รีวิววรรณกรรมคลาสสิค The invisible man มนุษย์ล่องหน
ชื่อเรื่อง The invisible man
แนวเรื่อง วิทยาศาสตร์ ระทึกขวัญ
ผู้เขียน H. G. Wells
ผลงานผู้เขียน The Invisible Man , The Time Machine , The War of the Worlds
ที่มา
ผลงานของ H. G. Wells ทั้งหมด เป็น public domain หมดแล้วนะครับ
หนังสือเสียง ให้เสียงโดย James adams
จำนวน 135 หน้า
หนังสือเสียงความยาว 5 ชั่วโมง 19 นาที
สถานะ จบ
**เกริ่นนำ**
+นิยายเขียนขึ้นในปี 1897(2440) เป็นนิยายที่เขียนขึ้น 100 กว่าปีก่อน เก่าประมาณนึงนะ
+เรื่องนี้เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ อย่างมากก็ระทึกขวัญ ไม่สยองขวัญนะ
+เรื่องนี้มีหนังเยอะมาก แต่เวอร์ชั่นที่ตรงจริงๆ ใกล้เคียงที่สุดคือ หนังปี 1933 นะครับ จะใช้โครงเรื่องเดียวกัน แต่โทนเรื่องต่างกัน หนังจะเบากว่า กริฟฟินตัวเอกมีคนรัก มีจุดประสงค์ที่ต่างกับในหนังสือ หนังสือออกแนวดาร์กๆหน่อย ช่วงท้ายเรื่องต่างกันมาก หนังออกเศร้า นิยายออกเครียด
+หนังอย่าง hollow man (2000) , the invisible man (2020) ไม่มีอะไรตรงกับนิยายเลยนะ แค่มีมนุษย์ล่องหนเหมือนกันแค่นั้นละ
+มีคอมมิคดัดแปลงมากมายหลากหลายเวอร์ชั่นเลย
**พล็อตเรื่อง**
เรื่องราวของ กริฟฟิน ชายที่หนีพายุหิมะ เข้ามาหลบในโรมแรมเล็กๆแห่งนึง เขาแต่งกายประหลาด เอาผ้าพันแผลพันทั้งใบหน้า แต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาว ใส่ถุงมือ ไม่พูดคุยกับใคร เป็นคนที่ทำให้ทุกคนในโรมแรมสงสัยว่าเขามีต้องอะไรผิดปกติแน่ๆ
กริฟฟิน ไม่พบ ไม่พูดกับใคร มีเสียงดังผิดปกติในห้องพักเขาบ่อยๆ จนเจ้าของที่พักเริ่มสงสัย ขณะเดียวกัน ในเมืองเริ่มมีเหตุการณ์ของหาย ขโมยขึ้นบ้าน แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไร
ตำรวจเริ่มสงสัย กริฟฟิน ชายประหลาดที่ที่มาจากต่างเมือง
หลังจากนั้นตำรวจและเจ้าของโรมแรม ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับกริฟฟิน ทั้งสองถึงได้รู้ว่า เขาได้พบกับมนุษย์ล่องหน มนุษย์ล่องหนต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคดีขโมยของอยู่แล้ว
กริฟฟิน หนีออกมาจากโรงแรมด้วยความง่ายดาย เพราะเขาล่องหนได้ จะหนีจากใครไม่ใช่เรื่องยาก แต่การใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ล่องหนสิ ไม่ง่าย
จะล่องหนได้สนิท ต้องเปลือยกาย อยู่ในฤดูหนาว หาอาหารก็ลำบาก กริฟฟินเริ่มใช้ความเป็นมนุษย์ล่องหน ขู่คน หาลูกน้องให้ทำตามที่เขาสั่ง ไม่งั้นจะฆ่าซะ
หลังจากได้ลูกน้องแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ กลับไปที่โรงแรม เอาข้าวของกลับมา โดยเฉพาะบันทึกการทดลองที่จะช่วยให้เขากลับร่างเดิมได้
เรื่องราวของกริฟฟินจะเป็นยังไงต้อง ติดตาม
