ก็ผ่านพ้นกันไปได้สักพักแล้วนะครับกับงานคอนเสิร์ต BNK48 & CGM48: Battle of Legacy ก็เป็นคอนใหญ่ของ 48 ไทย ที่จัดขึ้นก่อนงาน GE ให้แฟนคลับสนุกก่อนที่จะไปเครียดกับผลเลือกตั้ง ฮ่า ๆ แต่เรื่องงานเลือกตั้งขอละไว้แล้วกัน มาโฟกัสกันที่งานคอนฯ กันดีกว่าว่าผ่านไป 8 ปีแล้ว มันมีการพัฒนามากขึ้นไหม เพราะตัวผู้เขียนเองเคยไปดูคอน 48 ล่าสุดก็ต้องย้อนไปยังงาน Space Mission Concert กันเลยทีเดียว และล่าสุดในคอน Battle of Legacy ก็ได้มีโอกาสได้ไปรับชมเสียที ที่มาได้ก็เพราะราคาบัตรที่เข้าถึงรากหญ้ามากขึ้นนี่แหละครับ (ถึงจะไม่ได้ Benefit อะไรก็เถอะ) 5555
ตัวงานจัดที่ยูเนี่ยนฮอลล์ก็เป็นสถานที่ที่หลายคนอยากให้จัดตรงนี้กัน แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพวกแบคดรอปให้ถ่ายรูปนะ จะมีก็แต่ป้ายเมมเบอร์ที่แต่ละด้อมมาวางไว้ให้ถ่ายรูปแทน เปิดหัวงานมาก็เจอสองกัปตัน ฮูพ กับ ลูกเกด มาประกาศกฎกติกาการรับชมและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครับ
พอเสร็จสิ้นพิธีการ ความสนุกก็เริ่มต้นทันทีด้วยการเปิดตัวของวง Quadlips ที่มาเป็นเกสต์โชว์เปิดให้ก็รู้สึกได้ว่าทำถึงมากครับ สนุกดี ถึงจะรู้จักแค่เพลง Overdrive อย่างเดียวก็ตาม แต่เพลงที่เหลืออย่าง Lipstick กับ Lipgloss ก็ทำให้รู้สึกคึกคัก อินเตอร์ดีครับ เหมาะกับการเปิดหัวด้วยความสนุกสนาน ตอนแรกก็ดูแต่น้องเฟม แต่กลายเป็นว่ามีอีกหนึ่งสมาชิกที่ดึงสายตาไปได้ก็เป็นน้องที่มาจากอินโดฯ (ขออภัย จำชื่อไม่ได้ครับ) ไปซะอย่างงั้น ฮ่า ๆ
จบจาก Quadlips ไปแล้วก็ได้เวลาสาว ๆ BNK เปิดก่อนด้วย Green Flash ซิงเกิลล่าสุด ตามด้วยซิงเกิลล่าสุด Totsuzen Do love me! ของ CGM จากนั้นก็สลับเพลงรองอีกสองเพลงโชว์กันไป ก็ทำได้ดีโดยเฉพาะ Saikyou Twintail ที่ยังดูน่ารัก ดูสนุกทุกครั้งที่โชว์ หรือ GAGAGA เองที่ครั้งนี้รู้สึกว่าน้อง แนล โดดเด่นขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะเปลี่ยนทรงผมรวบผมดูเซ็กซี่ขึ้นมากครับ
พอจบเพลงหลักเพลงรองไปแล้ว ความเดือดของคอนก็เริ่มจะปะทุขึ้นครับ เมื่อเพลง Dare no Koto wo Ichiban Aishiteru? ที่หนึ่งตรงนั้น เป็นฉันได้ไหม? เปิดขึ้นมา พร้อมกับเมมเบอร์ทั้งสองวงขึ้นมาฟูลทีม เต็มเวที ด้วยเพลงที่มีความแข่งขัน ก็เข้ากับบรรยากาศในช่วงเวลานั้นกับการเลือกตั้ง GE บวกกับเมมเบอร์ทั้งหมดยืนเต็มเวที ทำให้ภาพที่ออกมาดูทรงพลังมาก ๆ ขึงขังสุด แถมภาพกราฟิกประกอบบนจอเป็นหัวใจที่มีวงเวทย์ล้อมรอบก็ช่วยบิ้วท์บรรยากาศให้ซีเรียสด้วย อันนี้ดีงามครับ
