ขอเล่าโครงสร้างครอบครัวคร่าวๆ ครอบครัวเดิมของดิฉันมีกัน 4คน ได้แก่ พี่ชาย36 พ่อ แม่ อายุ 60 ดิฉัน
พี่ชายอาชีพพนักงานประจำเงินเดือน1.5-2k ,พ่อ แม่ ค้าขาย 2คนรวมกัน 5000บาท/เดือน ดิฉัน 3-3.5k/เดือน
ด้านการเงินของครอบครัวตั้งแต่ในอดีตค่อนข้างติดลบมากๆ(ไม่มีอาชีพที่มั่นคง+เช่าบ้านอยุ่และไม่มีทรัพย์สินใดๆ) ในอดีตหลังจบ ม.6พ่อจะให้ดิฉันทำงาน ไม่ให้เรียนต่อระดับปริญญาเพราะไม่มีเงินส่งเสียและอยากให้หาเงิน /แม่อยากให้เรียน คอยมาเป็นเพื่อนเวลาสอบเข้าเรียนต่างๆประมาณ4-5ครัง ดิฉันต้องเลือกสอบเข้าเรียนมหาลัยที่เป็นรัฐบาลและมีทุนให้เพราะประเมินฐานะทางครอบครัวแล้วว่าไม่สามารถส่งเสียได้อย่างแน่นอน จำได้ว่ามีเสียเงินก้อนแค่ตอนเข้าเรียน ประมาณ10000บาท (5000บาทที่จ่ายเป็นเงินเก็บของดิฉัน อีก5000บาทเป็นเงินจากแม่ที่ไปยืมตายายมา ) หลังจากนั้นเรื่องค่าเล่าเรียนต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าเทอม ดิฉันสอบชิงทุน+ทำงานเสริมทำให้รบกวนครอบครัวประมาณอีกเดือนละ2000บาทเป็นค่ากิน ปัญหาหลักๆที่ต้องเจอตั้งแต่เรียนจบมา คือชีวิตกลายเป็นเดอะแบก
1. ให้เงินเดือนพ่อแม่ คนละ3000บาท/เดือน ดูแลเรื่องสุขภาพพาหาหมอและรับผิดชอบส่วนนี้ทั้งหมด จ่ายค่าใช้จ่ายจิปาถะ+ซื้อของใช้ของกินส่งกลับบ้าน จ่ายค่าโทรศัพท์(แม่จะขอตลอด อีกเดือนละประมาณ2000) ค่าใช้จ่ายตรงนี้ยินดีที่จะจ่าย แต่หลังจากนั้นเริ่มมีการร้องขอในส่วนอื่นๆเข้ามาที่ทำให้เกิดความเครียดและกดดัน นั่นคือข้อต่อไป
2. พ่อแม่ต้องการให้ซื้อบ้าน แต่เนื่องจากไม่อยากเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ดิฉันจึงเสนอให้ซื้อที่ดิน โดยใช้เงินสินสอดจากการแต่งงานและดิฉันเพิ่มเงินเข้าไป ทำให้ซื้อที่ดินมาได้1ผืน ดิฉันคิดว่าจะจบเพียงเท่านี้ จากนั้นยังไม่จบ มีการมาพูดคุยอยากให้ถมที่ +สร้างบ้าน+ สร้างรั้ว+สร้างโรงจอดรถ ต่อ โดยให้เหตุผลว่ายังไงก็ต้องช่วยแหละเพราะพี่ชายเงินเดือนน้อย ไม่งั้นจะได้บ้านให้พ่อแม่พี่อยู่ได้อย่างไร(บ้านที่ดิฉันไม่ได้คิดกลับไปอยู่ด้วยเนื่องจากทำงานและมีครอบครัวใน กทม.) ซึ่งปัจจุบันดิฉันก็มีหนี้สินและครอบครัวของตัวเองที่ต้องดูแลทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกินว่าทำไมคำว่าบุญคุณ ถึงใช้ไม่หมดและไม่เคยพอเสียที จึงอยากสอบถามความเห็นและคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆ ว่าควรทำอย่างไรกับชีวิตดี ตอนนี้รู้ซึ้งกับคำว่ากรรมของเด็กกตัญญูมากๆเลย ต้องการแนะนำเกี่ยวกับการพูดคุยกับครอบครัวให้บาดหมางกันน้อยที่สุด/หรือจะพูดเตือนสติดิฉันแรงๆก็ได้ค่ะ ดิฉันจะนำมาไตร่ตรองทั้งหมด ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ตัดสินใจอย่างไรกับสถานการ์ณนี้ดี
