วันที่ 4 มค.2528 เวลา19.00 น. ผมรู้สึกตื่นเต้นในวัย 30 ปีจะได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต ที่นั่น พบพนักงาน บริษัท จัดหางาน ย่านราชเทวี มายืนแจกตั๋วเครื่องบินหน้าเคาน์เตอร์ สายการบินไทย ที่สนามบินดอนเมือง ในเที่ยวบินนั้นมีเพื่อนคนไทยไป 21คนครับ พี่สาวคนรองยืนอยู่ข้างๆ ก่อนบิน พี่สาว มายัดใส่มือ 150 บาท บอกเอาไว้ติดตัวเผื่อได้ใช้ พอได้เวลาบิน เราทยอย
เช็คอิน เดินขึ้นเครื่อง ผมนั่งติด กับคนไทย พี่วิฑูรย์ แก้วใสส่อง ซึ่งรู้ชื่อหลังจากบินถึงทำงานด้วยกัน ได้เวลา21.30 น.เครื่องบิน เคลื่อนที่แอร์โฮสเตส สาวสวยชุดไทยสีม่วง สาธิตเกี่ยวการบิน แล้วเครื่องบินก็ถอยออกวิ่งขึ้นรันเวย์ เชิดหน้าบินเหินฟ้า...ลาก่อนนะประเทศไทย ผมจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่ ประเทศตะวันออกกลาง แหล่งที่สร้างชีวิตใหม่กับคนไทยหลายๆคนและ สร้างความเปลื่ยนแปลงดีๆ และแย่สำหรับบางคน!
ซึ่งผมจะเล่าในตอนถัดไปครับ เครื่องใช้เวลาบินตรงไปยังประเทศซาอุดิ อราเบีย7.45 ชม.ลงที่สนามบิน ดาหราน ในสมัยนั้น..ที่นั่นพวกเราเจอคนไทย อดีตเคยทำงาน ณ.โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ด้วยกัน ซึ่งบินมาทำงานก่อนพวกเราครับขออนุญาตเอ่ยชื่อ นายช่างประสงค์ มงคลศิริ อดีตทั้งผม และพี่ชายผมเคยทำงานร่วมกันมานายช่างประสงค์ คือวิศวกรทำงานที่.บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง เราเรียกกันในรง.ว่านายช่าง ครับ
นายช่างประสงค์ยิ้มร่า และทักทายผม ยินดีต้อนรับ สู่ประเทศ ซาอุดิอราเบีย หลังเช็คเอาท์ ซึ่งพศ.2528 หรือปี คศ.1985 สนามบินดาหรานเช็คแบบละเอียดมากๆ สิ่งตีพิมพ์เกี่ยวกับมีภาพทางศาสนา หรือภาพนุ่งน้อยห่มน้อย โดนโยนทิ้งครับ อาหารที่มีน้ำมันต่างๆโดนโยนทิ้งครับ หลังออกพร้อมก็ออกมานั่งรถตู้ อากาศเดือนมค.หนาวเยือกครับ นายช่างประสงค์อธิบาย ว่าเราจะนั่งรถราวๆชม.จะถึงโรงงาน SKC .ชื่อเต็มๆคือ Saudi-Kuwaiti Cement co. เป็นบริษัทร่วมทุนกับซาอุดิและ ประเทศฅูเวต ระหว่างทาง เดือนหงาย ผมมองไปยังข้างทาง พบอูฐ พวกเราตื่นเต้นร้องทักทาย อูฐๆ
เวลาประเทศซาอุดิ ช้ากว่าไทย4ชม.ครับ ถึงห้องพัก อันเป็นห้องเล็กๆเป็นเรือนที่ยกเคลื่อนย้ายได้จัดของเปิดกระเป๋า เอาของออกไว้ แล้วนอนกันเพราะวันรุ่งขึ้นต้องเข้ารายงานตัวที่อ็อฟฟิศ...
