“ชยพล” แฉปฏิบัติการไอโอกองทัพ ตั้งไซเบอร์ทีมโจมตีเป้าหมาย "พิเชษฐ์" สั่งเบรกอภิปราย จนประท้วงวุ่น.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9689838
.
.
“ชยพล” แฉปฏิบัติการไอโอกองทัพ ตั้งไซเบอร์ทีมโจมตีใส่เป้าหมาย ปูดใช้วิธีเดียวกับแก๊งคอลฯ หลอกล้วงข้อมูลดำเนินคดี แม้แต่นายกฯ ยังโดน “พิเชษฐ์” สั่งเบรกอภิปราย เหตุพาดพิงบุคคลภายนอก จนประท้วงวุ่น
.
เมื่อเวลา 17.49 น.วันที่ 25 มี.ค.68 นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการเป็นนั่งร้านให้แก่กลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้บิดากลับมามีอำนาจเหมือนอภิสิทธิ์ชน ทรยศประชาชน หันไปสยบยอมอำนาจนิยม ทิ้งการปฏิรูปกองทัพ ปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือแทรกแซงการเมือง และปลุกปั่นสร้างความแตกแยก เซาะกร่อนบ่อนทำลายประชาธิปไตย
.
นายชยพล กล่าวว่า หนึ่งในกระบวนการที่ทำให้อำนาจของกองทัพอยู่เหนือรัฐบาลพลเรือน คือการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) สร้างกระแสและความเชื่อผิดๆ รวมถึงความเกลียดชัง เพื่อทำลายคู่ขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งประชาชนคาดหวังว่าหลังจากขับไล่รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารได้แล้ว ขบวนการเหล่านี้จะหมดสิ้นลง แต่เมื่อ น.ส.แพทองธาร ไปทําดีลกับปีศาจและขึ้นมามีอำนาจ ขบวนการไอโอกลับเติบโตและเลวร้ายยิ่งขึ้น
.
นายชยพล อธิบายย้อนไปถึงช่วงการเลือกตั้งปี 2566 ทุกเหล่าทัพจัดตั้ง “คณะทำงานความมั่นคงพิเศษ” เพื่อดำเนินการเรื่องข่าวสารในกลุ่มเป้าหมายที่มีความสำคัญ จำนวน 73 เป้าหมาย และสั่งการให้ตั้ง “Cyber Team” เพื่อคอยประสานงานและรับผิดชอบงานไอโอ กระชับให้เกิดการรวมศูนย์ มีการประชุมกันทุกวันพุธหรือวันพฤหัส
.
นายชยพล กล่าวต่อว่า กลุ่มเป้าหมายจะถูกติดตาม ถูกสอดแนม และถูกขุดคุ้ยข้อมูลส่วนตัว มองหาจุดอ่อนต่างๆ หรือปั้นเรื่องขึ้นมาเป็นข้อมูลด้านมืด เพื่อใช้โจมตีเป้าหมาย และยกตัวอย่างด้วยการเปิดเผยเอกสารที่ระบุถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกระบุว่ามีพฤติกรรมต่อต้านสถาบันฯ และรัฐบาล มีรายงานการดำเนินการสร้างภาพจำด้วยข้อมูลด้านมืด เช่น ด้อยค่าเรื่องการหาเสียง ยุให้สร้างความแตกแยกภายในพรรค ไปจนถึงบิดเบือนโจมตีเรื่องส่วนตัวต่างๆ
.
นายชยพล เปิดภาพแผนผังที่มีการระบุว่ากองทัพมีการแบ่งความรับผิดชอบ ให้แต่ละหน่วยงานล็อกเป้าและโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งกอง บัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือรับผิดชอบ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังจัดกลุ่มเป้าหมายออกเป็นกลุ่ม 1.ทุนต่างชาติ 2.ผู้ที่มีบทบาทจุดประเด็นในสังคม 3.กลุ่มสร้างกระแสชี้นำแนวคิดเยาวชน 4.กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักวิชาการและ NGOs นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งกลุ่ม สส.ของพรรคประชาชนจำนวนทั้งหมด 22 คนอีกด้วย
.
