"ไม่มี ก็คงต้องมีสักวัน ความฝันเป็นจริงต้องทนสู้ไป
ไม่นาน เราคงจะได้สมใจมุ่งมั่น ทุ่มเทเพียงใดกว่าจะได้มา
เส้นชัย ไม่มาต้องไปหามัน รางวัล มีไว้ให้คนตั้งใจ
ขวากหนาม ทิ่มแทงก็ผ่านพ้นไป โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมาโอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ"
ส่วนตัวชอบเพลงนี้มาก เลยขึ้นมาเป็นหัวเรื่อง ที่จะเล่าต่อไปนี้
จะบอกว่าคนเราต้องมีศรัทธา ศรัทธาในตัวเองก่อน ต้องเชื่อมั่นตัวเองก่อน ว่าเราสามารถทำได้ แล้วจงลงมือทำ
หลายคนมีชีวิตอยู่ในเมือง ต้องดิ้นรนต่อสู้ ตั้งแต่เรียน ทำงาน มีครอบครัว เก็บเงิน เลี้ยงลูก เกษียณ
เราก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ แต่จบตรงทำงานหนักๆ แล้วป่วย เป็นมะเร็ง ก็มาคิดได้ว่า เราเลือกอะไรได้บ้างไหม
เลือกได้สิ..... ชีวิตเรานิ
เลยมีความคิดว่า... อยากมีบ้านสวน หาปลูกผัก หาอากาศดีๆ หาพื้นที่เดินกว้างๆ โล่งอยู่ น่าจะดีกับสุขภาพตัวเอง ตอนนั้นอายุ 46 ปีแล้ว
ยังไม่มีเงินเก็บเลย เพราะทำงานประจำอย่างเดียว มีลูก 1 คน กับแม่วัย 80 อีก 1 คนต้องเลี้ยงดู ไม่มีที่ดินเป็นมรดกด้วย
มีบ้านในเมืองก็เป็นทาวเฮ้าส์เล็กๆ ก็พยายามปลูกโน่น นั้น นี่ แต่ก็ไม่เยอะหรอกค่ะ ด้วยพื้นที่จำกัด
แค่คิดว่าจะหาเงินไปซื้อที่ดิน แล้วทำบ้านสวนปลูกผัก ผลไม้กิน ดูน่าจะห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
แต่เมื่อคนเราคิดๆๆๆๆ ฝันๆๆๆๆ ดูๆๆๆๆ คนอื่นๆๆๆๆ ที่เค้ามี แล้วก็อยากจะมีบ้าง จะทำยังไงดี
ตอนนั้นทำได้แค่ เปิดfb ดูที่ดิน ดูสวนคนอื่นๆไปเรื่อยๆ ในหัวคิดว่า มันต้องทำยังไง ถึงจะได้มา
โจทย์ คือ เราไม่มีที่ดิน ไม่มีเงินจะหาไปหาเงินมาซื้อที่ดินได้ยังไง ....ปัญหาใหญ่มาก ทำยังไงถึงจะมีเงินละ
ตอนนั้น เริ่มมองหาธุรกิจ หรืออาชีพเสริมทุกอย่าง
เสาร์-อาทิตย์ ไปทำอาชีพเสริม เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ประหยัด อดออม ลดรายจ่าย ไม่ฟุ่มเฟือย
หาข้อมูลเรื่อง ที่ดิน ที่เหมาะสมกับฐานะตัวเอง ใช้เวลาเกือบ3 ปี ถึงมีเงินมาก้อนหนึ่ง
พอดีกับไปเจอที่ดินที่เหมาะกับเรา ทั้งเรื่องราคา และ ระยะเวลาเดินทาง
ความคุ้นเคยกับพื้นที่ด้วย จึงตัดสินใจซื้อไว้ 3 ไร่
หลังจากนั้น ก็มายืนงงๆ ในดงกล้วยอยู่เกือบๆ ปี ว่าจะเอาไงต่อ ก็หาข้อมูลต่อ
เราคนเมืองไม่มีความรู้เรื่อง การปลูกต้นไม้ ทำปุ๋ย ปลูกต้นไม้ก็ตายบ้าง โตบ้าง ต้นอะไรต่ออะไร ก็ไม่รู้
