เพจดัง อ้างจดหมาย สตง. เปิดบัญชีรับบริจาค ช่วยเหยื่อตึกถล่ม เรี่ยไรจากคนในองค์กร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9705192
.
.
เพจดัง อ้างจดหมาย สตง. เปิดบัญชีรับบริจาค ช่วยเหยื่อตึกถล่ม เรี่ยไรจากคนในองค์กร จี้ชี้แจงเรื่องสร้างตึกหรู-ใช้เฟอร์นิเจอร์แพง หลายจังหวัดพบตึกทิ้งร้างเพียบ
.
วันที่ 4 เม.ย. 2568 เพจดัง CSILA ได้เปิดเผยข้อมูลอ้างว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้เปิดบัญชีรับบริจาคจากคนในองค์กร เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้เสียหายจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างถล่มลงมา
.
โดยแนบภาพคล้ายจดหมายที่คาดว่ามีการส่งกันภายในองค์กร มีข้อความว่า “ขอเชิญคนตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ได้รับความเสียหายและผลกระทบ จากกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ประสบภัยพิบัติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว”
.
ร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชี “สตง.รินน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว” ธนาคารกรุงไทย สาขากรมสรรพากร บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 184-0-13764-9 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
.
โดยเพจ CSILA ได้โพสต์ตั้งคำถามว่า
.
สตง. เกณฑ์คนในองค์กรบริจาค แต่ยังไม่ตอบว่า “ทำไมตึกต้องหรูขนาดนั้น?” และหลายๆ จังหวัดยังมีตึกของสตง.ร้าง-ทิ้งงานเพียบ หลังเหตุอาคารถล่ม สตง. เร่งระดมเงินช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในภูมิภาคทั่วประเทศ สั่งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแต่ละจังหวัด “ไปแสดงความเสียใจ + มอบเงินช่วย” ด้วยตัวเอง
.
แต่สิ่งที่ยังไม่มีคำตอบคือ…
.
– ทำไมอาคารต้องใช้สุขภัณฑ์ราคาแพงเว่อร์?
– ทำไมต้องมี skylounge และอุปกรณ์หรูเกินความจำเป็น?
– ใครอนุมัติงบตึก 2,300 ล้านนี้?
– และใครคัดเลือกบริษัทจีนทุนต่ำ – ที่สร้างไม่เคยเสร็จตรงเวลา – ให้ชนะประมูล?
.
ตึกของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะ “สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” ซึ่งควรเป็นหน่วยงานที่ยึดมั่นใน “ความประหยัด โปร่งใส และตรวจสอบได้” กลับมีในแบบแปลนว่า ต้องมี Skylounge (สกายเลานจ์) – ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึง พื้นที่พักผ่อนบนชั้นสูงสุด ของอาคารที่เปิดวิวกว้าง คล้ายคอนโดหรูหรือโรงแรมห้าดาว สุดท้าย คนตรวจเงินแผ่นดิน… ต้องมาระดมเงินช่วยเหลือกันเอง
.
https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/pfbid0NsoAc65hLuLd6v9RfdkdAi9LZd2GVH859XFvsZncGU8v14ySs6BauWLDWigqLAFcl
.
.
อังคณา ข้องใจ นายกฯ แลกกับอะไร เชิญ มินอ่องลาย มาไทย โดยไม่ฟังเสียงค้านประชาคมอาเซียน https://www.matichon.co.th/politics/news_5125380
.
อังคณา ข้องใจ นายกฯอิ๊งค์ แลกอะไรเลือกข้างเผด็จการ เชิญ มินอ่องลาย มาไทย โดยไม่ฟังเสียงค้านประชาคมอาเซียน
.
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นางอังคณา นีละไพจิตร ส.ว. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก กรณี พล.อ.อาวุโส มินอ่องลาย เดินทางมาเยือนประเทศไทย ตามคำเชิญของนายกฯ เพื่อร่วมประชุม BIMSTEC โดยว่า
.
“หลังส่งอุยกูร์ให้จีน โดยไม่ฟังเสียงทัดทานขององค์กรสิทธิมนุษยชน รวมถึงองค์การสหประชาชาติ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ก็ได้เชิญ มิน อ่องลาย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมาเข้าประชุม BIMSTEC (Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation – ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ) อย่างเป็นทางการ ทั้งที่รัฐบาลมิน อ่องลาย กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่อพลเรือนเมียนมา
.