รุ่งเช้า วันที่5มค.เรารวมตัวเข้าโรงอาหารต้องนั่งรถบัส มาห่างจากที่พัก สามกม.ที่นั่นคือบ้านพักเป็นตึกสองชั้น มีโรงอาหาร มีสนามเทนนิส มีสระว่ายน้ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ มื้อเช้า จะมีขนมปังไข่ดาว กาแฟ ชา เป็นสวัสดิการของโรงงานครับ หลังอาหารนั่งรถนำพาสปอร์ต เข้ารายงานตัว บริษัทให้เงินแอดวานซ์ 150 รียาล ตีเป็นเงินไทยคือพันบาทไทยครับ เงินนั้นได้ซื้อเสื้อกันหนาว ยาสีฟันสบู่ เครื่องใช้ประจำวันครับ
หลังจากนั้น พวกเราแยกย้าย เข้าแผนกผมเองมาแผนกบรรจุปูนซีเมนต์ มีเพื่อนๆคนไทยมาหลายคนและเขาเหล่านั้นเริ่มงานที่นั่นเป็นงานใหม่สำหรับผม ในไทยผมก็อยู่แผนกบรรจุปูนซีเมนต์เช่นกันเลยไม่มีปัญหาอะไร แผนกบรจุหรือเรียกภาษาอังกฤษ, Packing Plant เครื่องบรรจุ ยี่ห้อเดียวกับประเทศไทย กลุ่มผมไปคือเดินเครืองวันนั้นเอง การทำงานมีกะเดียว คือหกโมงเช้า ถึงบ่ายสองครับแต่เพราะหลายคนคือมาฝึกที่นั่น ทำเอางานติดขัด พอควร
ปัญหาตามมา คือการสื่อสาร ผมเองมีพื้นฐานเล็กน้อย โฟร์แมนคุมงาน ปากีสถาน ทั้งอธิบายภาษามือ ปนภาษาอังกฤษ ยุ่งยากพอควร วันนั้นอาหารทางโรงอาหารมาส่ง เราได้กินอาหารไทยรสแปลกๆจากเดิมที่เคยกินครับ เพราะทั้งเครื่องปรุงผักต่างไม่ได้มีเหมือนประเทศเรา ในแผนกผม ก็มีสามสัญชาติ คือ ฟิลิปินส์ ปากีสถาน อินเดีย ผมเองก็ฟังภาษาอังกฤษ รู้คือ เยส กับ โน...เอาละก็พื้นฐานอ่านได้แต่พูดไม่เป็นนี่สิ งานเข้าเลยบอกตัวเอง แต่..ไม่เป็นไรนะ ไม่มีใครเป็นจากเกิด..
การทำงานเดือนแรกๆขลุกขลักมากๆ ผมเองนั้นไม่เท่าไร มีพื้นฐาน ก็ต้องสอนเพื่อนร่วมงาน ไปผมเขียนจม.ถึงพี่สาวให้ส่งหนังสือ 79 ชม.เป็นการสนทนาภาษาอังกฤษ และแปลเป็นไทย มีสมุดโน๊ตเล็กๆ เอาไว้โน๊ต ตรงไหนไม่เข้าใจ ผมไม่อายครับ ที่จะให้เพื่อนต่างชาติอินเดีย ปากีสถาน หรือฟิลิปินส์เขียน ใส่สมุดโน๊ตแล้วหลังเลิกงาน จะเอามาแปล อ่านทบทวนครับ
หลังทำงานได้สามเดือน เราได้ย้ายที่พักเดิมมายังตึกอันเป็นห้องพัก ที่บริษัท ทำไว้ให้เป็นห้อง ตามเกรดของตำแหน่งงาน ผมเองเกรดสามครับ ได้พักสามคน ผมพัก กับ พี่วิฑูรย์ และ สถิตย์ พี่วิฑูรย์ เขามาทำคลีนเนอร์ คือทำความสะอาดในบริเวณรง. ที่นั่นช่วงเช้า เขาจะนั่งคุยกันว่า ใครเล่นไฮโลว์ เล่นไพ่ ใครได้ใครเสียคนไทยในรง.ที่ผมทำมี120คนครับ
ผมเอง แรกๆนั่งรวมกับคนไทยครับ แต่...เขาจะคุยเรื่อง การเล่นการพนันหลังเวลาเลิกงาน นั่นสรุปผมเลยต้องค่อยๆปลีกตัวออกห่าง ไปคุยกับชาติอินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปินส์ แทนเป็นการฝึกภาษาไปในตัวครับ มีพี่คนหนึ่งคนไทยเขาทำงานแผนกช่าง ไม่ขอเอ่ยชื่อ พูดเปรยๆในโรงอาหารซึ่งนั่งไม่ห่างผมนัก ใครที่คิดว่าแน่ เก่งภาษาอังกฤษ ตายน้ำตื้นทุกราย...นั่นแน่ะ เอาเข้าละ