พอจบความเดือดไปก็พักอารมณ์ Cooldown กันด้วย MC นิดหน่อย แล้วก็ต่อด้วยเพลงสายร้อง Jigsaw Puzzle 48 ก็สืบทราบมาว่าเป็นเพลงจาก Stage RESET ของ CGM โดยได้ นีน่า มารับหน้าที่นี้ ก็เป้นครั้งแรกครับที่เคยได้ฟัง ซึ่ง นีน่า ก็ทำออกมาได้เพราะ แม้ว่าช่วงแรกเริ่มจะดูไม่ค่อยมั่นใจ แต่หลังจาก Verse 2 ขึ้นไปดูเหมือนจะมั่นใจขึ้น ร้องเต็มเสียง อาจจะเป็นเพราะถอดอินเอียร์ออกรึเปล่าก็ไม่ทราบได้ ยังกับว่าปลดพลังแรงดันวิญญาณออกมา 5555
กับอีกเพลง ฉันต้องนอนร้องไห้ ที่ได้ แจนรี่ เมมเบอร์สายรั่ว เอ้ย สายร้องที่มาทำหน้าที่นี้ ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ได้ฟังเพลงออริจินัลสเตจครับ น้องแจนรี่ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้เศร้า ทำให้อินไปกับเพลงครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ฟังละอยากฟังอีกหลาย ๆ รอบเลย
ทั้งสองเพลงนี้ทั้ง นีน่า กับ แจนี่ มาในชุดสีขาว ซึ่งบอกเลยว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เพลงช้า ๆ จบไปสอง ก็น่าจะต้องเพิ่มความคึกคักกันบ้างเดี๋ยวจะยมไปซะก่อน ถัดมาเป็นทีของเพลง Bloom ก็เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟีลเพลงฝรั่งยุคปี 2010 กลาง พวกวัยรุ่นฟลอริด้า 5555 แต่ก็มีความไทยผสมไปด้วย สนุกเลยครับ เท่าที่เห็นด้วยสายตาก็มี พีค ลูกเกด ลาติน เต้นมันส์ดี ส่วนคนอื่นมองไม่ชัดเท่าไหร่ครับว่ามีใครบ้าง
ถึงเพลง Bloom จะสนุก แต่........ตอนเริ่มต้นเพลงมันได้เกิดความนรกของทีมงานเบื้องหลังที่ไม่รู้ว่าผิดคิวกันหรือลืมเปิดเพลงให้น้องกันแน่ อุตส่าห์ขึ้นท่อนร้องมาสวย ๆ แท้ ๆ แต่ดนตรีไม่ตามมา ทำให้เมมเบอร์เต้นแบบไร้เสียงแห้ง ๆ ครั้งแรกยังพอทน แต่ครั้งที่ 2 ยังมี ครั้งที่ 3 ยังมา ซึ่งครั้งที่ 4 นี่ไม่ควรละ มันเกิดอะไรขึ้นกันครับเนี่ย จินตนาการไม่ออกเลยว่าน้องบนเวทีจะรู้สึกยังไง ก็เป็นความผิดพลาดไม่รู้จบของทีมงานล่ะนะ เฮ้อออ
เพลงต่อไปก็น่าจะเป็นเพลงจาก Stage อยู่ครับอย่าง Kanojo ni Naremasu ka? ขอเป็นแฟนเธอได้ไหม?, Return Match, Dokugumo แมงมุมพิษ ก็เป็นการฟังครั้งแรกที่รู้สึกกลาง ๆ ครับ อาจจะมีเพลงแมงมุมพิษที่ดูน่าสนใจหน่อย
พอจบจากเพลงที่ว่ามาข้างต้น ก็เข้าสู่ช่วง MC อีกครั้งให้พักหายใจหายคอทั้งเมมฯและแฟนคลับกันบ้าง โดย MC รอบนี้ตลกดีครับ มีแบทเทิลกันขำ ๆ แป้ก ๆ แต่มันขำที่ความแป้กและความที่ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันนี่แหละ นอกจากนี้ชุดของ MC ที่ออกมาก็คลุมชุดดำกันหมดราวกับว่าไม่อยากสปอยเพลงต่อไป แต่ที่ไหนได้ ไข่หวานก็เผยชุดให้เห็นนิดหน่อยไปเลย แต่ถึงจะเห็นเราก็เดาไม่ถูกหรอกครับ 5555