ซึ่งหากนับตั้งแต่รัฐประหารในเมียนมาเมื่อ 5 ปีก่อน ทางกองทัพเมียนมาได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งการสังหาร การจับกุมควบคุมตัวโดยพลการ การทรมาน และการบังคับสูญหาย รวมถึงการโจมตีทางอากาศอย่างไม่เลือกเป้าหมาย โดยการโจมตีทางอากาศเพียงอย่างเดียวได้สังหารผู้คนไปมากกว่า 2,600 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน
.
นอกจากนั้นยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญา ทั้งการสังหาร การเผาบ้านเรือน การขับไล่ชาวโรฮิงญาออกจากบ้านของตนเอง และการไม่ปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อ (5 Point Concensus) ของอาเซียนมาใช้ในช่วงวิกฤตมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็นการยุติการใช้กำลังทางทหาร และการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกรณีโรฮิงญา
.
ทั้งนี้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ยื่นเรื่องต่อศาล ICC เพื่อขอหมายจับพลเอกอาวุโสมิน อ่องลาย ในฐานะผู้นำกองทัพเมียนมา ในข้อหาการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crime Against Humanity) กรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) ชาวโรฮิงญา นอกจากนั้น องค์การสหประชาชาติ ยังไม่ยอมรับผู้แทนของรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ในฐานะประเทศสมาชิก จึงเป็นคำถามว่า นายกแพทองธาร คิดอะไร ได้อะไร หรือ แลกเปลี่ยนกับอะไร จึงเลือกข้างเผด็จการทหารเมียนมา โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน และทัดทานของภาคประชาสังคม และประชาคมอาเซียน และทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เมียนมาไม่มีทางที่จะปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของ BIMSTEC ได้เลย ทั้งเรื่องการสร้างสันติภาพ การฟื้นฟู (Resilient) และ เปิดกว้าง (Openness) ทั้งการยอมรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกอย่างสันติในการเรียกร้องประชาธิปไตยของพลเรือน การยุติการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน และบรรดาชนกลุ่มน้อยในเมียนมา รวมถึงการนำคนผิดมาลงโทษ
.
นายกแพ กล่าวในงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำ BIMSTEC ว่าจะร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใส อันนี้ต้องถามต่อว่า อนาคตใคร อนาคตของผู้นำ หรืออนาคตของประชากรในกลุ่มประเทศ BIMSTEC
.
https://www.facebook.com/angkhana.nee/posts/pfbid02BUdwdv1wZbzrjeheEGsHGaMdKaescTsCtWzMVCxRWkHRXMvZyymRALVeLFqgTPe8l
.
.
KKP ห่วง จีดีพีวูบ 1.1% เอฟเฟ็คภาษีทรัมป์ หวั่น ศก.ไทยถดถอย แนะ กนง.หั่นดอก 1.5%
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9705308
.
KKP ห่วง จีดีพีวูบ 1.1% เอฟเฟ็คภาษีทรัมป์ หวั่นศก.ไทยถดถอย แนะ กนง.หั่นดอก 1.5%
.
นาย
พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า หลังการประกาศขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยประเทศไทยโดนเรียกเก็บภาษีถึง 36 % ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอัตราภาษีที่สูงมาก
.
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อาจจะเห็นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หากภาษียังอยู่ในระดับสูง และสหรัฐก็อาจอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอแต่เงินเฟ้อขึ้น หรือ Stagflation แต่ประเทศที่เป็นผู้ส่งออกจะเจอเศรษฐกิจชะลอแต่ราคาสินค้าในประเทศลดลง หรือ deflation.
.