นายชยพล กล่าวว่า เพจที่เป็นเครือข่ายไอโอของกองทัพ จะรายงานประจำสัปดาห์ จะใช้เป็นต้นนํ้าของข้อมูลข่าวสาร โดยยกตัวอย่างช่วงเวลาที่เรื่องคดีตากใบใกล้หมดอายุความ กองทัพได้ติดตามว่ากลุ่มเป้าหมาย พร้อมบรีฟให้โพสต์ตอบโต้ว่า “คดีตากใบ มีความละเอียดอ่อนต้องคำนึงถึงผลกระทบหลายด้าน”
.
นายชยพล กล่าวยํ้าว่า ไม่ใช่กิจของกองทัพที่จะเอาเวลาราชการ ทรัพยากร และกำลังพล ไปรุมโจมตีใครต่อใครเพื่อโน้มน้าวความคิดเห็นทางการเมือง นี่คือการแทรกแซงการเมือง ปลุกปั่นให้เกลียดชังคนที่ตรวจสอบกองทัพ อยากเห็นการปฏิรูปกองทัพ คนที่รณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชน หรือคนที่ไม่สนับสนุนการรัฐประหาร เป็นผลลัพธ์ของการที่ น.ส.แพทองธาร ทำดีลกับปิศาจ ทำให้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งขบวนการเหล่านี้ได้
.
นายชยพล กล่าวว่า มีการโจมตีแบบ Phishing ใช้เหยื่อล่ออย่างเว็บไซต์ปลอม อีเมลหรือข้อความปลอม ส่งให้เป้าหมายหลงเชื่อแล้วงับเหยื่อ ซึ่งแก๊งสแกมเมอร์ก็มักใช้วิธีการเหล่านี้ เพื่อโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว แต่กองทัพจะใช้วิธีการนี้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ล่อให้คนรอบตัวเป้าหมาย พูดคุยในประเด็นเสี่ยงกฎหมาย แคปหน้าจอสร้างหลักฐานนำไปดำเนินคดีต่อ หรือการสวมรอยเป็นคนในพรรคการเมือง เพื่อหลอกถามข้อมูล นอกจากนี้มีการใช้วิธีแบบ Brute Force เพื่อเข้าระบบคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ อีเมล แอปฯ หรือบัญชีโซเชียลมีเดียของเป้าหมาย โดยการเดารหัสผ่านของเป้าหมายสุ่มไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางไซเบอร์โดยเจ้าหน้าที่รัฐ สิ่งนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลพลเรือนของ น.ส.แพทองธาร
.
นายชยพล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา มีปฏิบัติการทางไซเบอร์แบบนี้ ต่อเป้าหมาย 85 ราย รวมทั้งสิ้น 84,641 แบ่งเป็น Phishing 44,096 ครั้ง Report 10,044 ครั้ง Brute Force 26,231 ครั้ง Spam 4,270 ครั้ง ซึ่งหลังเดือนกันยายน ปี 67 กองทัพก็ยังดำเนินการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์แบบนี้อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์
.
กระทั่งเวลา 19.17 น. นายพิเชษฐ์ ได้สั่งให้ นายชยพล หยุดการอภิปราย เนื่องจากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกจำนวนมาก และนำเอกสารลับของทางการราชการมาใช้ตลอดการอภิปราย ซึ่งประธานฯ ได้ทักท้วงว่ามีการเซ็นรับรองเอกสารถูกต้องหรือไม่ หากเกิดความเสียหายขึ้นสภาก็รับไม่ไหว
.
