ละครไทยคงไม่ตาย แต่ละครในฟรีทีวีที่จะตาย

จากเหตุการณ์ละครในทีวีกำลังเจอปัญหา
ลามไปหลายปัญหาที่ควรจะรับรู้มากขึ้นและเข้าใจ
เพราะถ้าไม่เข้าใจ ก็ยิ่งยากเกินจะเข้าใจ
ทุกคนกำลังผลักละครเป็นกำแพงและจำเลยของปัญหาทั้งหมด
ละครไม่น่าดู รายได้เลยลดลง
ลงทุนทำละคร เลยทำให้บางช่องขาดทุน
ไปสู่หลายคำถามรวมถึงการโปรโมตที่ฝึดเคืองกันทุกช่อง
และมันเป็นปัญหาทั้งโลกไม่ใช่แค่ที่ไทย
แต่ละที่พยายามจะหาวิถีให้มันไปต่อกันได้
และหาหนทางให้ช่องทีวีของตัวเองจะคงอยู่แบบไหน

เมื่อช่องทางในการประชาสัมพันธ์ไม่มีความแน่นนอน
ลูกค้าโฆษณาที่เป็นคู่ค้ากับสถานีโทรทัศน์ก็เริ่มลดงบในช่องทางนี้
เมื่อลูกค้าตัวจริงของสถานีโทรทัศน์ไม่ใช่คนดูอย่างที่เข้าใจ
แต่พวกเขาพิจารณาจากยอดคนดู ที่คนดูยุคนี้เห็นมันสำคัญมากกว่าสถานีอีก
คือข้อมูลเรตติ้งจากกล่องวัดความนิยมที่พวกเขาที่ยังใช้เป็นเกณฑ์ในการลงโฆษณา
แต่ตอนนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ งบประชาสัมพันธ์แต่ละองค์กรก็ลดลง
คงจะมีแต่บริษัทเครื่องดื่มตราสัตว์ทั้งหลายที่พร้อมกลับมาช่วยทีวีจากการผ่านกฏหมาย
ถึงจะมีละครเรตติ้งมากสุดให้เลือกลง แต่ลูกค้าก็ยังคิดหนัก
และต้องใช้ให้มันเกิดต่อธุรกิจและกลุ่มลูกค้าตัวเองมากสุด
ซึ่งทีวีอาจจะไม่ใช่คำตอบของพวกเขาแล้ว

แม้ล่าสุด กสทช. เสนอแนวทางให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตัล
ถ้าอนาคตจะยังจะทำธุรกิจสถานีโทรทัศน์ต่อ
จะให้โอกาสกลุ่มเดิมก่อนและให้ต่ออายุอัตโนมัติเลย และอาจจะไม่คิดค่าสัมปทาน
เพื่อจูงใจให้ประเทศไทยยังมีสถานีโทรทัศน์เป็นช่องทางให้ประชาชนต่อไป
และหน่วยงานไม่มีขอบเขตอำนาจที่จะดูแล OTT เหมือนทีวีดิจิตัลได้
จากข้อมูลเบื้องต้นพอจะเห็นแนวทางธุรกิจทีวีดิจิตัลบางช่องอาจไม่ไปต่อ
แต่จะลงมาอยู่ธุรกิจ OTT เต็มตัวอย่าง TRUE และ MONO
ที่ตอนนี้ก็มี trueid และ monomax ที่เตรียมรอสร้างกลุ่มคนดูรอไว้แล้ว
กรณีโมโนได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก 6 ปีก็คือเขามองข้ามหัวทีวีดิจิตัลแล้ว
และล่าสุดผลประกอบการโมโนได้ตัดจ่ายค่าสัมปทานของช่องตัวเองจนหมดแล้ว
เขาไม่มีภาระอะไรที่มากมายกับช่อง 29 อีกแล้ว
ในกรณี workpoint คงจะกลับไปทำรายการป้อนช่องต่าง ๆ ที่ยังคิดทำทีวีต่อ
ส่วนช่อง 7 มิตรรักหมอชิตไม่ต้องกังวลเขาทำช่องทีวีต่อแน่
แต่จิตวิญญาณที่คุ้นเคยจะเปลี่ยนเป็นแบบไหนก็ติดตามต่อไป
จะเหลือแต่ ONEE กับ BEC ที่ถ้าให้เดาคงสองจิตสองใจมากสุดกับกรณีนี้

แม้สองช่องคงสนใจข้อเสนอของ กสทช.
ที่ต่ออัตโนมัติพร้อมไม่ต้องเสียค่าสัมปทาน
แต่จากข้อมูลสำรวจยอดคนดูข้ามแพลตฟอร์มก็ทำให้ต้องคิดหนัก
เพราะตอนนี้คนดูทีวีสัดส่วนลดลงต่ำกว่า 40 % แล้ว
นี่แค่ต้นปี 68 กว่าจะถึงปี 71 - 72 จะถึง 30 % ไหมก็ไม่รู้
ถึงประเทศไทยอยากให้มีสถานีโทรทัศน์เป็นช่องทางหลักให้คนดู
แต่เจ้าของเขาทำธุรกิจที่ต้องเติบโตได้และผู้ถือหุ้นต้องเห็นอนาคตด้วย
ทั้งสององค์กรมีแนวทางคล้าย ๆ กัน และมีกลุ่มคนดูก็ใกล้ ๆ กัน
ที่ต้องทำธุรกิจทุกอย่างที่หาเงินเพื่อทดแทนรายได้โฆษณาที่ลดลง
และต้องใช้รายจ่ายที่มหาศาลแม้จะแลกกับรายรับที่พอ ๆ กัน
แต่ทั้งสององค์กรโดนผลกระทบเหมือนกันคือลดงบการทำละครลงทั้งคู่

กลุ่ม ONEE ทั้ง ช่องวัน change และ GMM
ที่เคยผลิตละครรองรับการตลาดที่หลากหลาย
เหมือนที่หลายคนคิดวลีอิสระที่แปลว่าไปช่องวันหรือกลุ่ม ONEE
ผลประกอบการจะได้กำไรมากสุดของกลุ่มสื่อ
ตลาดเลยตอบแทนผลกำไรของ ONEE ด้วยราคาหุ้นจะแตะ 2.50 อยู่แล้ว
และในยุคที่นักแสดงกำลังอยู่ในภาวะอิสระเต็มตลาดแบบนี้
แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะก็อยู่ในจุดไม่รับจ้างผลิตละคร
คงจะรองรับหมู่วิหคโบยบินเต็มท้องฟ้าคงจะไม่ง่ายนัก
เลี่ยงบาลีทำ content ตัวเองรูปแบบ original
คือสร้างพร้อมลงแพลตฟอร์มต่าง ๆ
เพราะจะทำยังไงให้เลี่ยงตัวแดงโดยเฉพาะรายจ่ายที่ถ้ารับจ้างผลิต
มันจะมีแต่รายจ่ายระหว่างบริษัทแม่กับลูก ก็เลยบังเกิด ONED กับ Changeorigialnal
ที่คงจะมีมากขึ้น แต่มันจะรองรับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ไหมก็ต้องติดติดตามต่อไป
ส่วน BEC ก็ปิดปีงบประมาณละคร 1 ปี แล้วเอาเงินไปทำอะไรมากมาย
อย่างล่าสุดงานแฟนมีตติ้งห_อ_ ตอนหน้าฝน ไม่ใช่ ไม่ใช่
กับงานเทศกาลดนตรีครั้งแรกของสถานี B E SEa ที่วงดนตรีทั่วฟ้าเมืองไทย
มาพร้อมศิลปิน BEC Music ที่ไม่แน่คุณอาจจะกระทบไหล่นักแสดงของสถานีมาดูดนตรีก็ได้
แค่เห็นรายชื่อก็เห็นถึงรายจ่ายมหาศาลแล้ว แม้จะตั้งค่าบัตรไว้น่าดูชมอยู่ก็ตาม
จะเห็นทั้งส่องกลุ่มก็จัดอีเวนท์สะบัด ทั้งละครเวที แฟนมีตติ้ง เทศกาลดนตรี
ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินที่พอสมควร แต่ที่คิดทำแบบนี้
เพราะสามารถบันทึกในผลประกอบการในปีนี้ได้เลยไม่ต้องรอ
ไม่เหมือนการลงทุนผลิตละครที่เปิดปีนี้ แต่ฉายปีหน้า
และมูลค่าโฆษณาที่มีให้สถานีก็ลดลงไปเรื่อย ๆ

เมื่อเม็ดเงินโฆษณาในการลงละครน้อยลง
การประชาสัมพันธ์แต่ละสถานีก็จะถูกลดกันตามสภาพ
สวนทางกับผู้ผลิตอื่นทั้ง GL ที่เปิดตัวโปรเจคอย่างยิ่งใหญ่
อย่าง GMMTV ช่องวันที่ยังจัดวันสนั่นจอ
แม้จะเป็นขายโปรเจคในอนาคตเป็นหลักกว่าทุกครั้ง
ที่พวกเขายังจัดงานกันเพราะต้องการมีผู้สนับสนุน
แลกกับยอด engage เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นผู้สนับสนุนได้
สวนทางฟากพระราม 4 ที่ไม่จัดงานเปิดวิกบิ๊ก 3
ถ้าไม่นับเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้จากครั้งล่าสุด
และปรับรูปแบบมาจัดเปิดตัวละครของลอตปีใหม่ร่วมกับทำบุญวันปีใหม่ที่ตึกแทน
และเมื่อไม่จัดงานเปิดวิก กับการโปรโมตที่หลายคนก็อิหยังวะ
ที่มาพร้อมสารพัดตัว กับตัวอย่างละครแบบสับแบบปลาป่นเรียกพี่
เมื่อไม่ได้จัดงานให้ลูกค้าได้ดูตัวอย่างเพื่อการตัดสินใจลงโฆษณา
คนดูก็ดูตัวอย่างกันแบบตามมีตามเกิด และไม่เกิด engagement ใด ๆ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดเมื่อมันเป็นลูกโซ่ต่อ ๆ กันมา
ถึงเวลาที่จะต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของการผลิตละคร (จริง ๆ ไม่อยากใช้คำนี้)
เพราะละครมันมีทางไปไม่อย่างนั้น MonoOriginal คงไม่เกิดขึ้น
แต่ช่องทางกำลังทำให้ content นี้อยู่กันไม่ได้
ซึ่งแต่ละสถานีก็ต้องหาทางให้มันอยู่กันได้ทั้งสถานี ผู้ผลิต ลูกค้าและคนดู
ที่ต้องแก้ปัญหากันเองแบบยังไม่ต้องพึ่งพาใครกันไปก่อน
และถ้ามันทำแล้วยังหาทางออกไม่ได้ ละครไทยในสถานีโทรทัศน์คงจะหายไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่