ในฐานะโหรฯ เล็ก ๆ คนหนึ่ง    ในช่วงเวลาวันสองวันนี้   ในสถานการณ์ที่ไทยเราเกิดแผ่นดินไหวประวัติศาสตร์
ในการเข้ามาอ่านกระทู้ต่าง ๆ  หวังว่าจะมีการบันทึกเหตุทางโหรฯ ดี ๆ จากโหรฯใหญ่ ๆ หลายท่าน
เพื่อฝากให้เป็นเกร็ดความรู้แก่โหรฯ ถัดไปรุ่นหน้า

แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้เลย... แฮ่

เลยขออนุญาตบันทึกเหตุครั้งนี้ ด้วยความรู้เล็ก ๆ ในสถานะของโหรฯ เล็ก ๆ คนนึง ไว้ละกันครับ
..........................................................................................

แผ่นดินไหวประวัติศาสตร์ไทยครั้งนี้  มีจุดเริ่มจากประเทศพม่า รุนแรงในระดับ 7-8 ริกเตอร์
มีผลมาถึงประเทศไทย และเป็นครั้งแรกที่คนไทยรู้สึกในระดับรุนแรง สั่นสะเทือนทั่ว กทม.
โดยขอระบุวันเวลาเหตุการณ์ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘  ช่วงเวลาราว ๑๓.๓๗ น.
บันทึกลงดวงจร ในดวงเมือง กทม. ได้ ดังรูปนี้


ในฐานะโหรฯ บอกเลยนะครับว่า อย่าไปถือสาหาความ กับผู้ที่ดูหมิ่นดูแคลนเรา
เหมือนหวยออก เฉลยแล้ว ถึงมาทาย อะไรทำนองนี้  
ด้วย ๒ สถาน คือ เรื่องแบบนี้ ในฐานะโหรฯ ไม่มีใครถาม ย่อมไม่มีใครทาย และเป็นเรื่องราวที่ยากจะพยากรณ์ได้
เหมือนแพทย์ใน รพ. ก็จะบอกได้หรือว่า ใครจะป่วย ในยามไม่ป่วยไข้
และเอาเข้าจริง กับคนใกล้ตัวผม ได้บอกตลอด ว่าก่อน พค. ที่ไหนมีคนเยอะ หลีกเลี่ยงได้ ก็พึงงดไป
และเอาเข้าจริงอีก  ก็ไม่ได้กล้าคิด ถึงภัยธรรมชาติในระดับนี้เลย
แม้โหรฯ ทุกท่าน ผมเชื่อว่า ทุกคนก็ล้วนเห็นว่ามีโอกาสอยู่

กลับมาไข คำตอบถึงหวยแผ่นดินไหว ครั้งนี้กันดีกว่า..

ในเกร็ดบันทึกครั้งนี้  บอกได้เลยนะครับ มีจุดสัมพันธ์มากมายที่ดูเห็นได้
และก็เชื่อว่า พี่ ๆ น้อง ๆ โหรฯทุกท่าน ต่างก็รู้เห็นอยู่

แต่ขอชี้ถึง "จุดสำคัญ" จุดหนึ่ง ด้วยเป็นเกร็ดสำคัญ ของบุพพาจารย์ จารึกไว้ กล่าวคือ...
นี่คือตัวอย่างหวยสำคัญ ในการทำงานของ "ดาวจรเจ้าการ" นั่นเอง

ภายใต้ กฏสำคัญ ที่โบราณจารย์ท่านวางไว้ถึงการทำงานไว้ว่า..

