ความสัมพันธ์ในวัย 30++

เชื่อว่าหลายๆคน ที่เคยมีความรัก แล้วต้องเลิกลา มีเหตุผลต่างๆทั้งแบบเลิกดี และเลิกไม่ดี ซึ่งกับตัวเราเองก็เช่นกัน และมีทั้งแบบ เขาทิ้งเรา และเราทิ้งเขา ทุกความสัมพันธ์ที่จบไป หากเป็นการเลิกแบบไม่ดี เช่น จำได้ว่าเขามีคนอื่น หรือนิสัยบางอย่างของเขาที่แก้ไม่หาย และเรารับมันไม่ได้จริงๆ เหตุผลแบบนี้มันเป็นอะไรที่ตัดใจได้โคตรง่าย แต่หากเลิกกันด้วยเหตุผลเรื่องของเวลา เรื่องของงาน ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ต้องเจอกันน้อยลง หรือทำให้เป้าหมายที่เคยมองร่วมกัน มันไม่สามารถทำร่วมกันให้สำเร็จได้ ยิ้ม โคตรเจ็บ!

เรากับแฟน เพิ่งคบกันได้ไม่นาน ยังไม่ถึงปี แต่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมามาก เขาเองก็รู้ปัญหาในชีวิตของเรา แต่ก็ยังรับได้ เราก็เรียนรู้ความเป็นตัวตนของเขา บางสิ่งเขาก็พยายามปรับ เพื่อจะได้ทำให้ความสัมพันธ์มันไปต่อและดีขึ้นได้ ตลอดเวลาที่คบกันมันมีแต่พลังงานบวก และเขาคือคนที่เป็นกำลังใจให้เราในทุกด้าน และทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราตามหาและต้องการให้เกิดขึ้นในความสัมพันธ์. เรากับแฟนคบกันได้ประมาณ 6 เดือน ไป-มา สลับมาเจอกันตลอด เราเป็นคนชานเมือง ส่วนเขาเป็นหนุ่มสุขุมวิท เราใช้เวลาขับรถไปเจอเขาประมาณชั่วโมงครึ่งได้ ส่วนเขาเวลาจะมาหาเรา ก็ต้องเสียเวลานั่ง รถไฟฟ้ามาเกือบ 2 ชั่วโมงเช่นกัน. เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้กันมาตลอด 3-4 เดือน  

ชีวิตสาวชานเมืองอันห่างไกลในวัย 35 เราก็มีบ้านที่ต้องผ่อน มีงาน สังคม และครอบครัวที่ไกลห่างจากเขา และด้วยความเป็นเมืองที่ไม่ได้มีอะไรให้ทำมากมาย นอกจากร้านอาหารแนวครอบครัว และร้านคาเฟ่กาแฟ แล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ทำเลยแถมต้องขับรถออกไปไกลๆ ไม่มีรถสาธารณะคอยอำนวยการเดินทางเหมือนในเมือง ซึ่งแตกต่างจากที่เขาอยู่มาก สถานที่ที่เขาอยู่รายล้อมด้วยร้านอาหาร สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการเดินทางที่แสนสะดวก สังคมของเขามันรวมอยู่ที่นั้นหมด มันเลยทำให้เขาเองก็ไม่สามารถย้ายมาอยู่กับเรา และเราเองก็ไม่สามารถย้ายไปอยู่กับเขาได้แบบเต็มตัวเช่นกัน ปัญหาเรื่องระยะทาง และเวลามันจึงเกิดขึ้น

ระยะหลังเราต้องไปโฟกัสเรื่องอื่นเพิ่มขึ้น ทำให้เวลาที่เราจะไปเจอเขาน้อยลง ได้ใช้ชีวิตร่วมกันน้อยลง ซึ่งเราเองก็คิดอยู่ว่าเราให้เวลาเขาได้ไม่เหมือนเดิมแต่เราไม่เคยอธิบาย หรือถามความรู้สึกของเขาเลย เพราะเราคิดว่าการโทรคุย และพิมพ์ข้อความหากัน มันจะช่วยชดเชยได้. แต่ด้วยพื้นฐานที่เขาไม่ได้ติดโซเชียว ไม่ติดโทรศัพท์ ไม่ใช่สายรายงานว่าตัวเองทำอะไร หรือจะไปไหน สิ่งที่เราพยายามชดเชย มันเลยไม่เพียงพอกับเขา.จนมันเดินมาถึงวันที่เขาอัดอั้นจนต้องพูดมันออกมา สุดท้ายแล้ว เราก็หาโซลูชั่นร่วมกันไม่ได้ และตกลงที่จะยุติความสัมพันธ์นี้