**เนื้อเรื่อง**
เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นสองช่วงง่ายๆครับ คือ
ช่วงต้น ที่กริฟฟินยังวุ่นกับการทดลองอยู่ในโรงแรม จนคนเริ่มสงสัย อยากรู้ อยากเห็นว่า เกิดอะไรขึ้นในห้อง ช่วงนี้จะเป็นนิยายลึกลับ เราจะเห็นบทบรรยายรวมถึงรู้จักนิสัยของกริฟฟิน
ช่วงกลางและช่วงท้าย กริฟฟินเราจะได้เห็นตัวตนของกริฟฟิน เราถึงรู้จักอดีตของกริฟฟินด้วย
กริฟฟินหนีตาย มาเจอกับ ดร.เคม อดีตเพื่อนร่วมเรียนในอดีต เขาเล่าเรื่องการทดลองให้เคมฟัง หวังว่าจะได้เคมเป็นเพื่อนงานวิจัย แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น ยิ่งกริฟฟินล่องหนนานมากเท่าไร เขายิ่งเป็นตัวเองน้อยลงเท่านั้น การทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อไม่มีใครจับเขาได้ ทำไมต้องทำตามกฏหมายด้วยละ
ดร.เคม เองก็เริ่มกลัวกริฟฟิน เราจะไว้ใจคนทีล่องหนได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่ฆ่าเราตอนหลับ ทำให้เคมคิดจะหักหลัง กริฟฟิน
ช่วงนี้เราจะได้เห็นปฏิกิริยาของคนในเมือง เมื่อรู้ว่ามนุษย์ล่องหนมีจริง เห็นวิธีการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหน เห็นมุมมองของคนอื่น ว่าการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหนมันดีหรือไม่ดียังไง
**รีวิว**
เรื่องนี้เป็นนิยายที่น่าสนใจมาก ตอนแรกนึกว่าจะเชยๆ หรือ ใช้มุกมนุษย์ล่องหนแบบที่เคยเห็นในหนังหลายๆเรื่อง ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะนิยายเก่ามากละ แต่กลับเขียนออกมาได้ดี มีมุมมองน่าสนใจ
+เนื้อเรื่อง
ผมอยากให้คุณอยากเรื่องนี้ ด้วยความคิดที่ว่ามันเป็นนิยายจากปี 1897(2440) นะครับ ไม่มีโซเชียลมีเดีย คนยังติดต่อสื่อสารกันแบบปากต่อปากอยู่ นึกภาพคนสมัยก่อนไว้ แล้ววันนึง ทุกคนในเมืองรู้ว่า มนุษย์ล่องหนมีจริง! น่าสนใจนะ
นี่เป็นนิยายมนุษย์ล่องหนที่ทุกคนในเมืองรับรู้ ไม่ใช่แค่สเกลเล็กๆแบบในหนังหลายๆเรื่อง ที่รู้กันไม่กี่คน แบบหนังสยองขวัญ แต่เรื่องนี้รู้กันระดับเมืองเลย
พอรู้กันระดับเมือง ว่ามนุษย์ล่องหนมีจริง สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจมาก คนตื่นตระหนก ลมพัด ของหาย ใครเจ็บ ใครตาย คนก็คิดว่ามนุษย์ล่องหนทำหมด
การตามหาตัวมนุษย์ล่องหนเป็นเรื่องยากมาก เพราะทุกคนที่ตื่นตระหนก ก็มาแจ้งกับตำรวจหมดว่ามนุษย์ล่องหนอยู่ใกล้ตัวเองกันหมด ตำรวจงงเลย ไม่รู้จะตามหายังไงดี
แล้วมนุษย์ล่องหนละ อยู่ยังไง ตรงนี้ก็น่าสนใจนะ ถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็อยู่ง่ายหน่อยละ มีมือถือเครื่องเดียว หาของกินง่ายๆ มีแอร์ มีฮีตเตอร์ ล่องหนหรือไม่ ก็อยู่ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนละ
