ประวัติความเป็นมาของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 หรือ ถนนเกาหลี 🛣️🇰🇷

พอดีไปสืบค้นข้อมูล น่าสนใจเลย
คัดลอกมาตั้งกระทู้ครับ
ข้อมูลจาก มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์


ถนนเกาหลี
บทความโดย Najib Bin Ahmad
เรียบเรียงเมื่อ 23 พ.ย. 2558, 00:00 น.


เมื่อเอ่ยถึง “ถนนเกาหลี” คนกรุงเทพฯ อาจจะนึกถึงถนนสุขุมวิทช่วงซอยนานาจนถึงแยกอโศก ช่วงสุขุมวิท ๑๒ หรือสุขุมวิท ๒๔ เพราะมีร้านอาหารเกาหลีและมีชาวเกาหลีพักอาศัยค่อนข้างมาก แต่สำหรับคนในสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะที่มีอายุ ๓๐ ปีขึ้นไป คำว่าถนนเกาหลีหรือ “บาตะฮ์กอลี” ในภาษาถิ่น จะนึกถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๒ ช่วงปัตตานี-นราธิวาสโดยไม่มีทางที่จะนึกถึงถนนเส้นอื่นได้เลย

                ทางหลวงหมายเลข ๔๒ หรือถนนเกาหลี หรือบาตะฮ์กอลีของคนสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นถนนที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลไทยรับเงินกู้จาก World Bank หรือธนาคารโลกเพื่อสร้างถนนลาดยางความยาว ๑๐๐ กิโลเมตร  เริ่มหลักกิโลเมตรที่ ๐ จากบ้านดอนรักจนสิ้นสุดหลักกิโลเมตรที่ ๑๐๐ ในเขตจังหวัดนราธิวาส
              

                 ลุงพรหรือนายสมพร ถาวโร เจ้าหน้าที่ของแขวงการทางจังหวัดปัตตานี ขณะนั้นลุงพรเป็นหัวหน้างานสถิติของแขวงการทางจังหวัดปัตตานี ตำแหน่งหน้าที่จึงต้องเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างถนนเกาหลีเส้นนี้ได้เล่าว่า ถนนเกาหลีเริ่มสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๘ และเสร็จประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๑ โดยมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างคือ บริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัด [Hyun DaiConstruction Co,Ltd.] และมี บริษัท เดอ ลูคาเทอร์ จำกัด [The Lucater Co,Ltd.] เป็นบริษัทที่มาควบคุมงาน ตรวจสอบการก่อสร้างของบริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัด อีกทอดหนึ่ง
                บริษัท เฮียนได คอนสตรั๊คชั่น จำกัด ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Hyun Dai คือบริษัทที่เราคุ้นหูว่า ฮุนได ในปัจจุบันนั่นเอง
                จากข้อมูลชีวประวัติของนาย ลี มย็อง-บัก [Mr. Yi Myung-bak] ประธานาธิบดีคนที่ ๑๐ สมัยที่ ๑๗ ของเกาหลีใต้อดีตประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ท่านนี้เริ่มทำงานครั้งแรกกับบริษัท เฮียนได คอน-สรั๊คชั่น จำกัด เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๕ หรือ พ.ศ.๒๕๐๘ ขณะนั้นอายุประมาณ ๒๔ ปี และงานแรกก็คือ การมาทำงานก่อสร้างถนนเกาหลีหรือทางหลวงแผ่นดินสาย ๔๒ (ปัตตานีะนราธิวาส)
                และโครงการรับเหมาก่อสร้างข้ามชาติครั้งแรกของบริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัด ก็คือโครงการสร้างถนน
สายปัตตานีะนราธิวาส หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ถนนเกาหลี” นี่เอง ต่อมาเมื่อเสร็จโครงการนี้นาย ลี มย็อง-บัก ได้กลับไปรับตำแหน่งใหม่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี และอีกไม่กี่ปีจึงก้าวไปเป็นผู้บริหารของบริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น  จำกัด
                มีเสียงลือจากชาวบ้านแถบอำเภอสายบุรีว่า นายช่างลีชายหนุ่มชาวเกาหลีหลงรักสาวมลายูมุสลิมท้องถิ่นคนหนึ่ง ถึงขนาดไปทาบทามสู่ขอ แต่พ่อของฝ่ายหญิงไม่ยอมยกลูกสาวให้นายช่างลี เพราะไม่อยากได้ลูกเขยที่เป็นมุอัลลัฟ (มุสลิมใหม่)

ภาพ Lee Myung-bak อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ (พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๖)

ถ่ายเมื่อครั้งมาทำงานก่อสร้างถนนเกาหลีที่ป้ายโรงเรียนน้ำตกปาโจ นราธิวาส ถ่ายเมื่อราวปี ค.ศ. ๑๙๖๕ (พ.ศ. ๒๕๐๘)

ลุงพรเล่าให้ฟังว่า ฝรั่งวิศวกรของบริษัท เดอ ลูคาเทอร์ จำกัด เป็นคนที่เคร่งครัดในหน้าที่มาก จนถึงขนาดว่าครั้งหนึ่งวิศวกรฝรั่งคนนี้ตรวจสอบว่าถนนบางช่วงที่ระยะทางราว ๒๐๐ เมตร ประมาณช่วงอำเภอปาลัส ที่บริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัดได้ก่อสร้างไปแล้วนั้น ไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ในสัญญาว่าจ้าง คือยังมีโคนต้นมะพร้าวที่ยังเอาออกไม่หมดฝังอยู่ใต้ผิวถนน วิศวกรฝรั่งท่านนี้ถึงกับให้ภรรยาซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียปิดประตูบ้านพักไม่ยอมให้ผู้บริหารของบริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัด เข้าพบเพราะไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท เฮียนได คอนสรั๊คชั่น จำกัด มาเจรจาให้สินบนหรือขอร้องใดๆ ทั้งสิ้น จนบริษัทฯ ต้องรื้อถนนช่วงนั้นแล้วก่อสร้างใหม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่