จบ MC หรรษาไปก็เหมือนว่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่เดือดระอุอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ เมื่ออินโทรเพลงที่เหมือน Make Noise บรรเลงขึ้น แต่มันเป็นอินโทรที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เหมือนกับว่าจะพาคนดูเข้าสู่สนามรบที่เลือดพล่าน ก็เป็นอะไรที่ฮึกเหิมดี จากนั้น Make Noise ก็เข้าสู่เพลงเต็มรูปแบบนำโดย ฮูพ ทั้งเพลง การเพอร์ฟอร์มบนเวที ก็คงความยอดเยี่ยม ส่วนตัวเป็นเพลงที่ชอบอยู่แล้ว ก็ยิ่งชอบขึ้นไปอีก ส่วนจอบนเวทีก็ถูกย้อมเป็นสีขาวดำด้วย เท่มาก เป็นการเพิ่มบรรยากาศได้ดีเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอ Make Noise ว่าเดือดแล้ว เพลงถัดมาก็ยกระดับไปอีกกับ Must Be Now นำทีมโดย เอิร์น ที่ยังคงทำหน้าที่ได้ดุเดือด โคตรเท่ โคตรอันตราย อีกเมมเบอร์ที่น่าจับตามองมากก็คือ วาว่า นี่แหละทางของน้อง แล้วก็ที่ต้องชมมาก ๆ เลยก็คือกราฟิกบนหน้าจอเวที ก็มีการขึ้นฟ้อนท์ Must Be Now แบบเท่ ๆ มันช่วยส่งอารมณ์เพลงให้เติมเต็มสมบูรณ์แบบมากขึ้น อลังการ เรียกได้ว่าสองเพลงนี้กะเอาตายเลยทีเดียว
เสริมเล็กน้อยกับ Make Noise และ Must Be Now ก็จะมีเมม BNK กับ CGM ผสมกันด้วย แล้วก็น่าจะเป็นดนตรีสดด้วยครับ โคตรมันส์!!!
พอหมดเพลงเต้นไปแล้ว ก็จะเข้าโหมดสลับเพลงกันเต้นครับ มาพร้อมกับ Kibouteki Refrain ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอลองมองดูดี ๆ อ้าวนี่มันเมม CGM หมดเลยนี่หว่า ก็ให้ความแปลกตาไปอีกแบบครับ แต่ที่แปลกตาไปกว่านั้นก็คือเพลงต่อมาก็คือ LOVE TRIP ที่เป็นเมมเบอร์ BNK มาเต้นก็น่ารักมากครับ แถมยังได้โยเกิร์ต เป็นเซ็นเตอร์ด้วย ก็ทำให้บรรยากาศเวทีดูน่ารักไปซะหมด ฮ่า ๆ
หมดจากช่วงสลับเพลงกันก็เป็นเพลง UHHO UHHOHO ที่เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โกลาหล น้อง ๆ กระโดดโลดเต้น แบบไม่มีแพทเทิร์นอะไรเลย แต่มันก็เป็นความวุ่นวายที่มันส์ดีครับ เหมือนน้องมาปล่อยผีปลดปล่อยความเครียดจากเพลงนี้ แก๊งลิงก็จัดเต็มความวายป่วงระดับหัวจ่าย น้องมามิ้งค์ก็เอากับเขาด้วยเรอะ!! แล้วนั่นอะไรล่ะนั่น มีต่อตัวยกลิฟท์ด้วยเฮ้ยยย 555555 อย่างชอบ ทำเอาอยากเข้าไปดู Stage RESET เลย
ความวายป่วงจาก CGM คงไม่พอ ทาง BNK ก็เอากับเขาบ้างกับเพลง เด็กดื้อย์ ก็จัดหนักความโจ๊ะแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน แถมพอจบเพลงก็มีเหล่าเมมเบอร์ทั้งหมดมาร่วมม่วนจอยกันด้วย ยังไม่พอมีมุกเล่นเพลงซ้ำโช้คกันต่อเนื่อง จนน้อง ๆ บอกว่าพอได้แล้ววว โดยเฉพาะ ฮูพ ที่บ่นว่าเหนื่อย แต่พอเพลงมาก็เต้นยับ จนท้ายที่สุด ลูกเกดก็มาพูดสรุปก่อนจะจากลากันไป........ซึ่งก็แน่นอนแหละว่าความมันส์ยังไม่จบเพียงแค่นี้ครับ