มนุษย์ล่องหน จะล่องหนได้ ก็ต้องไม่ใส่เสื้อผ้า พอไม่ใส่เสื้อผ้า อากาศหนาว จะอยู่ยังไง นี่สมัยก่อนนะ หาของกินก็ลำบาก ไม่มีเงินใช้ มนุษย์ล่องหนก็ต้องเริ่มขโมยของหรือขู่คนให้ทำตาม แถมยังต้องรับผิดชอบอาชญากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่ออีก ใครของหาย ก็คิดว่ามนุษย์ล่องหนเป็นคนทำหมดละ
เราจะรู้เริ่มถึงดาบสองคมของการที่ล่องหนได้ นี่เป็นนิยายที่ทำให้เรารับรู้ถึงการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหน ว่ามันลำบากยังไงบ้าง ใช้ชีวิตยังง อยู่เหนือกฏหมายไม่ได้แปลว่าจะใช้ชีวิตได้ง่ายๆ ทุกคนกลัวมนุษย์ล่องหนกันหมด
การตามจับมนุษย์ล่องหนในรูปแบบสมัยก่อน ไม่มีกล้องจับความร้อน ไม่มีอุปกรณ์ เทคโนโลยีทันสมัย ต้องใช้กำลังคนล้วนๆ
ตอนอ่านแอบคิดเหมือนกันนะ ว่าถ้าเอาโครงเรื่องมาทำหนังยุคปัจจุบัน แบบสเกลใหญ่หน่อย น่าจะดี อยากเห็นมนุษย์ล่องหนสเกลใหญ่ระดับเมืองบ้าง น่าจะแอบหลอนๆอยู่
แบบให้เป็นเมืองปิดตาย ไม่มีใครเข้าออก แล้วทุกคนรู้ว่ามีมนุษย์ล่องหนอยู่ในเมือง น่าจะสนุก
นิยายเขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีเลย
+การดำเนินเรื่อง
ช่วงแรกจะเป็นนิยายลึกลับ คนในเรื่องพยายามจะหาเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกริฟฟินแต่งตัวแบบนั้น พอมีตำรวจมาสืบสวน คนก็อยากรู้ว่าคนที่มีผ้าพันแผลเต็มหน้าคือคนแบบไหน
ช่วงแรกไม่ค่อยสนุกเท่าไร ต้องเข้าใจว่ามุกแบบนี้เราเห็นในหนังหลายเรื่องแล้ว นี่เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเนอะ ช่วงแรกที่อ่านเลยออกธรรมดานิดนึง
เข้าช่วงท้าย เราจะได้เห็นชีวิตของมนุษย์ล่องหน ว่ามีนิสัยแบบไหน เป็นคนยังไง ก่อนหน้าเป็นมนุษย์ล่องหนเป็นใครมาก่อน ให้เราเห็นมุมมองของมนุษย์ล่องหน ตรงนี้คือดี
+ตัวละคร
ตัวเอกอย่างกริฟฟินมนุษย์ล่องหน เขียนได้น่าสนใจดีนะ
ตอนอ่านรู้สึกว่า อยากรู้จักกริฟฟินก่อนจะล่องหนได้จัง อยากรู้ว่านิสัยเป็นยังไง เปลี่ยนไปมากแค่ไหน อาชญากรรมที่ก่อขึ้น การทำร้ายคนอื่น ฆ่าคนอื่น มาจากนิสัยเดิมหรือเปล่า หรือพอล่องหนได้ หนีความผิดง่ายๆ เลยกลายเป็นคนนิสัยแบบนี้
ผมว่ามันมีเส้นแบ่ง ระหว่าง ไม่ทำเลว กับ ทำเลวได้แต่ไม่โดนจับ ถ้าเราทำได้แล้วไม่โดนจับ เราจะเลือกทำไหม เราอาจจะไม่ฆ่าใคร แต่จะไม่ทำอะไรไม่ดีเลยหรอ ไม่ขโมยของ ไม่แค้นใคร ไม่แกล้งใคร ไม่ทำอะไรไม่ดีเลย จริงอ่ะ น่าคิดนะ
ตัวละครอื่นๆอย่าง ดร.เคม เป็นทั้งตัวประกันและมองการล่องหนจากมุมคนนอก การล่องหนได้ หายตัวได้ เหมือนจะดี มีข้อได้เปรียบมากมาย แต่ถ้ากลับร่างเดิมไม่ได้ เราไม่ได้ล่องหนแค่ วันสองวัน หรือ เดือนสองเดือนนะ ล่องหนไปทั้งชีวิต มันดีจริงหรอ
ล่องหน โดดเดี่ยว ต่อให้มีคนรักได้ แต่คนรักจะไว้ใจคนที่ล่องหนได้จริงๆหรอ
สำหรับเรื่องนี้ ใครที่ชอบนิยายวิทยาศาสตร์แอบเครียดๆหน่อย อยากเห็นมุมมองของมนุษย์ล่องหน แนะนำให้ลองอ่านดูครับ
คะแนน 8.2/10 สนุกดี
รีวิววรรณกรรมคลาสสิค The invisible man มนุษย์ล่องหน
ชื่อเรื่อง The invisible man
แนวเรื่อง วิทยาศาสตร์ ระทึกขวัญ
ผู้เขียน H. G. Wells
ผลงานผู้เขียน The Invisible Man , The Time Machine , The War of the Worlds
ที่มา
ผลงานของ H. G. Wells ทั้งหมด เป็น public domain หมดแล้วนะครับ
หนังสือเสียง ให้เสียงโดย James adams
จำนวน 135 หน้า
หนังสือเสียงความยาว 5 ชั่วโมง 19 นาที
สถานะ จบ
**เกริ่นนำ**
+นิยายเขียนขึ้นในปี 1897(2440) เป็นนิยายที่เขียนขึ้น 100 กว่าปีก่อน เก่าประมาณนึงนะ
+เรื่องนี้เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ อย่างมากก็ระทึกขวัญ ไม่สยองขวัญนะ
+เรื่องนี้มีหนังเยอะมาก แต่เวอร์ชั่นที่ตรงจริงๆ ใกล้เคียงที่สุดคือ หนังปี 1933 นะครับ จะใช้โครงเรื่องเดียวกัน แต่โทนเรื่องต่างกัน หนังจะเบากว่า กริฟฟินตัวเอกมีคนรัก มีจุดประสงค์ที่ต่างกับในหนังสือ หนังสือออกแนวดาร์กๆหน่อย ช่วงท้ายเรื่องต่างกันมาก หนังออกเศร้า นิยายออกเครียด
+หนังอย่าง hollow man (2000) , the invisible man (2020) ไม่มีอะไรตรงกับนิยายเลยนะ แค่มีมนุษย์ล่องหนเหมือนกันแค่นั้นละ
+มีคอมมิคดัดแปลงมากมายหลากหลายเวอร์ชั่นเลย
**พล็อตเรื่อง**
เรื่องราวของ กริฟฟิน ชายที่หนีพายุหิมะ เข้ามาหลบในโรมแรมเล็กๆแห่งนึง เขาแต่งกายประหลาด เอาผ้าพันแผลพันทั้งใบหน้า แต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาว ใส่ถุงมือ ไม่พูดคุยกับใคร เป็นคนที่ทำให้ทุกคนในโรมแรมสงสัยว่าเขามีต้องอะไรผิดปกติแน่ๆ
กริฟฟิน ไม่พบ ไม่พูดกับใคร มีเสียงดังผิดปกติในห้องพักเขาบ่อยๆ จนเจ้าของที่พักเริ่มสงสัย ขณะเดียวกัน ในเมืองเริ่มมีเหตุการณ์ของหาย ขโมยขึ้นบ้าน แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไร
ตำรวจเริ่มสงสัย กริฟฟิน ชายประหลาดที่ที่มาจากต่างเมือง
หลังจากนั้นตำรวจและเจ้าของโรมแรม ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับกริฟฟิน ทั้งสองถึงได้รู้ว่า เขาได้พบกับมนุษย์ล่องหน มนุษย์ล่องหนต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคดีขโมยของอยู่แล้ว
กริฟฟิน หนีออกมาจากโรงแรมด้วยความง่ายดาย เพราะเขาล่องหนได้ จะหนีจากใครไม่ใช่เรื่องยาก แต่การใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ล่องหนสิ ไม่ง่าย
จะล่องหนได้สนิท ต้องเปลือยกาย อยู่ในฤดูหนาว หาอาหารก็ลำบาก กริฟฟินเริ่มใช้ความเป็นมนุษย์ล่องหน ขู่คน หาลูกน้องให้ทำตามที่เขาสั่ง ไม่งั้นจะฆ่าซะ
หลังจากได้ลูกน้องแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ กลับไปที่โรงแรม เอาข้าวของกลับมา โดยเฉพาะบันทึกการทดลองที่จะช่วยให้เขากลับร่างเดิมได้
เรื่องราวของกริฟฟินจะเป็นยังไงต้อง ติดตาม