ทั้งนี้ หลังจากประธานฯ สั่งให้หยุดการอภิปราย ทำให้ สส.พรรคประชาชนหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมสอบถามว่า นายชยพล ทำผิดข้อไหน โดย น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ลุกขึ้นขอร้องประธานฯ ว่า ถ้าใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ ที่ผ่านมาเราทั้งสองพรรคก็โดนเรื่องแบบนี้ จึงขอให้เพื่อนสมาชิกที่กำลังอภิปรายได้พูดต่อ หากเกิดอะไรขึ้นให้เขารับผิดชอบตัวเอง การให้หยุดอภิปรายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม จึงขอให้ทบทวนคำวินิจฉัย
.
สุดท้าย นายพิเชษฐ์ ได้ให้ นายชยพล อภิปรายต่อเป็นเวลา 10 นาที แต่ไม่ใช้ให้สไลด์ประกอบการอภิปราย
.
นายชยพล กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีต้องทราบว่าเรื่องดังกล่าวผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หลายมาตรา เช่น มาตรา 5,7,8,10,14 เป็นภัยต่อความมั่นคงของประชาชน แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของท่านนายกฯ กลับปฏิบัติการเป็นอาชญากรทางไซเบอร์ มีคนบางกลุ่ม ที่ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้า ได้ประโยชน์จากการสร้างความขัดแย้ง บางคนได้ดิบได้ดี หรืออาจถึงขั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยอาศัยนิยายเรื่องขบวนการล้มล้างสถาบันฯ ที่ปั้นแต่งกันขึ้นมา
.
นายชยพล กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองฝ่ายไหน ต่างก็ตกเป็นเป้าหมายของไอโอกองทัพได้ เพื่อผลประโยชน์ของนายพลบางกลุ่ม แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วย โดยถูกโพสต์กล่าวหาว่าจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนให้กับประเทศกัมพูชา โจมตีรัฐบาลเรื่องให้สัญชาติกับคนต่างด้าว บอกว่าเป็นการกระทำที่อกตัญญูต่อบรรพชนชาวไทย โจมตีเรื่องคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี บอกว่าทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยก็มี สส.ที่มีประสบการณ์จำนวนมาก ทำไมไม่เอาคนพวกนั้นมาบริหารประเทศ หรือคนกลุ่มนั้นเป็นได้แค่พี่เลี้ยงเด็ก มีติ้กถูกแค่คุณสมบัติเดียว คือการมีพ่อเป็นอดีตนักโทษชาย อีกทั้งโจมตีเรื่องการแต่งตัวไม่เหมาะสมในขณะที่เดินทางไปพบผู้นำต่างประเทศ
.
นายชยพล กล่าวต่อว่า ยังมีเอกสารของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ประมาณการภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 67 ถึงวันที่ 30 กันกันยายน 68 มีการระบุถึง “กลุ่มบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์“ มีรายชื่อได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
.
นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างที่ไอโอกองทัพ เพจชื่อ Evil Digger ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ นายทักษิณ เช่น “ส่องคดีทักษิณ อ้างป่วยเรื้อรังเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ” “ชกมวยอยู่เมืองนอก กลับไทยแล้วป่วย” “ขึ้นชื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ทำไมตรวจสอบไม่ได้”
.
นายชยพล กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือความเลวร้ายที่ น.ส.แพทองธาร ปล่อยให้กลไกของทัพไม่ถูกกำกับโดยรัฐบาลพลเรือน ปล่อยให้มีมุมมืดใช้ทรัพยากรของกองทัพเข้ามาแทรกแซงการเมือง ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็ง และมีศักยภาพเพียงพอจะเผชิญกับภัยความมั่นคงยุคใหม่ และทหารนํ้าดีส่วนใหญ่ในกองทัพ
.
พวกเขาก็อยากเห็นกองทัพไทยที่ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ พวกเขาไม่สบายใจที่มีนายพลบางกลุ่มมักแอบอ้างเรื่องสถาบันฯ เพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี ได้อำนาจ ได้งบประมาณ โดยไม่ต้องรับผิดชอบว่าพฤติกรรมการแอบอ้างของตนนั้น จะส่งผลกระทบต่อสถาบันฯ ในระยะยาวอย่างไร หากเรามีนายกฯ ที่มีสำนึกประชาธิปไตย เห็นความสำคัญของการปฏิรูปกองทัพ เราจะมีกองทัพที่ดีต่อชาติ ประชาชน และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
.
