ตอนนี้ น่าจะชัดเจนแล้วว่า ตัวเลขที่ทรัมป์โมเมขึ้นมาบนกระดานที่โชว์เมื่อวาน
ว่าประเทศต่างๆ รวมถึงไทย เก็บภาษีนำเข้าเอาเปรียบสหรัฐมาโดยตลอด
แต่แท้จริงแล้ว ตัวเลขเหล่านั้นได้มาจากการเอาตัวเลขดุลการค้าที่แต่ละประเทศเกินดุลสหรัฐ หารด้วยมูลค่าส่งออกทั้งหมด
ไม่ได้เกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าที่แต่ละประเทศจัดเก็บจากสหรัฐ
การที่ประเทศไหนจะได้ดุลการค้าเกินดุลประเทศไหน
น่าจะเป็นเรื่องของความสามารถในการแข่งขัน และเรื่องที่ว่าสินค้าของประเทศนั้น เป็นที่ต้องการของประเทศคู่ค้าหรือไม่
เราค้าขายกับสหรัฐ ถ้าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของคนในสหรัฐมากกว่า เค้าก็ซื้อสินค้าจากเรามากกว่า
แต่ถ้าสินค้าที่ผลิตในสหรัฐ เป็นที่ต้องการของคนในประเทศคู่ค้ามากกว่า คนในประเทศนั้นก็ซื้อสินค้าจากสหรัฐมากกว่า
ถ้าสินค้าของสหรัฐ ดีและถูก เป็นที่ต้องการ คนในประเทศอื่นก็จะสั่งซื้อมากๆ เอง
แต่ถ้าขายของดี แต่แพงหูฉี่ แล้วใครอยากจะซื้อ
มันไม่ใช่เรื่องที่ใครเอาเปรียบใคร
ยิ่งตั้งกำแพงภาษีปกป้องการค้าในประเทศ
จะยิ่งทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ ด้อยลง
ทรัมป์กำลังเล่นบทเหยื่อ ประเทศไทยไม่เคยเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐสูงถึง 72%!
ว่าประเทศต่างๆ รวมถึงไทย เก็บภาษีนำเข้าเอาเปรียบสหรัฐมาโดยตลอด
แต่แท้จริงแล้ว ตัวเลขเหล่านั้นได้มาจากการเอาตัวเลขดุลการค้าที่แต่ละประเทศเกินดุลสหรัฐ หารด้วยมูลค่าส่งออกทั้งหมด
ไม่ได้เกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าที่แต่ละประเทศจัดเก็บจากสหรัฐ
การที่ประเทศไหนจะได้ดุลการค้าเกินดุลประเทศไหน
น่าจะเป็นเรื่องของความสามารถในการแข่งขัน และเรื่องที่ว่าสินค้าของประเทศนั้น เป็นที่ต้องการของประเทศคู่ค้าหรือไม่
เราค้าขายกับสหรัฐ ถ้าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของคนในสหรัฐมากกว่า เค้าก็ซื้อสินค้าจากเรามากกว่า
แต่ถ้าสินค้าที่ผลิตในสหรัฐ เป็นที่ต้องการของคนในประเทศคู่ค้ามากกว่า คนในประเทศนั้นก็ซื้อสินค้าจากสหรัฐมากกว่า
ถ้าสินค้าของสหรัฐ ดีและถูก เป็นที่ต้องการ คนในประเทศอื่นก็จะสั่งซื้อมากๆ เอง
แต่ถ้าขายของดี แต่แพงหูฉี่ แล้วใครอยากจะซื้อ
มันไม่ใช่เรื่องที่ใครเอาเปรียบใคร
ยิ่งตั้งกำแพงภาษีปกป้องการค้าในประเทศ
จะยิ่งทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ ด้อยลง