"การที่ดาวจรเจ้าการ จะทำงานนั้น ให้ดูความสำคัญ ๓ ประการ
ประการแรก) ทำงานด้วยมุมสัมพันธ์
ประการสองนั้น)  ทำงานด้วยมุมองศา ตากลาง  ในจังหวะ ๓ องศา
และประการที่สาม) มักทำงานในช่วงปลายราศี (บทบาทเก่า) และต้นราศีใหม่ (บทบาทใหม่)
                            ในจังหวะ ๓ - ๙ องศา (ปลาย) (และใหม่) เสมอ

ง่าย ๆ แค่นี้เอง เอ้า..มาดูกัน

ประการแรก) มุมสัมพันธ์ หลายจุดทีเดียวเชียว เลือกวิจารณ์เอาเอง แต่จะขอชี้ที่
                   ราศีมีน ที่สะเทือนมาถึงจุดตั้งรับ คือ จันทร์กำเนิด
                   โดย ราหูจะเป็นเทวดาใหญ่องค์แรกที่กำลังจะเปลี่ยนราศี  ทำงานในอุภัยราศีธาตุน้ำ
                    อุภัยยิ่งรวนเรในกระแสวินาสน์ส่งท้ายบทบาทราหู โดยมีพระศุกร์ และพระอาทิตย์จร
                    แยกย้ายทำงาน ศุกร์จร อาทิตย์จร (๑๓ องศา) รับกระแสสัมพันธ์ส่งเบียฬสู่ลัคน์ ๒๑
                   กระแสพระราหูอันเตรียมยกสถานะสู่ราศีกุมภ์ อันเป็นลมที่เสถียร
                   แต่ มุมสัมพันธ์ราศีมีนนี้ ในความเห็นผม เป็นเพียงมุมร่วมก่อ หาเป็น "เจ้าการตรง" ใช่ไม่!
                   โดยส่งพลังจุดสะเทือนเกิดเหตุไปที่..

                    ราศีพฤษภ อันมีดาวเจ้าการสำคัญ พระพฤหัสจร และมฤตยูจร นั่นเอง

ประการที่สอง)   ในราศีพฤษภนี้  พฤหัสจร เป็นดาวใหญ่ดวงที่สอง ที่กำลังยกเช่นกันในเดือน พค
                          ขอแยกองศาชัด ๆ ดังนี้   พฤหัสฯจร  ๒๑  องศา และ มฤตยูจร ราว ๙ องศา
                          
                           ช้า ๆ นะ เริ่มมองเห็นบางอย่างแล้วล่ะสิ
                           มฤตยูจร ๙ องศา นั่นคือเข้าสู่องศาตากลาง อาทิตย์ ๑๐ องศา ของชะตาดวงเมืองเรา
                            แล้ว พฤหัสจรล่ะ ๒๑ องศา เคลื่อนจากไปแล้วนี่
                            ส่วนนี้คำตอบเราต้องไปดูที่ องศาพฤหัสฯเดิมของดวงเมืองเรา  ชัดเลยเนอะ
                            นี่ไงครับ วิชาโหรฯนั้น  จึงเป็นศิลปะ ที่อาจจะไม่ใช่ หนึ่ง+หนึ่ง เป็นสองเสมอไป
                             อาจ หนึ่ง+สอง จึงเป็น สองก็ได้ นั่นเอง

                            เนื้อที่น้อย เวลาน้อย  สรุปข้อสอง องศาตากลาง จึงพร้อมทำงานนั่นเอง

ประการที่สาม) ๓-๑๐ องศา ของต้นใหม่และปลายราศีเก่า
                       ขอยกแค่ดาวพฤหัสฯจร มาวิจารณ์เท่านั้น  (เสาร์และ ราหูจร ขอให้พิจารณาต่อเอง)
                       ในเกร็ดประการนี้  บุพพาจารย์เก่าท่าน บอกกล่าวย้ำไว้เสมอเพียงว่า
                       มักเป็นช่วงองศา ที่ "ดาวจรจะถนัดก่อการ"
                       ถนัดก่อการ แปลความเป็นไทยง่าย ๆ นั่นก็คือ "พร้อม ชวนจะก่อให้เกิดการ" นั่นเอง
                       เป็นจุดที่อาจารย์เก่า ๆ ท่านมักบอกศิษย์เสมอ เพื่อไม่ให้ประมาท
                       ด้วยเกิดผลก็ได้ หรือไม่เกิดผลก็ได้  แต่อย่าประมาท ให้ทาย ให้พยากรณ์ อย่างพึงระวัง!
                      เช่นนี้เอง ๒๑ องศาของพฤหัสจรในราศีพฤษภ จึงต้องถนัดก่อการนี้
                                 รวมทั้ง ๑-๑๐ องศา ยามพฤหัสฯจรยกเข้าแล้วสู่ราศีมิถุน ก็ย่อมเป็นช่วงที่ถนัดก่อการเช่นกัน
                                   (โดยเฉพาะในเคสนี้ คือ เมื่อพฤหัส ๑๐ องศา เทียบตากลาง)
                                  หรือกระทั่ง ๒๐-๓๐ องศา ปลายมิถุน ก็เป็นช่วงถนัดการได้