.
จิรัฏฐ์ อัดนายกฯเจน Y ไม่สนใจปฏิรูปกองทัพ-ป้องรัฐประหาร ทั้งที่ถูกย่ำยีมาตลอด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5109211
.
‘จิรัฏฐ์’ ผิดหวังนายกฯเจน Y ไม่สนใจปฏิรูปกองทัพป้องกันรัฐประหาร หลังตระกูลถูกย่ำยีมาตลอด 2 ทศวรรษ
.
เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 25 มีนาคม นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน อภิปรายว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำลายโอกาส ทำลายความหวังประชาชน ที่อยากเห็นการปฏิรูปกองทัพด้วยการโกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน นายกฯจงใจให้กองทัพนำทรัพยากรของชาติไปหากิน ทั้งหมดเพื่อให้ได้มาซึ่งใบรับรองการได้มาซึ่งอำนาจอีกครั้ง พร้อมที่นอนวีวีไอพีชั้น 14 ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเหลือเพียงการเปลี่ยนผ่านการเกณฑ์ทหารไปสู่ความสมัครใจ และการลดขนาดกองทัพ แต่ปีที่ผ่านมานายกฯเลื่อนยศนายพลไปแล้ว 990 คน โยกย้ายตำแหน่ง 306 คน เป็นตำแหน่งลอยถึง 209 คน หรือคิดเป็น 70% พร้อมแสดงเอกสารที่ได้รับการตอบกลับจากกระทรวงกลาโหม 2,372 คน จำนวนนายพลประเทศไทยวันนี้มี 3,000 คน ปัญหานายพลล้นกองทัพนายกฯรู้ดี แต่ผ่านมา 6 เดือนท่านทำแค่โครงการเกษียณก่อนกำหนด เพื่อลดจำนวนนายพลให้ได้ปีละ 244 คน หากทำได้ท่านเอาไตข้างหนึ่งของตนไปได้เลย เพราะตั้งแต่ท่านเป็นนายกฯ ได้เลื่อนยศนายพลไปแล้ว 750 คน แต่มีนายพลเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดปี 67 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.ค.67 เพียง 4 คน
.
นายจิรัฏฐ์ ยังอภิปรายถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีเรือหลวงสุโขทัยลอับปางจากพายุ ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.65 ทำให้มีกำลังพลเสียชีวิต 29 ราย ความเสียหายร้ายแรงขนาดนี้ไม่มีใครต้องรับผิดชอบเลย ก่อนหน้านี้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เร่งให้มีการสอบสวนสาเหตุเรืออับปาง อดีตรัฐมนตรีของท่านเคยรับปากในสภาแห่งนี้ว่าจะให้มีการสอบสวนใหม่ และให้เปิดเผยผลสอบแก่สาธารณะ แต่พอเปลี่ยนนายกฯเป็น น.ส.แพทองธาร ผลสอบสวนเรือหลวงสุโขทัยกลายเป็นเอกสารลับสุดยอดทันที แทนที่ทหารเรือทั้ง 29 ราย จะได้รับความยุติธรรมกลับต้องมาตายฟรี เพราะดีลแลกประเทศของท่านใช่หรือไม่ ที่ทำให้ท่านไม่กล้าแตะต้องกองทัพเลย ท่านไม่ได้เห็นแก่คนตาย ท่านเห็นแต่คนเป็น ช่วยแต่คนเป็น
.
JJNY : แฉปฏิบัติการไอโอกองทัพ│จิรัฏฐ์อัดไม่สนใจปฏิรูปกองทัพ-ป้องรปห.│พวงทองข้องใจพท.ขวาง│ทำปท.เป็นดินแดนศูนย์เหรียญ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9689838
.
.