“เราจึงประเมินว่าอัตราภาษีที่สูงมากขนาดนี้ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ทั้งปี เพราะถ้าเก็บอัตราภาษีเท่านี้จริง เชื่อว่าภายในไม่ถึง 1 ปี เศรษฐกิจสหรัฐแย่แน่นอน เงินเฟ้อจะสูงขึ้น เชื่อว่าจะเป็นการขู่ และเรียกคนเข้ามานำเสนอเงื่อนไขที่เขาอยากจะได้”โดยเหตุผลที่สหรัฐใช้นโยบายอัตราภาษีนำเข้า ประเมินว่า มี 5 อย่าง ได้แก่
1. ทรัมป์เชื่อว่าทุกปีนำเข้าสินค้าปีละ 3 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ หากเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สหรัฐมีรายได้ปีละ 100-400 พันล้านดอลลาร์
2. หากเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจะเป็นการขู่นักลงทุนที่ผลิตสินค้าและย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ จะย้ายกลับมาที่สหรัฐเพื่อเสริมสร้างการลงทุนในภาคการผลิต
3. ทรัมป์มองว่าการขาดดุลการค้า เป็นการถูกเอาเปรียบ จึงต้องทำให้เกิดสมดุลการค้ามากขึ้น
4. ใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับจีน
5. ใช้เป็นเครื่องมือการต่อรองและแลกเปลี่ยนผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งการเจรจาจะแตกต่างกันไปแต่ละประเทศ
.
“เชื่อว่าอัตราภาษีคงไม่มีโอกาสที่จะกลับไปอยู่ในระดับเดิม แต่คงไม่ได้อยู่ในระดับที่เราพูดถึงอยู่ปัจจุบัน สุดท้ายเจรจาแล้วค่าเฉลี่ยอัตราภาษีอาจจะลงมาอยู่ที่ 5-10 % อย่างที่ทรัมป์พยายามจะเก็บกับทุกประเทศ ยกเว้นว่ามีการตอบโต้กันเกิดขึ้นหรือทรัมป์ไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ”
.
โดยทรัมป์พูดชัดเจนว่าหากให้ลดอัตราภาษีลงให้แต่ละประเทศทำ 5 อย่าง
1. นำสินค้ามาผลิตในสหรัฐ
2. แต่ละประเทศต้องไปลดภาษีนำเข้าที่แพงลง
3. ลดมาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ ที่ไม่ใช่ภาษีนำเข้าลง
4. อย่างแทรกแซงค่าเงิน
5. ซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มเติม
.
อย่างไรก็ตามหากมีการเก็บภาษีนำเข้าแบบนี้อยู่ตลอดทั้งปี ประเมินว่าผลกระทบทางตรงผ่านการส่งออกในเอเซียทั้งหมดประมาณ อยู่ที่ 0.6% ขณะที่ประเทศไทยผลกระทบจะสูงกว่าประเทศอื่นๆ ประมาณ 1.1 % ต่อจีดีพีเนื่องจากสัดส่วนการส่งออกของไทยต่อจีดีพีมีค่อนข้างสูง
.
ดังนั้นทางเลือกของประเทศไทยประเมินว่ามีอยู่ 3 ทางเลือก 1. สู้ (retaliate แบบ แคนาดา ยุโรป หรือจีน) อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะเราพึ่งพาสหรัฐมากกว่าสหรัฐพึ่งพาเราแน่นอน หากเรา retaliate เราอาจจะเหนื่อยกว่าเดิม 2. ทน (tolerate) อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นกัน ถ้าเราหาทางออกไม่ได้ ก็คงต้องทน ซึ่งจะทนได้หรือไม่หากผลกระทบจะทำให้จีดีพีไทยลดลงกว่า 1.1 %
.
หมอบ (negotiate) คือ เจรจาหาทางลงที่สหรัฐพอใจ อาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เช่น ปรับลดภาษีที่เราเก็บเขาสูง ๆ ยอมเปิดตลาดที่เราปกป้องอยู่ ลดภาษีศุลกากร เช่น เนื้อสัตว์ อาหาร เกษตรกรรม และอาจจะต้องนำเสนอทางออกให้สหรัฐอีก เช่น การนำเข้าพลังงาน นำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่มเติม นำเข้าสินค้าใหญ่ ๆ อย่างเครื่องบิน อาวุธ เครื่องจักร หรือต้องหาทางเพิ่มการลงทุนในสหรัฐ เราอาจจะต้องเปิดเสรีด้านต่าง ๆ ที่สหรัฐบ่นมาตลอด เช่น บริการทางการเงิน การคุ้มครองสิทธิทางปัญญา ประเด็นสิทธิของแรงงาน
.