ยืนงง สักพัก ก็ไปอบรมที่ ศูนย์กสิกรรมมาบเอื้อง กับอ.ยักษ์ ภายใต้ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และอบรมศูนย์อื่นๆ ต่อมา
คราวนี้เข้าใจโลกขึ้นเยอะเลย มั่นใจว่าตัวเองทำได้แน่ๆ เพราะผ่านการอบรมจากครูมาแล้ว แถมมีเพื่อนๆ ที่คิดเหมือนกันอีก
คราวนี้ เริ่มศึกษา เรียนรู้ ทำต่อเนื่อง จนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ไม่ง่ายสำหรับคนที่เริ่มจาก ศูนย์ อย่างเรา
“เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายได้ ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา “
สำหรับคนเมือง ที่คิดว่าจะไปทำสวนปลูกผัก ปลูกผลไม้ ต้องมีศรัทธาก่อนอันดับแรก คิดว่าตัวเองต้องทำได้ แล้วลงมือทำ
ไม่ว่าอะไรมันจะเป็นอุปสรรค คนรอบข้างจะไม่เห็นด้วยยังไง ก็ต้องสู้ไป ทำให้เค้าเห็นให้ได้
ทุกวันนี้ต้นไม้ที่เราปลูก ให้ผลผลิตแล้ว ไปสวนทุกครั้งได้ของกินติดมาทุกครั้ง เอามาแจกคนแถวบ้าน ญาติพี่น้องได้กินกัน
ได้แบ่งปันกัน มันมีความสุขมากๆ
“หลายคน เชื่อในเรื่องโชคชะตา บางคนเชื่อมั่นในตัวเอง ชีวิต เรากำหนดของเราเอง จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร”
ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้วหลังจากเราเริ่มทำ มีความสุขทุกครั้งที่คิดว่า เราทำมันได้ยังไงวะ ตากแดด ปลูกต้นไม้ แทบเป็นลม
กลับมาคิดดู “ศรัทธ ล้วนๆ เลย”
อยากจะบอกกับคนที่กำลังคิด หรือฝัน ที่อยากจะทำอะไรสักอย่าง แล้วยังไม่ได้ทำ หรือ ยังทำไม่สำเร็จ จงอย่าหยุดคิด หรือหยุดฝัน
จงศรัทธาในตัวคุณเอง จงชื่นชมตัวเองให้มาก แม้ว่าจะไม่มีใครชื่นชมตัวคุณ ก็ขอให้โลกนี้อย่างน้อยมีตัวคุณเองที่ยังศรัทธาในตัวเองอยู่
แล้วสิ่งที่คิด หรือฝันไว้ก็จะเป็นจริงในไม่ช้าค่ะ
เก็บภาพตั้งแต่เริ่มสวนมาฝากกันค่ะ
“ศรัทธา ล้วนๆ เลย”
หลายคนมีชีวิตอยู่ในเมือง ต้องดิ้นรนต่อสู้ ตั้งแต่เรียน ทำงาน มีครอบครัว เก็บเงิน เลี้ยงลูก เกษียณ
เราก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ แต่จบตรงทำงานหนักๆ แล้วป่วย เป็นมะเร็ง ก็มาคิดได้ว่า เราเลือกอะไรได้บ้างไหม
เลือกได้สิ..... ชีวิตเรานิ
เลยมีความคิดว่า... อยากมีบ้านสวน หาปลูกผัก หาอากาศดีๆ หาพื้นที่เดินกว้างๆ โล่งอยู่ น่าจะดีกับสุขภาพตัวเอง ตอนนั้นอายุ 46 ปีแล้ว
ยังไม่มีเงินเก็บเลย เพราะทำงานประจำอย่างเดียว มีลูก 1 คน กับแม่วัย 80 อีก 1 คนต้องเลี้ยงดู ไม่มีที่ดินเป็นมรดกด้วย
