ยูเครนสามารถต้านรัสเซียได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะหลายปัจจัยที่เข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่! ถ้าจะพูดง่ายๆ ยูเครนเหมือนกับการที่ทีมรองลงมาชนะทีมแชมป์ โดยมีหลายปัจจัยที่ทำให้รัสเซียไม่สามารถบุกเอาชนะได้
เริ่มจาก ผู้นำของยูเครน อย่าง เซเลนสกี้ ที่จริงๆ แล้วเป็น "ผู้นำสายแข็ง" ที่ไม่ยอมถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว คนยูเครนไม่เพียงแค่หวังพึ่งแต่เซเลนสกี้ แต่พวกเขายืนหยัดต่อสู้ด้วยใจไม่ยอมแพ้ รัสเซียคิดว่าจะบุกและเอาเกือบจะหมดแต่กลับต้องพบกับการตั้งรับที่แน่นหนาไปหมด
อีกปัจจัยคือ การสนับสนุนจากตะวันตก ที่ไม่ใช่แค่ส่งอาวุธให้ แต่ส่งเทคโนโลยีใหม่ๆ การฝึกฝน และการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ทำให้ยูเครนมีโอกาสจัดการกับทหารรัสเซียที่ได้เปรียบกว่าในหลายๆ ด้าน
เทคโนโลยีและยุทธศาสตร์การรบ ของยูเครนยังเจ๋งไม่แพ้ใคร ด้วยการใช้โดรนและการสู้รบในภูมิประเทศที่คุ้นเคย ทำให้รัสเซียไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ง่ายๆ นอกจากนี้การโจมตีทางไซเบอร์และการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยทำให้รัสเซียเสียเปรียบอย่างมหาศาล
ความเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนล้วนรู้สึกว่าต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ พวกเขารวมตัวกันสู้ต่อเพื่ออนาคตของประเทศ แม้แต่ในช่วงที่สภาวะยากลำบากที่สุดก็ยังไม่ท้อถอย
การที่ รัสเซียไม่เข้าใจในความมุ่งมั่นของยูเครน ก็เป็นจุดอ่อนที่ทำให้ยูเครนสามารถต้านได้ ยูเครนไม่ใช่แค่ประเทศที่มีผู้นำและประชาชนสู้ไปพร้อมกัน แต่ยังมีความสามารถในการรักษาอำนาจและอธิปไตย แม้รัสเซียจะพยายามยึดครองก็ต้องเจอกับศึกหนักที่ไม่ง่ายเลย
แล้วใครจะคิดว่าในยุคนี้ ยูเครนจะยืนหยัดต่อสู้กับ "หมีป่วย" แบบรัสเซียได้ขนาดนี้?
ยูเครนเป็นประเทศที่สุดยอดมากที่ตัวๆกับมหาอำนาจอับดับ2 อย่างรัสเซีย จนติดหล่มไปไม่เป็น
เริ่มจาก ผู้นำของยูเครน อย่าง เซเลนสกี้ ที่จริงๆ แล้วเป็น "ผู้นำสายแข็ง" ที่ไม่ยอมถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว คนยูเครนไม่เพียงแค่หวังพึ่งแต่เซเลนสกี้ แต่พวกเขายืนหยัดต่อสู้ด้วยใจไม่ยอมแพ้ รัสเซียคิดว่าจะบุกและเอาเกือบจะหมดแต่กลับต้องพบกับการตั้งรับที่แน่นหนาไปหมด
อีกปัจจัยคือ การสนับสนุนจากตะวันตก ที่ไม่ใช่แค่ส่งอาวุธให้ แต่ส่งเทคโนโลยีใหม่ๆ การฝึกฝน และการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ทำให้ยูเครนมีโอกาสจัดการกับทหารรัสเซียที่ได้เปรียบกว่าในหลายๆ ด้าน
เทคโนโลยีและยุทธศาสตร์การรบ ของยูเครนยังเจ๋งไม่แพ้ใคร ด้วยการใช้โดรนและการสู้รบในภูมิประเทศที่คุ้นเคย ทำให้รัสเซียไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ง่ายๆ นอกจากนี้การโจมตีทางไซเบอร์และการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยทำให้รัสเซียเสียเปรียบอย่างมหาศาล
ความเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนล้วนรู้สึกว่าต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ พวกเขารวมตัวกันสู้ต่อเพื่ออนาคตของประเทศ แม้แต่ในช่วงที่สภาวะยากลำบากที่สุดก็ยังไม่ท้อถอย
การที่ รัสเซียไม่เข้าใจในความมุ่งมั่นของยูเครน ก็เป็นจุดอ่อนที่ทำให้ยูเครนสามารถต้านได้ ยูเครนไม่ใช่แค่ประเทศที่มีผู้นำและประชาชนสู้ไปพร้อมกัน แต่ยังมีความสามารถในการรักษาอำนาจและอธิปไตย แม้รัสเซียจะพยายามยึดครองก็ต้องเจอกับศึกหนักที่ไม่ง่ายเลย
แล้วใครจะคิดว่าในยุคนี้ ยูเครนจะยืนหยัดต่อสู้กับ "หมีป่วย" แบบรัสเซียได้ขนาดนี้?