“หากมีการไปเจรจาผลกระทบต่อจีดีพีอาจจะน้อยลง แน่นอนว่าการโดนภาษีจะกระทบต่อผู้ส่งออก แต่พอเราไปเจรจาแปลว่าเราเอาภาคอื่นไปเสนอให้สหรัฐเพื่อให้เขาลดผลกระทบต่อผู้ส่งออก ดังนั้นการเจรจาจะมี 2 ระดับ ได้แก่ เจรจาภายนอก กับสหรัฐ และเจรจาภายใน ผลกระทบตอนนี้คือผู้ส่งออก ถ้าเราเอาภาคอื่นไปแลก เขาจะยอมแลกกับเราด้วยหรือไม่”
.
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงผลกระทบอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐ ไทยอาจจะต้องมีนโยบายเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้นทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีการปรับลดออัตราดอกเบี้ยในปีนี้อีก 2 ครั้ง ไปอยู่ที่ 1.50% และปีหน้าอีก 1 ครั้ง ไปอยู่ที่ 1.25 % และมีโอกาสดอกเบี้ยนโยบายลงไปต่ำกว่า 1.25 % หากอัตราภาษีที่สูงยังอยู่อีกนาน
.
“ทั้งนี้เชื่อว่าผลกระทบไทยโดนเยอะ และมีโอกาสที่ไทยเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ หากยังโดนภาษีที่สูง หรือยังเจรจาไม่ได้ และการส่งออกหากยังรุนแรง เศรษฐกิจไทยที่ตั้งไว้ที่ 2.3 % ลดลงไปเหลือเพียง 1 % กว่าๆ ในบางไตรมาสไทยอาจจะเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้”
JJNY : เพจดังอ้างจดหมาย สตง.เปิดบัญชีรับบริจาค│อังคณาข้องใจเชิญมินอ่องลาย│KKPห่วงจีดีพีวูบ หวั่นศก.ถดถอย│ถอดถอนปธ.ยุน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9705192
.
– ทำไมอาคารต้องใช้สุขภัณฑ์ราคาแพงเว่อร์?
– ทำไมต้องมี skylounge และอุปกรณ์หรูเกินความจำเป็น?
– ใครอนุมัติงบตึก 2,300 ล้านนี้?
– และใครคัดเลือกบริษัทจีนทุนต่ำ – ที่สร้างไม่เคยเสร็จตรงเวลา – ให้ชนะประมูล?
https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/pfbid0NsoAc65hLuLd6v9RfdkdAi9LZd2GVH859XFvsZncGU8v14ySs6BauWLDWigqLAFcl
.
.
อังคณา ข้องใจ นายกฯ แลกกับอะไร เชิญ มินอ่องลาย มาไทย โดยไม่ฟังเสียงค้านประชาคมอาเซียน https://www.matichon.co.th/politics/news_5125380
.
.
KKP ห่วง จีดีพีวูบ 1.1% เอฟเฟ็คภาษีทรัมป์ หวั่น ศก.ไทยถดถอย แนะ กนง.หั่นดอก 1.5%
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9705308
.
KKP ห่วง จีดีพีวูบ 1.1% เอฟเฟ็คภาษีทรัมป์ หวั่นศก.ไทยถดถอย แนะ กนง.หั่นดอก 1.5%
.
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า หลังการประกาศขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยประเทศไทยโดนเรียกเก็บภาษีถึง 36 % ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอัตราภาษีที่สูงมาก
.
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อาจจะเห็นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หากภาษียังอยู่ในระดับสูง และสหรัฐก็อาจอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอแต่เงินเฟ้อขึ้น หรือ Stagflation แต่ประเทศที่เป็นผู้ส่งออกจะเจอเศรษฐกิจชะลอแต่ราคาสินค้าในประเทศลดลง หรือ deflation.
.
“เราจึงประเมินว่าอัตราภาษีที่สูงมากขนาดนี้ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ทั้งปี เพราะถ้าเก็บอัตราภาษีเท่านี้จริง เชื่อว่าภายในไม่ถึง 1 ปี เศรษฐกิจสหรัฐแย่แน่นอน เงินเฟ้อจะสูงขึ้น เชื่อว่าจะเป็นการขู่ และเรียกคนเข้ามานำเสนอเงื่อนไขที่เขาอยากจะได้”โดยเหตุผลที่สหรัฐใช้นโยบายอัตราภาษีนำเข้า ประเมินว่า มี 5 อย่าง ได้แก่
1. ทรัมป์เชื่อว่าทุกปีนำเข้าสินค้าปีละ 3 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ หากเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สหรัฐมีรายได้ปีละ 100-400 พันล้านดอลลาร์