ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ ลูกเป็นแผลเป็นที่หน้าแต่ไม่สามารถทำเลเซอร์แบบมีแผลได้ เพราะน้องเป็น SLE และเกล็ดเลือดต่ำ คุณหมอห้ามทำเลเซอร์
แผลเป็นของลูกเกิดจากการมีผื่นจุดเล็ก แล้วคุณหมอSLE และคุณหมอผิวหนังคิดว่าเกิดจากโรค เลยใช้วิธีรักษาให้ยากดภูมิ ซึ่งยิ่งให้ยากกดภูมิเชื้อยิ่งทำงาน ยิ่งรักษาแผลยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กว่าจะรู้ว่าแผลนั้นเกิดจากการติดเชื้อ ก็เป็นแผลใหญ่ และหลังรักษาถูกทาง หายแล้วก็ทิ้งรอยแผลเป็นไว้

- คุณหมอให้ทา dermatix ultra ทามาตลอด 2-3 เดือน แผลมีความขุระขระ แดง แม่ได้พาน้องไปหาคุณหมอที่สถาบันโรคผิวหนังคุณหมอที่นั่นบอกว่าน้องทำเลเซอร์ไม่ได้แผลไม่หายจะเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นจึงไปหาคุณหมอที่ศูนย์ผิวหนังศิริราชปิยมหาราชการุณย์ คุณหมอได้ทำเลเซอร์ลบรอยแดง Pulsed Dye Laser ซึ่งคุณหมอบอกว่าน้องทำได้เป็นเลเซอร์ที่ไม่เกิดแผล การตัดสินทำเลเซอร์ครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของแม่มากมันทำใ้น้องเกิดรอยแผลเป็นนูน

ภาพหลังจากทำเลเซอร์ 11 วัน ซึ่งแม่ถามคุณหมอผิวนังเด็กและวัยรุ่นที่รามาพบเป็นประจำทุกเดือน ว่าทำไมดูบวมๆ คุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรผิวฟู เลยไม่ได้คิดอะไรตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องแผลเป็นนูน
- หลังจากทำเลเซอร์ 3 สัปดาห์ พบคุณหมอที่ศิริราช (แม่ไม่ได้ถ่ายรูปก่อนพบคุณหมอ ) คุณหมอบอกว่าต้องทำเลเซอร์แบบมีแผล เพื่อให้แผลยุบ ซึ่งตอนนั้นแม่ก็ยังไม่ได้คิดว่าลูกเป็นแผลเป็นนูน แต่ได้ปฏิเสธการทำเลเซอร์เพราะน้องเป็น SLE คุณหมอเลยเลือกวิธีฉีดยาสเตียรอยด์ หลังฉีดยา 1 เดือน แผลยุบลงเล็กน้อย เป็นดังภาพ ซึ่งคุณหมอนัดทางไกลดูแต่รูปและไม่ได้ฉีดยาต่อ และทำนัดคุณหมอในอีก 1 เดือน
- เข้าสู่เดือนที่ 2 หลังฉีดยา นัดคุณหมออีกครั้ง คราวนี้แผลน้องนูนเพิ่มขึ้น และมีสีแดงเข้มขึ้นใน (ภาพด้านล่าง) หมอแนะนำวิธีเลเซอร์เหมือนเดิม แต่แม่ยังยืนยันที่ไม่ทำ เพราะคุณหมอ SLE ห้ามไว้อยากให้น้องโรคสงบถึงทำได้ เลยเลือกวิธีฉีดยาครั้งที่ 2 ก่อนพบหมอแม่เริ่มหาข้อมูลเรื่องแผลเป็นนูน และเพิ่งรู้ว่าลูกเป็นแผลเป็นนูน เพราะจับแผลลูกที่นูนแล้วผิวดูแข็งๆ (ปกติไม่ได้ทายาให้ลูก ลูกทาเอง) หาข้อมูลและวิธีการดูแลรักษาเลยได้รู้จักกับ แผ่นซิลิโคนเจล CICA CARE silicone gel sheet ยาทาแผลเป็น mederma ซึ่งคุณหมอบอกทำได้แต่ไม่ได้ช่วยอะไร สำหรับ dermatix ultra น้องทาตลอดเช้าเย็นแต่ไม่ได้ช่วยอะไร
ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 3 สีปดาห์แผลก็เป็นดังภาพ การแปะแผ่นซิลิโคนเจลให้น้องแปะประมาณ 20 ชั่วโมง + ทายา mederma วันละ 1 ครั้ง ดีที่ช่วงนี้ปิดเทอม ผลที่ได้แม่คิดว่าแผลเป็นที่ไม่นูนเรียบขึ้นไม่แข็ง รอยแดงจางลง แต่แผลมีสีขาวคิดว่าควรทา mederma ส่วนนี้ต่อไม๊คะ แต่แผลเป็นนูนผิวยังคงแข็งไม่นิ่ม และมีสีแดง มีนัดคุณหมอวันอาทิตย์นี้ไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ น่าจะต้องฉีดยาต่อม เพราะน้องทำเลเซอร์ไม่ได้ ใจแม่คืออยากทำเลเซอร์มากจะได้จบ T T
ข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้คือแม่หาข้อมูลไม่รอบด้าน เพิ่งมารู้จัก แผ่นซิลิโคนเจล คิดว่าหากย้อนไปได้ ถ้าน้องไม่ทำเลเซอร์ Pulsed Dye Laser (ซึ่งแม่หาข้อมูลเป็นเลเซอร์ที่อาจทำให้เกิดแผลเป็นนูนเพราะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน) หากใช้ แผ่นซิลิโคนเจล + mederma ตั้งแต่ต้นน่าจะดีขึ้น เพราะตอนนั้นรู้จักแต่ dermatix ultra
ปล. การหาหมอฉีดยาแต่ละครั้ง 2,000 บาท และแม่คิดว่ารักษากับหมอคนนี้แผลเป็นไม่ได้ดีขึ้น แย่ลงไม่แนะนำผลกระทบจากการทำเลเซอร์ ไม่มีการแนะนำการแปะแผ่นซิลิโคนเจล หรือทายา จะเลเซอร์อย่างเดียวหมอบอกเป็นแผลนิดเดียว ทำได้ แต่หมอ SLE ไม่ให้ทำ ปกติน้องรักษา SLE ที่รามา แม่ควรเปลี่ยนมารักษาที่ศูนย์ผิวหนังที่รามาดีไม๊คะ เพราะเดินทางสะดวกกว่า หรือรักษากับหมอคนนี้ต่อ
มีวิธีรักษาแผลเป็นนูนอย่างไรบ้างคะ
แผลเป็นของลูกเกิดจากการมีผื่นจุดเล็ก แล้วคุณหมอSLE และคุณหมอผิวหนังคิดว่าเกิดจากโรค เลยใช้วิธีรักษาให้ยากดภูมิ ซึ่งยิ่งให้ยากกดภูมิเชื้อยิ่งทำงาน ยิ่งรักษาแผลยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กว่าจะรู้ว่าแผลนั้นเกิดจากการติดเชื้อ ก็เป็นแผลใหญ่ และหลังรักษาถูกทาง หายแล้วก็ทิ้งรอยแผลเป็นไว้
- คุณหมอให้ทา dermatix ultra ทามาตลอด 2-3 เดือน แผลมีความขุระขระ แดง แม่ได้พาน้องไปหาคุณหมอที่สถาบันโรคผิวหนังคุณหมอที่นั่นบอกว่าน้องทำเลเซอร์ไม่ได้แผลไม่หายจะเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นจึงไปหาคุณหมอที่ศูนย์ผิวหนังศิริราชปิยมหาราชการุณย์ คุณหมอได้ทำเลเซอร์ลบรอยแดง Pulsed Dye Laser ซึ่งคุณหมอบอกว่าน้องทำได้เป็นเลเซอร์ที่ไม่เกิดแผล การตัดสินทำเลเซอร์ครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของแม่มากมันทำใ้น้องเกิดรอยแผลเป็นนูน
ภาพหลังจากทำเลเซอร์ 11 วัน ซึ่งแม่ถามคุณหมอผิวนังเด็กและวัยรุ่นที่รามาพบเป็นประจำทุกเดือน ว่าทำไมดูบวมๆ คุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรผิวฟู เลยไม่ได้คิดอะไรตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องแผลเป็นนูน