เมมเบอร์ลงจากเวที ไฟเวทีดับลง เหลือไว้เพียงแต่แฟนคลับกับความเงียบ แฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ต่างก็รู้ดีว่ามันยังมีบางอย่างรอพวกเขา/เธออยู่ เวลาผ่านไปสักพักก็มีเสียง อังกอรุ! โผล่มา ก็เป็นสัญญาณว่าเดี๋ยวก็มีเมมเบอร์ขึ้นมาแสดงอีกนั่นเอง และแล้วพวกเธอก็ขึ้นเวทีมาพร้อมกับเสียงหวีดร้องของแฟน ๆ ที่หนักกว่าเดิม ใช่แล้วครับมันคือเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการโชว์เพลง RUMOR แบบเต็มระบบกันเสียที
เพลง RUMOR ก็เรียกว่าเป็นเพลงลึกลับที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้น มันเริ่มตั้งแต่งาน Circle Jam ที่ทำให้หลายคนเห็นว่าเพลงนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ใน 48TH นะ และเป็นการแจ้งเกิดของน้องโมเน่ต์ไปด้วย ด้วยเสียงเรียกร้องว่าอยากเห็นอีก ทาง อฟช. ก็เลยจัดหาด้วยวิธีการพิเศษผ่านการโหวตผ่าน Event Request Hour ซึ่งใครที่ได้ไปรับชมก็จะได้เห็นโชว์อีกครั้ง พร้อมกับการเป็นซิงเกิลพิเศษไปเลย
กลับมาที่โชว์ในงานก็เรียกได้ว่าเป็นหลากหลายความรู้สึกเลยล่ะครับ มันทั้งสนุก มันส์ ดีใจที่ได้เห็นเพลงนี้แบบทางการเสียที มีชุดเซ็ม มี MV ด้วย ซึ่งเพอร์ฟอร์มบนเวทีก็โหดจัด เต้นกันยับ อินเลยครับ แถมดนตรีก็น่าจะเป็นดนตรีสดด้วย มันเลยช่วยขับเน้นความมันส์มากขึ้น เสียงกลอง เสียงเบส อย่างเร้าเลย แต่เท่านั้นก็คงยังไม่พอหรอก เพราะระหว่างโชว์เหล่าแฟนคลับก็มีการโยนกระดาษหนังสือพิมพ์ด้วย เป็นจังหวะที่เพอร์เฟคมาก เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ๆ เลยครับ อีกอย่างที่อยากพูดถึงก็คือสีหน้าของโมเน่ต์เวลาเต้น รับรู้ได้เลยว่าน้องมีความสุขที่ได้เต้นได้แสดงบนเวที มันคือสิ่งที่น้องฝันไว้จริง ๆ ชอบนะการที่เมมเบอร์ส่งออร่าความสุขออกมา มันทำให้คนดูรู้สึกถึงความรู้สึกนั้นได้ชัดเจนเลย
พอจบความมันส์ของ RUMOR ไปก็เป็นช่วงสุดท้ายจริง ๆ ที่มีเพลง Kiss Me, มะลิ และ น่ายักแบบนี้ เป็นของเธอนะ ก็จะมีเมมเบอร์ทั้ง BNK และ CGM เดินลงมาหาแฟนคลับให้ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอก่อนจะจากลากันไปแบบฟิน ๆ ครับ
สรุปแล้วคอนเสิร์ต Battle of Legacy รอบนี้ทำได้สนุก มันส์ ส่วนตัวชอบ Dare No + Make Noise + Must Be Now + RUMOR ยิ่งใช้ดนตรีสดอีกก็ยิ่งชอบเช้าไปอีกครับ (ความเดือดก็ฟีลฉากแอ็คชั่นใน John Wick 4 เลย) แต่ว่าคอนเซ็ปต์การ Battle รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เหมือนสลับเพลง แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันมากกว่า มีข้อผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยกับเพลง Bloom แต่ชอบกราฟิกบนหน้าจอเวทีนะ รู้สึกทำได้ดีเข้ากับเพลงนั้น ๆ รวม ๆ แล้วมีความประทับใจมากกว่าความผิดหวังครับ การได้เห็นโชว์ RUMOR ก็เป็นอะไรที่ตายตาหลับได้เลย ประหนึ่งว่าได้เห็น Steve Rogers พูดคำว่า Avengers Assemble ใน Endgame ยังไงยังงั้นครับ
