บ้านเราหลงกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเกินไปหรือไม่ ควรคิดเรื่องทำอย่างไรให้ชีวิตมั่นคงมากกว่ามั้ย

การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้ประชาชนจำนวนมากมีฐานะการเงินที่ดีขึ้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชนหลายกลุ่ม แต่บางทีการมีเงินมาใช้สอยนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยการเป็นหนี้ แลกกับความไม่มั่นคงในบางสิ่งบางอย่างของประเทศ และความง่อนแง่นคลอนแคลนบางเรื่องในชีวิตของประชาชน

    ​มองๆดูแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจบางครั้ง ก็ทำให้คนกลุ่มหนึ่งได้มีเงินซื้อสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ก็สร้างปัญหาให้คนอีกกลุ่มหนึ่ง

    คนกลุ่มหนึ่งมีเงินซื้อบ้านซื้อรถด้วยนโยบายกู้เงินง่ายๆ ผ่อนง่าย แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งกลับมีปัญหาเรื่องการเงินในภายหลัง นั่นคือผู้ประกอบการบ้านและรถยนต์ที่ต้องเจอปัญหา เพราะเมื่อลูกหนี้บางคนจ่ายต่อไม่ไหว ก็ทำให้รายได้ผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงไป ไม่เป็นไปตามเป้า ฐานะการเงินของผู้ประกอบการตกลงไป ทุกวันนี้ถึงได้ปล่อยบ้านปล่อยรถยาก ถ้าดีจริงก็ต้องไม่เป็นแบบนี้
    จะว่าไป มาตราการผ่อนบ้านง่าย ผ่อนรถง่าย ก็เป็นมาตราการที่เอื้อนายทุนรูปแบบนึง แต่เป็นการเอื้อที่มีความเสี่ยงและไม่มั่นคงนัก

    สมัยก่อน คนเดินทางนิยมใช้รถสาธารณะ เงินก็ไปตกอยู่กับบริษัทที่ให้บริการรถโดยสาร เกิดรายได้แก่ผู้ขับรถโดยสารหลายคน พนักงานบนรถโดยสารหลายคน ช่วยคนระดับรากหญ้าได้มาก กระจายเงินสู่คนตัวเล็กได้ดี
    มายุคนี้ ให้คนเป็นเจ้าของรถส่วนตัวกันได้ง่ายมาก คนหันมาใช้รถส่วนตัวกันเยอะ รถสาธารณะก็เลยซบเซาไป หนทางช่วยเหลือคนรากหญ้าก็ลดลง การกระจายเงินให้คนตัวเล็กที่มีฐานะทางการเงินอยู่ระดับล่างๆก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน
    แล้วคนซื้อรถส่วนตัวหลายคนก็ไม่ได้มีความมั่นคงในชีวิต เพราะเงินเดือนจำนวนมากก็หมดไปกับการผ่อนรถ เงินที่จะเอามาจับจ่ายใช้สอยอย่างอื่นเช่น ข้าว ปลา อาหารดีๆ ค่ารักษาพยาบาล ก็ลดลง คุณภาพชีวิตด้านอื่นก็ลดลง

     การซื้อบ้านง่ายขึ้น คนก็หมดเงินแต่ละเดือนไปกับการผ่อนบ้าน ทั้งที่จริงหลายคนที่ผ่อนบ้านก็ไม่ได้มีเงินเดือนมาก ยังไม่มีความมั่นคง แต่ก็ยอมผ่อนตามความอยากตน ไม่คิดหน้าคิดหลังว่า จะมึอุปสรรคปัญหาอะไรตามมาบ้าง
     ถ้าให้การผ่อนบ้านเป็นเรื่องยาก ใครอยากจะซื้อบ้านก็ต้องคิดให้รอบด้าน ขออยู่บ้านเช่าก่อนดีกว่า ก็จะช่วยให้หลายๆคนมีความยืดหยุ่นทางการเงินมาก ลดภาระทางการเงินได้ดี การเงินคล่องตัวขึ้น
     ถ้าคนเงินเดือนน้อยจำนวนมากเลือกเช่าบ้านแทนซื้อบ้าน ก็ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านให้เจ้าของบ้านเช่า ช่วยให้รายย่อยได้เงิน เงินก็ยังหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แค่เปลี่ยนมือรับเงินจากนายทุนอสังหาฯ มาสู่ประชาชนรายย่อยที่เป็นเจ้าของบ้านเช่ามากขึ้น

     การผ่อนมือถือ 0% ก็เป็นกับดักให้คนตัดสินใจซื้อมือถือแบรนด์หรู ราคาแพงง่ายขึ้น ทั้งที่ความจำเป็นต่อการใช้งาน ซื้อแค่ราคา 5,000-6,000 หรือไม่เกิน 4,000 ก็พอ แต่ก็มีบางคนซื้อมือถือราคาแพงเวอร์ไว้โอ้อวดคนรอบข้าง
     ถ้าหลายคนที่ซื้อมือถือรู้จักคำนึงฐานะการเงินตน ซื้อมือถือเหมาะสมตามฐานะ พอแก่การใช้งาน ไม่ต้องซื้อไอโฟนหรือแบรนด์หรูเสมอไป เงินก็จะไปตกอยู่กับผู้ประกอบการที่ขายมือถือราคาไม่แพง
     ก็ถือว่าเงินก็ยังหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอยู่ เปลี่ยนมือจากเจ้านึงไปอีกเจ้านึง แต่ลูกค้าที่ซื้อมือถือราคาไม่แพงก็จะมีเงินเหลือไปซื้ออย่างอื่นที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า อาหาร ค่าเดินทาง เป็นต้น ซึ่งถ้าซื้อมือถือราคาแพงมาก ก็อาจจะขาดเงินไปซื้อสิ่งที่จำเป็นในชีวิตด้านอื่น

    ถ้าเรารู้จักฉลาดใช้เงิน เราก็จะสามารถจัดสรรการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์ลงตัวแก่ชีวิต และยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้รอบทิศทางด้วย เงินไม่ไปกระจุกตัวอยู่กับนายทุน เงินกระจายไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อยหลายบุคคลมากขึ้น
  หากในอนาคต สามารถยกเลิกผ่อน 0% ได้ยิ่งดี จะซื้ออะไรก็ตาม ให้ผ่อนยาก คิดดอกเบี้ยให้เยอะขึ้น

    ก่อนที่จะมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรจะมีมาตราการให้คนไทยรู้จักพอเพียง และใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด
    การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดจะเป็นตัวผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี สามารถกระจายการเงินให้คนอื่นได้รอบทิศทาง และสามารถสร้างความมั่นคง สร้างคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทยได้อย่างดี
 
    ต่อไปก็ควรจะมีระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ว่า คนเงินเดือนเท่านี้ ฐานะประมาณนี้ ควรใช้จ่ายอะไร เท่าไรบ้าง ถึงจะมีความมั่นคงในชีวิต มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมาะสมแก่ฐานะของตนเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่