- หลังจากทำเลเซอร์ 3 สัปดาห์ พบคุณหมอที่ศิริราช (แม่ไม่ได้ถ่ายรูปก่อนพบคุณหมอ ) คุณหมอบอกว่าต้องทำเลเซอร์แบบมีแผล เพื่อให้แผลยุบ ซึ่งตอนนั้นแม่ก็ยังไม่ได้คิดว่าลูกเป็นแผลเป็นนูน แต่ได้ปฏิเสธการทำเลเซอร์เพราะน้องเป็น SLE คุณหมอเลยเลือกวิธีฉีดยาสเตียรอยด์ หลังฉีดยา 1 เดือน แผลยุบลงเล็กน้อย เป็นดังภาพ ซึ่งคุณหมอนัดทางไกลดูแต่รูปและไม่ได้ฉีดยาต่อ และทำนัดคุณหมอในอีก 1 เดือน
- เข้าสู่เดือนที่ 2 หลังฉีดยา นัดคุณหมออีกครั้ง คราวนี้แผลน้องนูนเพิ่มขึ้น และมีสีแดงเข้มขึ้นใน (ภาพด้านล่าง) หมอแนะนำวิธีเลเซอร์เหมือนเดิม แต่แม่ยังยืนยันที่ไม่ทำ เพราะคุณหมอ SLE ห้ามไว้อยากให้น้องโรคสงบถึงทำได้ เลยเลือกวิธีฉีดยาครั้งที่ 2 ก่อนพบหมอแม่เริ่มหาข้อมูลเรื่องแผลเป็นนูน และเพิ่งรู้ว่าลูกเป็นแผลเป็นนูน เพราะจับแผลลูกที่นูนแล้วผิวดูแข็งๆ (ปกติไม่ได้ทายาให้ลูก ลูกทาเอง) หาข้อมูลและวิธีการดูแลรักษาเลยได้รู้จักกับ แผ่นซิลิโคนเจล CICA CARE silicone gel sheet ยาทาแผลเป็น mederma ซึ่งคุณหมอบอกทำได้แต่ไม่ได้ช่วยอะไร สำหรับ dermatix ultra น้องทาตลอดเช้าเย็นแต่ไม่ได้ช่วยอะไร
ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 3 สีปดาห์แผลก็เป็นดังภาพ การแปะแผ่นซิลิโคนเจลให้น้องแปะประมาณ 20 ชั่วโมง + ทายา mederma วันละ 1 ครั้ง ดีที่ช่วงนี้ปิดเทอม ผลที่ได้แม่คิดว่าแผลเป็นที่ไม่นูนเรียบขึ้นไม่แข็ง รอยแดงจางลง แต่แผลมีสีขาวคิดว่าควรทา mederma ส่วนนี้ต่อไม๊คะ แต่แผลเป็นนูนผิวยังคงแข็งไม่นิ่ม และมีสีแดง มีนัดคุณหมอวันอาทิตย์นี้ไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ น่าจะต้องฉีดยาต่อม เพราะน้องทำเลเซอร์ไม่ได้ ใจแม่คืออยากทำเลเซอร์มากจะได้จบ T T
ข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้คือแม่หาข้อมูลไม่รอบด้าน เพิ่งมารู้จัก แผ่นซิลิโคนเจล คิดว่าหากย้อนไปได้ ถ้าน้องไม่ทำเลเซอร์ Pulsed Dye Laser (ซึ่งแม่หาข้อมูลเป็นเลเซอร์ที่อาจทำให้เกิดแผลเป็นนูนเพราะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน) หากใช้ แผ่นซิลิโคนเจล + mederma ตั้งแต่ต้นน่าจะดีขึ้น เพราะตอนนั้นรู้จักแต่ dermatix ultra
ปล. การหาหมอฉีดยาแต่ละครั้ง 2,000 บาท และแม่คิดว่ารักษากับหมอคนนี้แผลเป็นไม่ได้ดีขึ้น แย่ลงไม่แนะนำผลกระทบจากการทำเลเซอร์ ไม่มีการแนะนำการแปะแผ่นซิลิโคนเจล หรือทายา จะเลเซอร์อย่างเดียวหมอบอกเป็นแผลนิดเดียว ทำได้ แต่หมอ SLE ไม่ให้ทำ ปกติน้องรักษา SLE ที่รามา แม่ควรเปลี่ยนมารักษาที่ศูนย์ผิวหนังที่รามาดีไม๊คะ เพราะเดินทางสะดวกกว่า หรือรักษากับหมอคนนี้ต่อ