รูปภาพ: Brickinfo Channel (
https://www.facebook.com/BrickinfoCH/posts/pfbid032NbzZrR46yoGTjPawaiB13bKYqPA8TS5DLTwm5SrsJoZgeSbAVNGXJ87tGKFb8g1l)
ความรู้สึกหลังชม BNK48 & CGM48 Concert: Battle of Legacy ศึกไอดอลเมืองกรุง & เมืองเหนือ มันส์ เดือด มาก
ตัวงานจัดที่ยูเนี่ยนฮอลล์ก็เป็นสถานที่ที่หลายคนอยากให้จัดตรงนี้กัน แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพวกแบคดรอปให้ถ่ายรูปนะ จะมีก็แต่ป้ายเมมเบอร์ที่แต่ละด้อมมาวางไว้ให้ถ่ายรูปแทน เปิดหัวงานมาก็เจอสองกัปตัน ฮูพ กับ ลูกเกด มาประกาศกฎกติกาการรับชมและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครับ
พอเสร็จสิ้นพิธีการ ความสนุกก็เริ่มต้นทันทีด้วยการเปิดตัวของวง Quadlips ที่มาเป็นเกสต์โชว์เปิดให้ก็รู้สึกได้ว่าทำถึงมากครับ สนุกดี ถึงจะรู้จักแค่เพลง Overdrive อย่างเดียวก็ตาม แต่เพลงที่เหลืออย่าง Lipstick กับ Lipgloss ก็ทำให้รู้สึกคึกคัก อินเตอร์ดีครับ เหมาะกับการเปิดหัวด้วยความสนุกสนาน ตอนแรกก็ดูแต่น้องเฟม แต่กลายเป็นว่ามีอีกหนึ่งสมาชิกที่ดึงสายตาไปได้ก็เป็นน้องที่มาจากอินโดฯ (ขออภัย จำชื่อไม่ได้ครับ) ไปซะอย่างงั้น ฮ่า ๆ
จบจาก Quadlips ไปแล้วก็ได้เวลาสาว ๆ BNK เปิดก่อนด้วย Green Flash ซิงเกิลล่าสุด ตามด้วยซิงเกิลล่าสุด Totsuzen Do love me! ของ CGM จากนั้นก็สลับเพลงรองอีกสองเพลงโชว์กันไป ก็ทำได้ดีโดยเฉพาะ Saikyou Twintail ที่ยังดูน่ารัก ดูสนุกทุกครั้งที่โชว์ หรือ GAGAGA เองที่ครั้งนี้รู้สึกว่าน้อง แนล โดดเด่นขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะเปลี่ยนทรงผมรวบผมดูเซ็กซี่ขึ้นมากครับ
พอจบเพลงหลักเพลงรองไปแล้ว ความเดือดของคอนก็เริ่มจะปะทุขึ้นครับ เมื่อเพลง Dare no Koto wo Ichiban Aishiteru? ที่หนึ่งตรงนั้น เป็นฉันได้ไหม? เปิดขึ้นมา พร้อมกับเมมเบอร์ทั้งสองวงขึ้นมาฟูลทีม เต็มเวที ด้วยเพลงที่มีความแข่งขัน ก็เข้ากับบรรยากาศในช่วงเวลานั้นกับการเลือกตั้ง GE บวกกับเมมเบอร์ทั้งหมดยืนเต็มเวที ทำให้ภาพที่ออกมาดูทรงพลังมาก ๆ ขึงขังสุด แถมภาพกราฟิกประกอบบนจอเป็นหัวใจที่มีวงเวทย์ล้อมรอบก็ช่วยบิ้วท์บรรยากาศให้ซีเรียสด้วย อันนี้ดีงามครับ
พอจบความเดือดไปก็พักอารมณ์ Cooldown กันด้วย MC นิดหน่อย แล้วก็ต่อด้วยเพลงสายร้อง Jigsaw Puzzle 48 ก็สืบทราบมาว่าเป็นเพลงจาก Stage RESET ของ CGM โดยได้ นีน่า มารับหน้าที่นี้ ก็เป้นครั้งแรกครับที่เคยได้ฟัง ซึ่ง นีน่า ก็ทำออกมาได้เพราะ แม้ว่าช่วงแรกเริ่มจะดูไม่ค่อยมั่นใจ แต่หลังจาก Verse 2 ขึ้นไปดูเหมือนจะมั่นใจขึ้น ร้องเต็มเสียง อาจจะเป็นเพราะถอดอินเอียร์ออกรึเปล่าก็ไม่ทราบได้ ยังกับว่าปลดพลังแรงดันวิญญาณออกมา 5555
กับอีกเพลง ฉันต้องนอนร้องไห้ ที่ได้ แจนรี่ เมมเบอร์สายรั่ว เอ้ย สายร้องที่มาทำหน้าที่นี้ ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ได้ฟังเพลงออริจินัลสเตจครับ น้องแจนรี่ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้เศร้า ทำให้อินไปกับเพลงครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ฟังละอยากฟังอีกหลาย ๆ รอบเลย
ทั้งสองเพลงนี้ทั้ง นีน่า กับ แจนี่ มาในชุดสีขาว ซึ่งบอกเลยว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เพลงช้า ๆ จบไปสอง ก็น่าจะต้องเพิ่มความคึกคักกันบ้างเดี๋ยวจะยมไปซะก่อน ถัดมาเป็นทีของเพลง Bloom ก็เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟีลเพลงฝรั่งยุคปี 2010 กลาง พวกวัยรุ่นฟลอริด้า 5555 แต่ก็มีความไทยผสมไปด้วย สนุกเลยครับ เท่าที่เห็นด้วยสายตาก็มี พีค ลูกเกด ลาติน เต้นมันส์ดี ส่วนคนอื่นมองไม่ชัดเท่าไหร่ครับว่ามีใครบ้าง
ถึงเพลง Bloom จะสนุก แต่........ตอนเริ่มต้นเพลงมันได้เกิดความนรกของทีมงานเบื้องหลังที่ไม่รู้ว่าผิดคิวกันหรือลืมเปิดเพลงให้น้องกันแน่ อุตส่าห์ขึ้นท่อนร้องมาสวย ๆ แท้ ๆ แต่ดนตรีไม่ตามมา ทำให้เมมเบอร์เต้นแบบไร้เสียงแห้ง ๆ ครั้งแรกยังพอทน แต่ครั้งที่ 2 ยังมี ครั้งที่ 3 ยังมา ซึ่งครั้งที่ 4 นี่ไม่ควรละ มันเกิดอะไรขึ้นกันครับเนี่ย จินตนาการไม่ออกเลยว่าน้องบนเวทีจะรู้สึกยังไง ก็เป็นความผิดพลาดไม่รู้จบของทีมงานล่ะนะ เฮ้อออ
เพลงต่อไปก็น่าจะเป็นเพลงจาก Stage อยู่ครับอย่าง Kanojo ni Naremasu ka? ขอเป็นแฟนเธอได้ไหม?, Return Match, Dokugumo แมงมุมพิษ ก็เป็นการฟังครั้งแรกที่รู้สึกกลาง ๆ ครับ อาจจะมีเพลงแมงมุมพิษที่ดูน่าสนใจหน่อย
พอจบจากเพลงที่ว่ามาข้างต้น ก็เข้าสู่ช่วง MC อีกครั้งให้พักหายใจหายคอทั้งเมมฯและแฟนคลับกันบ้าง โดย MC รอบนี้ตลกดีครับ มีแบทเทิลกันขำ ๆ แป้ก ๆ แต่มันขำที่ความแป้กและความที่ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันนี่แหละ นอกจากนี้ชุดของ MC ที่ออกมาก็คลุมชุดดำกันหมดราวกับว่าไม่อยากสปอยเพลงต่อไป แต่ที่ไหนได้ ไข่หวานก็เผยชุดให้เห็นนิดหน่อยไปเลย แต่ถึงจะเห็นเราก็เดาไม่ถูกหรอกครับ 5555
จบ MC หรรษาไปก็เหมือนว่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่เดือดระอุอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ เมื่ออินโทรเพลงที่เหมือน Make Noise บรรเลงขึ้น แต่มันเป็นอินโทรที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เหมือนกับว่าจะพาคนดูเข้าสู่สนามรบที่เลือดพล่าน ก็เป็นอะไรที่ฮึกเหิมดี จากนั้น Make Noise ก็เข้าสู่เพลงเต็มรูปแบบนำโดย ฮูพ ทั้งเพลง