                    
                     ไม่ให้เสียเวลา มาสรุปกันในเหตุการณ์นี้ โดยผมหยิบมาเลือกวินิจฉัย ด้วยจุด "ดาวเจ้าการ"
                      แน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ที่ย่อมเกิดจาก ดาวมฤตยูจร ทำงาน ด้วยเป็นเภทภัยใหญ่ หนัก
                      แต่ไม่ใช่ดวงเดียว  ต้องมีพฤหัสฯ จรร่วมก่อการด้วย ภายใต้แรงหนุนสัมพันธ์จากราศีมีน และกุมภ์

                      ในราศีพฤษภ  ทำไมต้องเป็นพฤษภ เพราะนั่นคือ เรือนดิน อันเป็นสถิรราศีดิน
                      สภาวะความเป็นสถิรราศี คือความหนัก ความแน่น ความแน่นอน ความทน ความยึดติด
                      ไม่เหมือนจรทวารราศี และอุภัยราศี
                      เช่นนี้เอง  มฤตยู (อากาศ วิญญาณ) จร ๙ องศา และพฤหัสฯ (ดิน) จร ๒๑ องศา จึงทำงานเป็นแผ่นดินที่เคลื่อนไหว
                              
                              โดยตัวพฤหัสฯจร เอง ตัวเองได้แอบดึงสัญญาจากดาวมฤตยูเดิมในพื้นดวงที่ ๕ องศา เข้ามาร่วมหนุน
                              อันเป็นเรือนแฝงสหัชชะ โยกหน้าลัคน์  ด้วยถูกพันธะองศาของ พฤหัสฯเดิม ที่อยู่ในเรือนศุภะ
                              กุมเสาร์ เป็นสัญญาไฟเดิมอยู่
                              อันมฤตยูเดิมนั้น ยังต้องอิทธิพลโดนเกณฑ์สิบ อันเอื้อมถึงจากพระราหูจรที่ยังเตรียมยกอยู่ราศีมีน
                              คร่าว ๆ เท่านี้ แต่หากจะพิจารณาให้สนุกเพิ่ม ก็ดูต่อถึงเสาร์จร และเสาร์เดิม ที่มีจันทร์จรทำงานอยู่
                             ก็จะได้ข้อมูลพยากรณ์เพิ่ม

                             ทั้งหมดนี้  จึงเกิดเหตุการณ์ให้เราลงบันทึกเป็นเหตุโหรฯ อีกหนึ่งประวัติศาสตร์ได้ไว้

                
                   ยาวไปหน่อย.. อาจต้องเมื่อยตามอ่านนานกว่าจะจบ  ซึ่งก็พยายามเขียนให้รวบรับ สั้นที่สุดแล้ว

                   ก่อนจบการวิจารณ์นั้น  เพื่อให้เห็นถึงการทำงานในเคสนี้ ชัดเจนขึ้น
          
                   ก็ขอให้พึงย้อนกลับไปใน เช้าตรู่ วันที่ ๒๖ ธค ๒๕๔๗ เวลา ๗.๕๘ น.
                   ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งภัยพิบัติ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของไทยและของโลก!

                  โดยดูเทียบด้วยวิธีดาวถนัดก่อการ แบบที่ได้กล่าวอธิบายไว้นี้
                   เจาะจงไปที่ องศามฤตยูจร พฤหัสฯจร เสาร๋์จร และพระราหูจร สี่เทพนี้ เถิด
                    
                  แล้วจะพบความ พิศวง และสนุกสนานขึ้นครับ