มีบ้านในเมืองก็เป็นทาวเฮ้าส์เล็กๆ ก็พยายามปลูกโน่น นั้น นี่ แต่ก็ไม่เยอะหรอกค่ะ ด้วยพื้นที่จำกัด
แค่คิดว่าจะหาเงินไปซื้อที่ดิน แล้วทำบ้านสวนปลูกผัก ผลไม้กิน ดูน่าจะห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
แต่เมื่อคนเราคิดๆๆๆๆ ฝันๆๆๆๆ ดูๆๆๆๆ คนอื่นๆๆๆๆ ที่เค้ามี แล้วก็อยากจะมีบ้าง จะทำยังไงดี
ตอนนั้นทำได้แค่ เปิดfb ดูที่ดิน ดูสวนคนอื่นๆไปเรื่อยๆ ในหัวคิดว่า มันต้องทำยังไง ถึงจะได้มา
โจทย์ คือ เราไม่มีที่ดิน ไม่มีเงินจะหาไปหาเงินมาซื้อที่ดินได้ยังไง ....ปัญหาใหญ่มาก ทำยังไงถึงจะมีเงินละ
ตอนนั้น เริ่มมองหาธุรกิจ หรืออาชีพเสริมทุกอย่าง
เสาร์-อาทิตย์ ไปทำอาชีพเสริม เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ประหยัด อดออม ลดรายจ่าย ไม่ฟุ่มเฟือย
หาข้อมูลเรื่อง ที่ดิน ที่เหมาะสมกับฐานะตัวเอง ใช้เวลาเกือบ3 ปี ถึงมีเงินมาก้อนหนึ่ง
พอดีกับไปเจอที่ดินที่เหมาะกับเรา ทั้งเรื่องราคา และ ระยะเวลาเดินทาง
ความคุ้นเคยกับพื้นที่ด้วย จึงตัดสินใจซื้อไว้ 3 ไร่
หลังจากนั้น ก็มายืนงงๆ ในดงกล้วยอยู่เกือบๆ ปี ว่าจะเอาไงต่อ ก็หาข้อมูลต่อ
เราคนเมืองไม่มีความรู้เรื่อง การปลูกต้นไม้ ทำปุ๋ย ปลูกต้นไม้ก็ตายบ้าง โตบ้าง ต้นอะไรต่ออะไร ก็ไม่รู้
ยืนงง สักพัก ก็ไปอบรมที่ ศูนย์กสิกรรมมาบเอื้อง กับอ.ยักษ์ ภายใต้ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และอบรมศูนย์อื่นๆ ต่อมา
คราวนี้เข้าใจโลกขึ้นเยอะเลย มั่นใจว่าตัวเองทำได้แน่ๆ เพราะผ่านการอบรมจากครูมาแล้ว แถมมีเพื่อนๆ ที่คิดเหมือนกันอีก
คราวนี้ เริ่มศึกษา เรียนรู้ ทำต่อเนื่อง จนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ไม่ง่ายสำหรับคนที่เริ่มจาก ศูนย์ อย่างเรา
ไม่ว่าอะไรมันจะเป็นอุปสรรค คนรอบข้างจะไม่เห็นด้วยยังไง ก็ต้องสู้ไป ทำให้เค้าเห็นให้ได้
ทุกวันนี้ต้นไม้ที่เราปลูก ให้ผลผลิตแล้ว ไปสวนทุกครั้งได้ของกินติดมาทุกครั้ง เอามาแจกคนแถวบ้าน ญาติพี่น้องได้กินกัน
ได้แบ่งปันกัน มันมีความสุขมากๆ
กลับมาคิดดู “ศรัทธ ล้วนๆ เลย”
อยากจะบอกกับคนที่กำลังคิด หรือฝัน ที่อยากจะทำอะไรสักอย่าง แล้วยังไม่ได้ทำ หรือ ยังทำไม่สำเร็จ จงอย่าหยุดคิด หรือหยุดฝัน
จงศรัทธาในตัวคุณเอง จงชื่นชมตัวเองให้มาก แม้ว่าจะไม่มีใครชื่นชมตัวคุณ ก็ขอให้โลกนี้อย่างน้อยมีตัวคุณเองที่ยังศรัทธาในตัวเองอยู่
แล้วสิ่งที่คิด หรือฝันไว้ก็จะเป็นจริงในไม่ช้าค่ะ
เก็บภาพตั้งแต่เริ่มสวนมาฝากกันค่ะ