การเพอร์ฟอร์มบนเวที ก็คงความยอดเยี่ยม ส่วนตัวเป็นเพลงที่ชอบอยู่แล้ว ก็ยิ่งชอบขึ้นไปอีก ส่วนจอบนเวทีก็ถูกย้อมเป็นสีขาวดำด้วย เท่มาก เป็นการเพิ่มบรรยากาศได้ดีเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอ Make Noise ว่าเดือดแล้ว เพลงถัดมาก็ยกระดับไปอีกกับ Must Be Now นำทีมโดย เอิร์น ที่ยังคงทำหน้าที่ได้ดุเดือด โคตรเท่ โคตรอันตราย อีกเมมเบอร์ที่น่าจับตามองมากก็คือ วาว่า นี่แหละทางของน้อง แล้วก็ที่ต้องชมมาก ๆ เลยก็คือกราฟิกบนหน้าจอเวที ก็มีการขึ้นฟ้อนท์ Must Be Now แบบเท่ ๆ มันช่วยส่งอารมณ์เพลงให้เติมเต็มสมบูรณ์แบบมากขึ้น อลังการ เรียกได้ว่าสองเพลงนี้กะเอาตายเลยทีเดียว
เสริมเล็กน้อยกับ Make Noise และ Must Be Now ก็จะมีเมม BNK กับ CGM ผสมกันด้วย แล้วก็น่าจะเป็นดนตรีสดด้วยครับ โคตรมันส์!!!
พอหมดเพลงเต้นไปแล้ว ก็จะเข้าโหมดสลับเพลงกันเต้นครับ มาพร้อมกับ Kibouteki Refrain ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอลองมองดูดี ๆ อ้าวนี่มันเมม CGM หมดเลยนี่หว่า ก็ให้ความแปลกตาไปอีกแบบครับ แต่ที่แปลกตาไปกว่านั้นก็คือเพลงต่อมาก็คือ LOVE TRIP ที่เป็นเมมเบอร์ BNK มาเต้นก็น่ารักมากครับ แถมยังได้โยเกิร์ต เป็นเซ็นเตอร์ด้วย ก็ทำให้บรรยากาศเวทีดูน่ารักไปซะหมด ฮ่า ๆ
หมดจากช่วงสลับเพลงกันก็เป็นเพลง UHHO UHHOHO ที่เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โกลาหล น้อง ๆ กระโดดโลดเต้น แบบไม่มีแพทเทิร์นอะไรเลย แต่มันก็เป็นความวุ่นวายที่มันส์ดีครับ เหมือนน้องมาปล่อยผีปลดปล่อยความเครียดจากเพลงนี้ แก๊งลิงก็จัดเต็มความวายป่วงระดับหัวจ่าย น้องมามิ้งค์ก็เอากับเขาด้วยเรอะ!! แล้วนั่นอะไรล่ะนั่น มีต่อตัวยกลิฟท์ด้วยเฮ้ยยย 555555 อย่างชอบ ทำเอาอยากเข้าไปดู Stage RESET เลย
ความวายป่วงจาก CGM คงไม่พอ ทาง BNK ก็เอากับเขาบ้างกับเพลง เด็กดื้อย์ ก็จัดหนักความโจ๊ะแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน แถมพอจบเพลงก็มีเหล่าเมมเบอร์ทั้งหมดมาร่วมม่วนจอยกันด้วย ยังไม่พอมีมุกเล่นเพลงซ้ำโช้คกันต่อเนื่อง จนน้อง ๆ บอกว่าพอได้แล้ววว โดยเฉพาะ ฮูพ ที่บ่นว่าเหนื่อย แต่พอเพลงมาก็เต้นยับ จนท้ายที่สุด ลูกเกดก็มาพูดสรุปก่อนจะจากลากันไป........ซึ่งก็แน่นอนแหละว่าความมันส์ยังไม่จบเพียงแค่นี้ครับ
เมมเบอร์ลงจากเวที ไฟเวทีดับลง เหลือไว้เพียงแต่แฟนคลับกับความเงียบ แฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ต่างก็รู้ดีว่ามันยังมีบางอย่างรอพวกเขา/เธออยู่ เวลาผ่านไปสักพักก็มีเสียง อังกอรุ! โผล่มา ก็เป็นสัญญาณว่าเดี๋ยวก็มีเมมเบอร์ขึ้นมาแสดงอีกนั่นเอง และแล้วพวกเธอก็ขึ้นเวทีมาพร้อมกับเสียงหวีดร้องของแฟน ๆ ที่หนักกว่าเดิม ใช่แล้วครับมันคือเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการโชว์เพลง RUMOR แบบเต็มระบบกันเสียที