ตลอดระยะเวลาที่ยุติความสัมพันธ์ เราเองก็พยายามไม่ส่งข้อความ ไม่พูดคุยกับเขาเหมือนก่อน เพราะไม่อยากทำให้เรื่องมันจบยากขึ้น และเราก็อยากให้ทั้งเราและเขาได้มีเวลาคิด หรือสามารถมองหาความสัมพันธ์แบบที่ต้องการกับคนอื่นๆได้ พูดง่ายๆคือไม่อยากเสียเวลากับสิ่งที่ตกลงแล้วว่าจะจบ แต่มันก็ไม่เคยง่ายเลย บางครั้งเขาเองก็เป็นฝ่ายที่ทักมาหาเรา ถามสารทุกข์สุขดิบกันตามประสาคนยังเป็นห่วง ซึ่งช่วงนั้นเราเองก็สับสน เพราะเราคิดว่าในเมื่อเขาคิดและไตร่ตรองมานานแล้วเกี่ยวกับความรู้สึกที่ขาด ที่ไม่ได้รับจากเรามานานจนทำให้เขาตัดสินใจพูดเรื่องนั้นและจะขอหยุด แล้วเขาจะกลับมารั้งเราไว้อีกทำไม. เราจึงพลั้งปากพูดจาเหมือนไม่อยากคุยกับเขาอีกต่อไป จนทำให้เขาหายไปจริงๆ เพราะเขาเองก็ไม่อยากทำให้เราเจ็บ และไม่อยากทำให้เรื่องนี้มันยากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งเขาและเราก็ยังหาทางออกให้กับเรื่องนี้ด้วยกันไม่ได้

รักกัน ห่วงกัน แต่การดำเนินชีวิต วิถีชีวิตที่ต่างและห่างไกล มันทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันต้องจบ เราเองก็เคยเห็นคู่อื่นๆที่เขาอยู่กันคนละจังหวัด คนละประเทศ เขาก็ยังคงความสัมพันธ์กันได้ ซึ่งพอเรากลับมามองดูที่คู่ของเรา บางทีมันก็ทำให้เราคิด ว่าหรือเรายังรักกันไม่มากพอ..แต่ก็นะ อายุขนาดนี้แล้ว เราก็ต่างรู้กัน ว่าความรักมันกินไม่ได้ มันไม่สามารถชนะได้ทุกอย่าง สุดท้าย เราก็ยังต้องใช้ชีวิต ทำงาน หาเงิน และมองความมั่นคงให้กับตัวเองเป็นหลัก

วันนี้ครบ 1 เดือนที่เลิกกัน ที่ผ่านมาเราก็ยังมีส่งข้อความหาเขาอยู่บ้างนานๆครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่เขาตอบกลับมามันยังคงแสดงถึงความรักที่มีให้กันอยู่เสมอ แต่ก็สัมผัสได้ว่าถึงจุดนึงเราก็ต้องหยุดคุย หยุดโต้ตอบข้อความ เพราะมันยิ่งทำให้คิดถึงวันเก่าๆ

...มาถึงตรงนี้เราเองอยากกลับไปหา และคบกับเขามากๆ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับเขายังไง อยากให้เขารับได้ในสิ่งที่เราเป็น ก็คือเรื่องของเวลา ซึ่งมันก็เป็นความเห็นแก่ของเราตัวอ่ะแหละ หรือคนที่อ่านกระทู้นี้ ใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างไหม หาทางแก้ไขกันยังไง หรือ เราควรยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเก็บเขาไว้ในความทรงจำและเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่