การประมูลความถี่ 3500 สอดไส้คลื่นทีวี ร่วมวงประมูลคลื่นมือถือด้วยหรือไม่?
จากบอร์ดกสทช. เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้ให้สำนักงาน กสทช. กลับไปจัดทำรายละเอียด และเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
หรือ ประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล
ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz อีกครั้ง หลังจากที่เคยได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยการเตรียมประมูลคลื่นความถี่ 6 ย่าน รวมถึง 3500 MHz ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่ได้รวมไว้ในการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการมือถือหรือไม่
การประมูลคลื่นในครั้งนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนที่ใบอนุญาตของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) จะหมดอายุในวันที่ 3 ส.ค. 68 หากล่าช้า อาจต้องใช้มาตรการเยียวยาหรือขยายเวลา ซึ่งจะขัดกับคำพิพากษาของศาลที่ระบุว่า การประมูลต้องเกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายต่อรัฐและผู้ใช้บริการ ทาง กสทช. ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่?
ทางด้านสำนักงาน กสทช. ต้องเสนอแนวทางภายใน 7 วัน หากได้ข้อสรุปภายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 การประมูลจะดำเนินการตามกำหนดเดิม คือวันที่ 17-18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 หรือเลื่อนออกไปไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่หากไม่มีข้อสรุป การประมูลอาจล่าช้าโดยไม่มีกำหนด
สำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการนำคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์มาประมูลในครั้งนี้ คือการที่ยังไม่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในรอบแรก อาจทำให้เกิดการคัดค้านจากผู้บริโภคและเกิดข้อสงสัยว่า การเร่งประมูลคลื่นที่ใช้งานได้จริงในอีก 3 ปีข้างหน้า เป็นการแย่งชิงความได้เปรียบทางธุรกิจมากกว่าตอบโจทย์ทางเทคนิค??
ปัจจุบัน คลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz นี้ ได้ใช้งานในกิจการโทรทัศน์ดิจิทัล ยังคงใช้ดาวเทียม C-band ซึ่งต้องอาศัยย่านความถี่ดังกล่าวในการแพร่ภาพ โดยดาวเทียม C-band ถือเป็นช่องทางหลักที่ทีวีดิจิทัลใช้ในการออกอากาศ และจะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572
การประมูลความถี่ 3500 สอดไส้คลื่นทีวี ร่วมวงประมูลคลื่นมือถือด้วยหรือไม่?
จากบอร์ดกสทช. เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้ให้สำนักงาน กสทช. กลับไปจัดทำรายละเอียด และเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
หรือ ประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล
ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz อีกครั้ง หลังจากที่เคยได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการมือถือหรือไม่
การประมูลคลื่นในครั้งนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนที่ใบอนุญาตของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) จะหมดอายุในวันที่ 3 ส.ค. 68 หากล่าช้า อาจต้องใช้มาตรการเยียวยาหรือขยายเวลา ซึ่งจะขัดกับคำพิพากษาของศาลที่ระบุว่า การประมูลต้องเกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายต่อรัฐและผู้ใช้บริการ ทาง กสทช. ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่?
ทางด้านสำนักงาน กสทช. ต้องเสนอแนวทางภายใน 7 วัน หากได้ข้อสรุปภายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 การประมูลจะดำเนินการตามกำหนดเดิม คือวันที่ 17-18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 หรือเลื่อนออกไปไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่หากไม่มีข้อสรุป การประมูลอาจล่าช้าโดยไม่มีกำหนด
สำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการนำคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์มาประมูลในครั้งนี้ คือการที่ยังไม่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในรอบแรก อาจทำให้เกิดการคัดค้านจากผู้บริโภคและเกิดข้อสงสัยว่า การเร่งประมูลคลื่นที่ใช้งานได้จริงในอีก 3 ปีข้างหน้า เป็นการแย่งชิงความได้เปรียบทางธุรกิจมากกว่าตอบโจทย์ทางเทคนิค??
ปัจจุบัน คลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz นี้ ได้ใช้งานในกิจการโทรทัศน์ดิจิทัล ยังคงใช้ดาวเทียม C-band ซึ่งต้องอาศัยย่านความถี่ดังกล่าวในการแพร่ภาพ โดยดาวเทียม C-band ถือเป็นช่องทางหลักที่ทีวีดิจิทัลใช้ในการออกอากาศ และจะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1172163
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000026736