พี่ชายอาชีพพนักงานประจำเงินเดือน1.5-2k ,พ่อ แม่ ค้าขาย 2คนรวมกัน 5000บาท/เดือน ดิฉัน 3-3.5k/เดือน
ด้านการเงินของครอบครัวตั้งแต่ในอดีตค่อนข้างติดลบมากๆ(ไม่มีอาชีพที่มั่นคง+เช่าบ้านอยุ่และไม่มีทรัพย์สินใดๆ) ในอดีตหลังจบ ม.6พ่อจะให้ดิฉันทำงาน ไม่ให้เรียนต่อระดับปริญญาเพราะไม่มีเงินส่งเสียและอยากให้หาเงิน /แม่อยากให้เรียน คอยมาเป็นเพื่อนเวลาสอบเข้าเรียนต่างๆประมาณ4-5ครัง ดิฉันต้องเลือกสอบเข้าเรียนมหาลัยที่เป็นรัฐบาลและมีทุนให้เพราะประเมินฐานะทางครอบครัวแล้วว่าไม่สามารถส่งเสียได้อย่างแน่นอน จำได้ว่ามีเสียเงินก้อนแค่ตอนเข้าเรียน ประมาณ10000บาท (5000บาทที่จ่ายเป็นเงินเก็บของดิฉัน อีก5000บาทเป็นเงินจากแม่ที่ไปยืมตายายมา ) หลังจากนั้นเรื่องค่าเล่าเรียนต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าเทอม ดิฉันสอบชิงทุน+ทำงานเสริมทำให้รบกวนครอบครัวประมาณอีกเดือนละ2000บาทเป็นค่ากิน ปัญหาหลักๆที่ต้องเจอตั้งแต่เรียนจบมา คือชีวิตกลายเป็นเดอะแบก
1. ให้เงินเดือนพ่อแม่ คนละ3000บาท/เดือน ดูแลเรื่องสุขภาพพาหาหมอและรับผิดชอบส่วนนี้ทั้งหมด จ่ายค่าใช้จ่ายจิปาถะ+ซื้อของใช้ของกินส่งกลับบ้าน จ่ายค่าโทรศัพท์(แม่จะขอตลอด อีกเดือนละประมาณ2000) ค่าใช้จ่ายตรงนี้ยินดีที่จะจ่าย แต่หลังจากนั้นเริ่มมีการร้องขอในส่วนอื่นๆเข้ามาที่ทำให้เกิดความเครียดและกดดัน นั่นคือข้อต่อไป
2. พ่อแม่ต้องการให้ซื้อบ้าน แต่เนื่องจากไม่อยากเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ดิฉันจึงเสนอให้ซื้อที่ดิน โดยใช้เงินสินสอดจากการแต่งงานและดิฉันเพิ่มเงินเข้าไป ทำให้ซื้อที่ดินมาได้1ผืน ดิฉันคิดว่าจะจบเพียงเท่านี้ จากนั้นยังไม่จบ มีการมาพูดคุยอยากให้ถมที่ +สร้างบ้าน+ สร้างรั้ว+สร้างโรงจอดรถ ต่อ โดยให้เหตุผลว่ายังไงก็ต้องช่วยแหละเพราะพี่ชายเงินเดือนน้อย ไม่งั้นจะได้บ้านให้พ่อแม่พี่อยู่ได้อย่างไร(บ้านที่ดิฉันไม่ได้คิดกลับไปอยู่ด้วยเนื่องจากทำงานและมีครอบครัวใน กทม.) ซึ่งปัจจุบันดิฉันก็มีหนี้สินและครอบครัวของตัวเองที่ต้องดูแลทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกินว่าทำไมคำว่าบุญคุณ ถึงใช้ไม่หมดและไม่เคยพอเสียที จึงอยากสอบถามความเห็นและคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆ ว่าควรทำอย่างไรกับชีวิตดี ตอนนี้รู้ซึ้งกับคำว่ากรรมของเด็กกตัญญูมากๆเลย ต้องการแนะนำเกี่ยวกับการพูดคุยกับครอบครัวให้บาดหมางกันน้อยที่สุด/หรือจะพูดเตือนสติดิฉันแรงๆก็ได้ค่ะ ดิฉันจะนำมาไตร่ตรองทั้งหมด ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