คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จากข้อมูลที่คุณให้มา ดูเหมือนว่าคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมแล้วครับ:
1. การดูแลแผล:
• คุณได้ล้างแผลทันทีด้วยสบู่และน้ำเกลือ และทาเบตาดีน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทั่วไป
• แผลของคุณเริ่มเป็นสะเก็ดแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากระบวนการหายของแผลกำลังเป็นไปตามปกติ
2. การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า:
• เนื่องจากคุณมีประวัติฉีดวัคซีนมาก่อนและได้รับเข็มกระตุ้นหลังจากถูกกัดแล้ว จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• แมวที่กัดคุณเป็นแมวที่คุณเลี้ยงและได้รับวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาแล้ว 6 วันก่อน ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อจากแมวในกรณีนี้ต่ำมาก
3. อาการและการติดตาม:
• ผ่านไป 5 วันแล้วและแมวยังกินอาหารได้ปกติ รวมถึงแผลของคุณเริ่มหาย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
• ควรติดตามอาการต่อไป หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้หรืออาการบวมรอบแผล ควรกลับไปพบแพทย์ทันที
โดยรวมแล้ว จากสิ่งที่คุณเล่ามา ความเสี่ยงจากโรคพิษสุนัขบ้าในกรณีของคุณน่าจะต่ำมาก และคุณสามารถสบายใจได้ในขณะนี้ แต่อย่าลืมติดตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไปครับ
1. การดูแลแผล:
• คุณได้ล้างแผลทันทีด้วยสบู่และน้ำเกลือ และทาเบตาดีน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทั่วไป
• แผลของคุณเริ่มเป็นสะเก็ดแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากระบวนการหายของแผลกำลังเป็นไปตามปกติ
2. การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า:
• เนื่องจากคุณมีประวัติฉีดวัคซีนมาก่อนและได้รับเข็มกระตุ้นหลังจากถูกกัดแล้ว จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• แมวที่กัดคุณเป็นแมวที่คุณเลี้ยงและได้รับวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาแล้ว 6 วันก่อน ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อจากแมวในกรณีนี้ต่ำมาก
3. อาการและการติดตาม:
• ผ่านไป 5 วันแล้วและแมวยังกินอาหารได้ปกติ รวมถึงแผลของคุณเริ่มหาย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
• ควรติดตามอาการต่อไป หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้หรืออาการบวมรอบแผล ควรกลับไปพบแพทย์ทันที
โดยรวมแล้ว จากสิ่งที่คุณเล่ามา ความเสี่ยงจากโรคพิษสุนัขบ้าในกรณีของคุณน่าจะต่ำมาก และคุณสามารถสบายใจได้ในขณะนี้ แต่อย่าลืมติดตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไปครับ
แสดงความคิดเห็น
แบบนี้เราเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนคะ?