฏสงสารให้ได้โดยเร็ว เราไม่ต้องรอกันนานๆ

ให้วัฏสงสารไปไกล นานๆ

อย่างนั้นไม่น่ากลัว ไม่มีพิษร้ายอะไร วัฏสงสารที่ย้ำเอาๆ

มันก็ย้ำหัวตะปูที่นี่และเดี๋ยวนี้

นี่อันตรายมาก ลองรู้จักมันให้ดีๆ ควบคุมมันให้ได้ ป้องกันมันให้ได้

อย่าให้มันเกิดขึ้นมา เนี่ยวัฏสงสารวงหนึ่ง

คำอธิบายในแบบนี้ คือในแบบภาษาธรรม มันจะกินเวลาชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น

ชั่ววินาทีเดียวก็ได้ เป็นวัฏสงสารวงหนึ่ง

ไม่ต้องรอเกิดตาย เกิดตาย เข้าโลงแล้ว

เข้าโลงอีก ตั้ง 3 ชาติจึงจะเป็นวัฏสงสาร

ฉะนั้นในวันหนึ่งๆ มีวัฏสงสารหลายวงเกี่ยวข้องกันไป คล้องกันไป เนื่องกันไป

เพราะมันเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่กันและกันได้

มีกิเลส ทำกรรม รับผลกรรม มันก็มาส่งให้เกิดกิเลสใหม่ มันก็เนื่องกันได้

ฉะนั้นการได้รับผลกรรม มันก็อนุโลมกัน หรือเข้ารูปกันได้กับกรรมแต่หนหลัง

หรือว่ากรรมของวัฏสงสารวงอื่นช่วยปรุงแต่งกรรมในวัฏสงสารวงอื่น

อย่างนี้มันก็เรียกว่าข้ามภพข้ามชาติได้เหมือนกัน

โดยที่คนไม่ต้องตาย วัฏสงสารในความหมายที่จะมีประโยชน์และรีบด่วนมันมีอยู่อย่างนี้

และมันมีผลดีตรงที่ว่าเราจะสามารถควบคุมมันได้ จนกระทั่งว่าสามารถจะตัดมันให้ขาดไปเลย ตัดวัฏสงสารได้
.
พุทธทาสภิกขุ - ธรรมะน้ำล้างธรรมะโคลน (ภาคค่ำ)
ฟังได้ที่
https://drive.google.com/file/d/1OVydUgbON1hTy-nNV4zVkmBg_OJJwrEC/view?usp=drive_link
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่