แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา B1/B2 ค่ะ

กระทู้สนทนา
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกาค่ะ

เริ่มจากกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่หน้า Website ซึ่งในขั้นตอนนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมคือรูปภาพ 2x2 นิ้ว
ไปถ่ายที่ร้าน Big Camera ราคา 160 บาทจะได้ภาพ 1 โหล และได้ไฟล์รูปด้วย สำหรับ Upload
Website กรอกไม่ยากแต่หลุดบ่อยมากจนน่าหงุดหงิด และยัง Copy Paste ไม่ได้ ต้องใช้วิธีพิมพ์เท่านั้น
หลังจากกรอก DS-160 เสร็จ ก็ปริ้นท์ใบชำระเงินแล้ว ที่ธนาคารกรุงศรี แล้วมาทำนัดหมาย ซึ่งคิวค่อนข้างยาว เกือบ 1 เดือน

จนถึงวันสัมภาษณ์ จองไปรอบ 7.45

จขกท.หาข้อมูลไปล่วงหน้า ว่าเดินทางยังไงสะดวกสุด ซึ่งสถานทูตอยู่ใกล้ BTS แต่สุดท้ายเอารถไป เพราะมีธุระต่อ เลยไปจอดรถที่ตึกสินธร อยู่ตรงข้ามอาคารที่สัมภาษณ์วีซ่าเลย ไปถึง 7 โมง ชั้นล่างก็มีที่ว่างให้จอดหลายช่อง ก็เดินข้ามสะพานไปฝั่งอาคารที่สัมภาษณ์วีซ่า
ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่รับ Passport เพื่อเช็คกับคิวเป็นเจ้าหน้าที่คนไทย ปริ้นท์สติ๊กเกอร์ติดกับ Passport ของเราซึ่งใน สติ๊กเกอร์นั้นมี Barcode เลข Confirmation อยู่แล้ว
พอเข้าไปในอาคารจะเจอการตรวจกระเป๋าและต้องยื่นมือถือกับบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้ใส่กล่อง และเจ้าหน้าที่จะให้สร้อยข้อมือห้อย Tag มา เพื่อให้เราออกมารับมือถือกับบัตรประชาชนคืนหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ
จากนั้นก็เดินไปตามทาง ระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่แนะนำอยู่ตามจุด

ส่วนเอกสารที่เตรียมไปมีดังนี้ (ไม่ได้ใช้ = ไม่มีเจ้าหน้าที่ขั้นตอนไหนขอดู)
1. หน้า Confirmation ที่ปริ้นท์จาก DS-160 > ไม่ได้ใช้
2. ใบเสร็จจ่ายเงิน กับสลิปที่ได้จากธนาคารกรุงศรี > ไม่ได้ใช้
3. สำเนาบัตรประชาชน > ไม่ได้ใช้
4. สำเนาทะเบียนบ้าน > ไม่ได้ใช้
5. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว > ใช้ 1 ใบ
6. สำเนา Passport เล่มปัจจุบัน > ไม่ได้ใช้
7. Passport เก่าทั้งหมด > เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอ แต่ยื่นให้เลย
8. หนังสือรับรองบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีชื่อเราเป็นกรรมการ (ขอจาก DBD ค่าคัด ~2,000 บาท) > ยื่นให้ เจ้าหน้าที่เอาไปเปิดดู
9. แผนที่บ้านญาติที่อเมริกา > ไม่ได้ใช้
10. Statement และสมุดบัญชี > ไม่ได้ใช้
11. Certification ที่เกี่ยวกับการทำงาน เตรียมไปเผื่อ > ไม่ได้ใช้
12. สำเนาโฉนดที่ดิน > ไม่ได้ใช้

คำถามที่เจอในการสัมภาษณ์​ คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ​ แต่ระหว่างที่ยืนรอสังเกตเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนพูดภาษาไทยได้
แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติ ก็สามารถถามเป็นภาษาไทยได้

จนท: คุณจะไปที่ไหน
Me: California ค่ะ
จนท: ไปทำอะไร
Me: ไปเยี่ยมญาติค่ะ
จนท: คุณจะไปนานไหม
Me: 2อาจจะ 1 เดือนค่ะ ฉันอยู่ไม่ได้นาน เพราะต้องกลับมาเคลียร์เรื่องธุรกิจค่ะ
จนท: คุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร
Me: XXX ค่ะ (ยื่นเอกสาร DBD)
จนท: (รับเอกสารไปดู) บริษัทคุณมีกี่คน
Me: X คนค่ะ
จนท: คุณเคยไปต่างประเทศที่ไหนมาบ้าง (ไม่เปิดดู Passport เล่มเก่าเลย)
Me: เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สวิส ค่ะ (ตอบแค่นี้จริงๆ มีมากกว่านี้)
จนท: ไปเที่ยวหรือไปทำงาน
Me: ไปเที่ยวค่ะ
จนท: ญาติของคุณอยู่ที่อเมริกามานานหรือยัง
Me: (เริ่มลอกแลกเพราะรู้ว่าอยู่นานมากแต่ไม่รู้กี่ปี 555) ท่านเกษียณแล้ว อายุ XX ค่ะ แต่ฉันไม่ชัวร์ว่าไปตั้งแต่เมื่อไร อาจจะตอนที่ท่านอายุ XX
จนท: อ๋อ โอเค
Me: ท่านมี Green card จะดูที่อยู่มั้ยคะ (ยื่นเอกสารแผนที่บ้านที่อเมริกาให้)
จนท: ไม่ต้องหรอก รอรับ Passport ในอีก 1-2 Weeks

จบขั้นตอนค่ะ รอรับ Passport ทางไปรษณีย์ โดยสรุปแล้วเอกสารที่เตรียมไป ใช้หลักๆ ก็มีแค่ DBD เลยค่ะ ทั้งหมดนี้ จบภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง
สำหรับคนก่อนหน้าที่สังเกตเห็นระหว่างยืนรอ มีทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน

ในส่วนของค่าจอดรถที่ตึกสินธร ก็ซื้อกาแฟ Starbuck ไป เลยได้จอดฟรี 2 ชั่วโมง  

นอกเหนือจากนี้ จากการสังเกตกระบวนการทำงาน ค่อนข้างชื่นชมและประทับใจการบริการค่ะ ตอนแรกคิดว่าต้องยื่นเอกสาร Confirmation ที่เตรียมไปให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค้ด แต่ไปถึงไม่ต้องเลย ใช้แค่ Passport ก็รู้เลย ว่าเราคิวอะไรกี่โมง แสดงว่าเจ้าหน้าที่มีการจัดเตรียมล่วงหน้า

หลังจากนี้ก็เตรียมเดินทางและลุ้นเรื่องการผ่าน ตม. ต่อไปค่ะ
 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่