เพลง RUMOR ก็เรียกว่าเป็นเพลงลึกลับที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้น มันเริ่มตั้งแต่งาน Circle Jam ที่ทำให้หลายคนเห็นว่าเพลงนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ใน 48TH นะ และเป็นการแจ้งเกิดของน้องโมเน่ต์ไปด้วย ด้วยเสียงเรียกร้องว่าอยากเห็นอีก ทาง อฟช. ก็เลยจัดหาด้วยวิธีการพิเศษผ่านการโหวตผ่าน Event Request Hour ซึ่งใครที่ได้ไปรับชมก็จะได้เห็นโชว์อีกครั้ง พร้อมกับการเป็นซิงเกิลพิเศษไปเลย
กลับมาที่โชว์ในงานก็เรียกได้ว่าเป็นหลากหลายความรู้สึกเลยล่ะครับ มันทั้งสนุก มันส์ ดีใจที่ได้เห็นเพลงนี้แบบทางการเสียที มีชุดเซ็ม มี MV ด้วย ซึ่งเพอร์ฟอร์มบนเวทีก็โหดจัด เต้นกันยับ อินเลยครับ แถมดนตรีก็น่าจะเป็นดนตรีสดด้วย มันเลยช่วยขับเน้นความมันส์มากขึ้น เสียงกลอง เสียงเบส อย่างเร้าเลย แต่เท่านั้นก็คงยังไม่พอหรอก เพราะระหว่างโชว์เหล่าแฟนคลับก็มีการโยนกระดาษหนังสือพิมพ์ด้วย เป็นจังหวะที่เพอร์เฟคมาก เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ๆ เลยครับ อีกอย่างที่อยากพูดถึงก็คือสีหน้าของโมเน่ต์เวลาเต้น รับรู้ได้เลยว่าน้องมีความสุขที่ได้เต้นได้แสดงบนเวที มันคือสิ่งที่น้องฝันไว้จริง ๆ ชอบนะการที่เมมเบอร์ส่งออร่าความสุขออกมา มันทำให้คนดูรู้สึกถึงความรู้สึกนั้นได้ชัดเจนเลย
พอจบความมันส์ของ RUMOR ไปก็เป็นช่วงสุดท้ายจริง ๆ ที่มีเพลง Kiss Me, มะลิ และ น่ายักแบบนี้ เป็นของเธอนะ ก็จะมีเมมเบอร์ทั้ง BNK และ CGM เดินลงมาหาแฟนคลับให้ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอก่อนจะจากลากันไปแบบฟิน ๆ ครับ
สรุปแล้วคอนเสิร์ต Battle of Legacy รอบนี้ทำได้สนุก มันส์ ส่วนตัวชอบ Dare No + Make Noise + Must Be Now + RUMOR ยิ่งใช้ดนตรีสดอีกก็ยิ่งชอบเช้าไปอีกครับ (ความเดือดก็ฟีลฉากแอ็คชั่นใน John Wick 4 เลย) แต่ว่าคอนเซ็ปต์การ Battle รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เหมือนสลับเพลง แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันมากกว่า มีข้อผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยกับเพลง Bloom แต่ชอบกราฟิกบนหน้าจอเวทีนะ รู้สึกทำได้ดีเข้ากับเพลงนั้น ๆ รวม ๆ แล้วมีความประทับใจมากกว่าความผิดหวังครับ การได้เห็นโชว์ RUMOR ก็เป็นอะไรที่ตายตาหลับได้เลย ประหนึ่งว่าได้เห็น Steve Rogers พูดคำว่า Avengers Assemble ใน Endgame ยังไงยังงั้นครับ
รูปภาพ: Brickinfo Channel (https://www.facebook.com/BrickinfoCH/posts/pfbid032NbzZrR46yoGTjPawaiB13bKYqPA8TS5DLTwm5SrsJoZgeSbAVNGXJ87tGKFb8g1l)