**เนื้อเรื่อง**
เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นสองช่วงง่ายๆครับ คือ
ช่วงต้น ที่กริฟฟินยังวุ่นกับการทดลองอยู่ในโรงแรม จนคนเริ่มสงสัย อยากรู้ อยากเห็นว่า เกิดอะไรขึ้นในห้อง ช่วงนี้จะเป็นนิยายลึกลับ เราจะเห็นบทบรรยายรวมถึงรู้จักนิสัยของกริฟฟิน
ช่วงกลางและช่วงท้าย กริฟฟินเราจะได้เห็นตัวตนของกริฟฟิน เราถึงรู้จักอดีตของกริฟฟินด้วย
กริฟฟินหนีตาย มาเจอกับ ดร.เคม อดีตเพื่อนร่วมเรียนในอดีต เขาเล่าเรื่องการทดลองให้เคมฟัง หวังว่าจะได้เคมเป็นเพื่อนงานวิจัย แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น ยิ่งกริฟฟินล่องหนนานมากเท่าไร เขายิ่งเป็นตัวเองน้อยลงเท่านั้น การทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อไม่มีใครจับเขาได้ ทำไมต้องทำตามกฏหมายด้วยละ
ดร.เคม เองก็เริ่มกลัวกริฟฟิน เราจะไว้ใจคนทีล่องหนได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่ฆ่าเราตอนหลับ ทำให้เคมคิดจะหักหลัง กริฟฟิน
ช่วงนี้เราจะได้เห็นปฏิกิริยาของคนในเมือง เมื่อรู้ว่ามนุษย์ล่องหนมีจริง เห็นวิธีการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหน เห็นมุมมองของคนอื่น ว่าการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหนมันดีหรือไม่ดียังไง
**รีวิว**
เรื่องนี้เป็นนิยายที่น่าสนใจมาก ตอนแรกนึกว่าจะเชยๆ หรือ ใช้มุกมนุษย์ล่องหนแบบที่เคยเห็นในหนังหลายๆเรื่อง ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะนิยายเก่ามากละ แต่กลับเขียนออกมาได้ดี มีมุมมองน่าสนใจ
+เนื้อเรื่อง
ผมอยากให้คุณอยากเรื่องนี้ ด้วยความคิดที่ว่ามันเป็นนิยายจากปี 1897(2440) นะครับ ไม่มีโซเชียลมีเดีย คนยังติดต่อสื่อสารกันแบบปากต่อปากอยู่ นึกภาพคนสมัยก่อนไว้ แล้ววันนึง ทุกคนในเมืองรู้ว่า มนุษย์ล่องหนมีจริง! น่าสนใจนะ
นี่เป็นนิยายมนุษย์ล่องหนที่ทุกคนในเมืองรับรู้ ไม่ใช่แค่สเกลเล็กๆแบบในหนังหลายๆเรื่อง ที่รู้กันไม่กี่คน แบบหนังสยองขวัญ แต่เรื่องนี้รู้กันระดับเมืองเลย
พอรู้กันระดับเมือง ว่ามนุษย์ล่องหนมีจริง สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจมาก คนตื่นตระหนก ลมพัด ของหาย ใครเจ็บ ใครตาย คนก็คิดว่ามนุษย์ล่องหนทำหมด
การตามหาตัวมนุษย์ล่องหนเป็นเรื่องยากมาก เพราะทุกคนที่ตื่นตระหนก ก็มาแจ้งกับตำรวจหมดว่ามนุษย์ล่องหนอยู่ใกล้ตัวเองกันหมด ตำรวจงงเลย ไม่รู้จะตามหายังไงดี
แล้วมนุษย์ล่องหนละ อยู่ยังไง ตรงนี้ก็น่าสนใจนะ ถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็อยู่ง่ายหน่อยละ มีมือถือเครื่องเดียว หาของกินง่ายๆ มีแอร์ มีฮีตเตอร์ ล่องหนหรือไม่ ก็อยู่ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนละ
มนุษย์ล่องหน จะล่องหนได้ ก็ต้องไม่ใส่เสื้อผ้า พอไม่ใส่เสื้อผ้า อากาศหนาว จะอยู่ยังไง นี่สมัยก่อนนะ หาของกินก็ลำบาก ไม่มีเงินใช้ มนุษย์ล่องหนก็ต้องเริ่มขโมยของหรือขู่คนให้ทำตาม แถมยังต้องรับผิดชอบอาชญากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่ออีก ใครของหาย ก็คิดว่ามนุษย์ล่องหนเป็นคนทำหมดละ
เราจะรู้เริ่มถึงดาบสองคมของการที่ล่องหนได้ นี่เป็นนิยายที่ทำให้เรารับรู้ถึงการใช้ชีวิตของมนุษย์ล่องหน ว่ามันลำบากยังไงบ้าง ใช้ชีวิตยังง อยู่เหนือกฏหมายไม่ได้แปลว่าจะใช้ชีวิตได้ง่ายๆ ทุกคนกลัวมนุษย์ล่องหนกันหมด
การตามจับมนุษย์ล่องหนในรูปแบบสมัยก่อน ไม่มีกล้องจับความร้อน ไม่มีอุปกรณ์ เทคโนโลยีทันสมัย ต้องใช้กำลังคนล้วนๆ
ตอนอ่านแอบคิดเหมือนกันนะ ว่าถ้าเอาโครงเรื่องมาทำหนังยุคปัจจุบัน แบบสเกลใหญ่หน่อย น่าจะดี อยากเห็นมนุษย์ล่องหนสเกลใหญ่ระดับเมืองบ้าง น่าจะแอบหลอนๆอยู่
แบบให้เป็นเมืองปิดตาย ไม่มีใครเข้าออก แล้วทุกคนรู้ว่ามีมนุษย์ล่องหนอยู่ในเมือง น่าจะสนุก
นิยายเขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีเลย
+การดำเนินเรื่อง
ช่วงแรกจะเป็นนิยายลึกลับ คนในเรื่องพยายามจะหาเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกริฟฟินแต่งตัวแบบนั้น พอมีตำรวจมาสืบสวน คนก็อยากรู้ว่าคนที่มีผ้าพันแผลเต็มหน้าคือคนแบบไหน
ช่วงแรกไม่ค่อยสนุกเท่าไร ต้องเข้าใจว่ามุกแบบนี้เราเห็นในหนังหลายเรื่องแล้ว นี่เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเนอะ ช่วงแรกที่อ่านเลยออกธรรมดานิดนึง
เข้าช่วงท้าย เราจะได้เห็นชีวิตของมนุษย์ล่องหน ว่ามีนิสัยแบบไหน เป็นคนยังไง ก่อนหน้าเป็นมนุษย์ล่องหนเป็นใครมาก่อน ให้เราเห็นมุมมองของมนุษย์ล่องหน ตรงนี้คือดี
+ตัวละคร
ตัวเอกอย่างกริฟฟินมนุษย์ล่องหน เขียนได้น่าสนใจดีนะ
ตอนอ่านรู้สึกว่า อยากรู้จักกริฟฟินก่อนจะล่องหนได้จัง อยากรู้ว่านิสัยเป็นยังไง เปลี่ยนไปมากแค่ไหน อาชญากรรมที่ก่อขึ้น การทำร้ายคนอื่น ฆ่าคนอื่น มาจากนิสัยเดิมหรือเปล่า หรือพอล่องหนได้ หนีความผิดง่ายๆ เลยกลายเป็นคนนิสัยแบบนี้
ผมว่ามันมีเส้นแบ่ง ระหว่าง ไม่ทำเลว กับ ทำเลวได้แต่ไม่โดนจับ ถ้าเราทำได้แล้วไม่โดนจับ เราจะเลือกทำไหม เราอาจจะไม่ฆ่าใคร แต่จะไม่ทำอะไรไม่ดีเลยหรอ ไม่ขโมยของ ไม่แค้นใคร ไม่แกล้งใคร ไม่ทำอะไรไม่ดีเลย จริงอ่ะ น่าคิดนะ
ตัวละครอื่นๆอย่าง ดร.เคม เป็นทั้งตัวประกันและมองการล่องหนจากมุมคนนอก การล่องหนได้ หายตัวได้ เหมือนจะดี มีข้อได้เปรียบมากมาย แต่ถ้ากลับร่างเดิมไม่ได้ เราไม่ได้ล่องหนแค่ วันสองวัน หรือ เดือนสองเดือนนะ ล่องหนไปทั้งชีวิต มันดีจริงหรอ
ล่องหน โดดเดี่ยว ต่อให้มีคนรักได้ แต่คนรักจะไว้ใจคนที่ล่องหนได้จริงๆหรอ
สำหรับเรื่องนี้ ใครที่ชอบนิยายวิทยาศาสตร์แอบเครียดๆหน่อย อยากเห็นมุมมองของมนุษย์ล่องหน แนะนำให้ลองอ่านดูครับ
คะแนน 8.2/10 สนุกดี