หัวอกคนเป็นลูก

พ่อกับแม่เราเลิกกัน เราเลยตั้งใจจะซื้อบ้านให้พ่ออยู่ เพราะว่าพ่อเราก็ไปอยู่กับเพื่อนที่ต่างจังหวัด เราเลยซื้อบ้านจัดสรรมือ 2 เพราะตอนนั้นเงินเดือนซื้อได้เท่านี้
เพื่อให้พ่อมาอยู่ด้วย ก็อยากตอบแทนบุญคุณไม่อยากให้พ่อต้องไปอาศัยคนอื่นทั่งที่ลูกก็มีงานทำที่ดี ซึ่งบ้านที่ซื้อจะอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน ติดกำเเพงหมู่บ้านเลย และตรงกำแพงเจ้าของบ้านจัดสรรได้ทำประตูเล็กๆเพื่อให้พระสามารถเดินออกไปบิณฑบาตรได้ เพราะหมู่บ้านมาสร้างทีหลังซึ่งทางเดินพระท่านใช้มาก่อนจะมีหมู่บ้าน บริเวณทางเดินนี้ก็จะเป็นป่ามีหญ้าขึ้น คนในหมูบ้านชอบเอาต้นไหม กิ่งไม้ที่ตัดไปทิ้ง เราก็เลยทำป้ายห้ามทิ้งเพราะกลัวไฟไหม แต่ก็ยังมีคนมักง่ายมาทิ้ง แล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น วันที่ 13 ม.ค 68 และวันที่ 14 ก.พ. 68 เกิดไฟไหม้ได้เรียกรถดับเพลิงมาดับ สาเหตุอาจจะอากาศร้อนจัดเลยเกิดไฟไหม หรืออาจจะมีคนทิ้งก้นบุหรี่ ทำให้ไฟไหม้ เราก็เลยปรึกษากับเพื่อนบ้านว่าจะเรี่ยรายเงินจ้างรถไถมาไถให้เป็นแนวกันไฟ ซึ่งเพื่อนบ้านก็เห็นด้วย
พอพ่อได้ยินก็โวยวายว่าไม่ใช้สมองคิด มาซื้อบ้านท้ายหมู่บ้านได้ไง เดียวไฟไหม กำแพงพังใครจะมาช่วย เราได้ยินเสียใจมากเลย เพราะเราตั้งใจเอาพ่อมาอยู่ด้วย เราได้แต่คิดในใจว่าถ้าบ้านมันไม่ดีก็ไม่ต้องอยู่ ไปอยู่ที่อื่นเลยก็ได้
ได้แต่คิดไม่อยากพูดไปเพราะเดียวพ่อคิดว่าลูกยังขับไสไล่ส่ง เราแค่ไม่เข้าใจตระการคิดของพ่อ หลายครั้งที่พ่อพูดไม่คิดมันทำร้ายความรู้สึกมากๆ พ่อไม่คิดถึหัวอกลูกบ้างเลยเหรอ
แค่อยากมเราละบายความในใจ ขอบคุณทุกท่านทีาเข้ามาอ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่