และถัดมา...เพื่อนร่วมแผนก บอกดังๆ ในโรงอาหาร คนไทยเรานี้มีแกะดำอยู่ตัวหนึ่ง ไม่เข้าพวกเข้าพ้อง....ผมเฉยไม่พูดอะไร เพราะรู้ว่าเขาหมายถึงใคร พอเงินเดือนออก ก็คือเล่นได้เสียกันในกลุ่มคนไทย แต่ผมตั้งใจแน่วแน่ อยู่ในไทยผมเอง มีงานทำดีๆแต่เพราะวัยยังน้อย หลงผิดหน้าใหญ่ เลี้ยงเพื่อนเสมอๆ ดื่มแล้วเสียคนครับ จนบริษัท เลิกจ้างครับ ตกงานสามปี...คือระหกระเหินสุดๆหลังจากตกงาน นั่นคืออดีตที่ผมไม่เคยลืมครับ
ผมเอง ปลีกตัวไม่นั่งกินอาหารกัยคนไทยเพราะผมไม่สามารถเล่าเรื่องใครได้เสียเรื่องเล่นไพ่ไฮโลว์ จึงปลีกตัวมาคบเพื่อนๆต่างชาติ ฝึกภาษาอังกฤษ เพื่อนคนไทยไปพบหมอคลีนิค หมอที่คลีนิค จะโทร.หาหัวหน้าแผนกผมให้ผมไปแปลภาษาแทนเสมอเพราะที่นั่นใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางครับ ผมเองหกเดือน พูดโต้ตอบได้คล่องในขณะที่คนไทยเรา เลิกงาน เงินเดือนออก จับกลุ่มเล่นการพนันกัน โฟร์แมนผมยังเคยพูดนี่...แรกๆผมสั่งคุณได้ไม่โต้แย้ง หลังได้พูดคล่องอังกฤษนี่แย้งบ่อยนะ อ้าว นั่นคือพูดไม่ได้ต้องทำตามเน๊าะ
และแล้ว วันหนึ่ง ก็เพื่อนคนไทยมีปัญหาคือแอบดื่มเหล้า เมาแล้วอาละวาดที่นั่นตามจริงคือไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายและผิดกฏหมายนะครับ แต่คนไทยนี่ละครับหัวดัดแปลงเอายีสต์ขนมปังมาตัดแปลงต้มเหล้าเถื่อนขาย อีกที่ไม่ใช่ในที่ผมอยู่ เขาจะซื้อขวดน้ำดื่มเอามาผสมอย่างละครึ่ง ต้มกลั่นกลางทะเลทรายเป็นความลับ ผมจะเล่าในตอนต่อไปครับ
กรณีเพื่อนคนไทยดื่มเหล้า แคมป์บอสแจ้งตำรวจมาจับไปนอนคุก และผจ.โรงงานได้รับคำสั่งจากเบื้องบน เอาออกมาและส่งกลับภายใน24ชม.ตั๋วเครื่องบินมี เงินติดกระเป๋ามีแต่....คนไทยยังหวังว่าจะเอาเงินเพิ่มกลับไปเลยเข้าวงไฮโลว์ ผลเงินไม่มี เพื่อนคนไทยต้องมาเดินเรี่ยไรเงินคนไทยด้วยกันกาค่ารถให้หลังลงเครื่องบิน และผมเอง แกะดำ ตัวนี้ก็บริจาคให้ไปค่าแรงวันหนึ่งครับ!
ตัวผมเอง ทำงานส่งเงินเดือนกลับบ้านเป็นค่าหัวครับค่าหัวมาพศ.2528 หกหมื่นห้าพันบาท ร้อยละสิบบาทครับ พี่ชาย กับพี่สะใภ้จัดการให้ แปดเดือน ทำงาน ก็ลาพักผ่อนประจำปี บริษัทมอบตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมเงินติดกระเป๋าเงินเดือนหนึ่งเดือนครับ...
×× ชีวิตผม เริ่มต้น ใหม่ที่ประเทศซาอุดิอราเบีย ××
เช็คอิน เดินขึ้นเครื่อง ผมนั่งติด กับคนไทย พี่วิฑูรย์ แก้วใสส่อง ซึ่งรู้ชื่อหลังจากบินถึงทำงานด้วยกัน ได้เวลา21.30 น.เครื่องบิน เคลื่อนที่แอร์โฮสเตส สาวสวยชุดไทยสีม่วง สาธิตเกี่ยวการบิน แล้วเครื่องบินก็ถอยออกวิ่งขึ้นรันเวย์ เชิดหน้าบินเหินฟ้า...ลาก่อนนะประเทศไทย ผมจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่ ประเทศตะวันออกกลาง แหล่งที่สร้างชีวิตใหม่กับคนไทยหลายๆคนและ สร้างความเปลื่ยนแปลงดีๆ และแย่สำหรับบางคน!
ซึ่งผมจะเล่าในตอนถัดไปครับ เครื่องใช้เวลาบินตรงไปยังประเทศซาอุดิ อราเบีย7.45 ชม.ลงที่สนามบิน ดาหราน ในสมัยนั้น..ที่นั่นพวกเราเจอคนไทย อดีตเคยทำงาน ณ.โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ด้วยกัน ซึ่งบินมาทำงานก่อนพวกเราครับขออนุญาตเอ่ยชื่อ นายช่างประสงค์ มงคลศิริ อดีตทั้งผม และพี่ชายผมเคยทำงานร่วมกันมานายช่างประสงค์ คือวิศวกรทำงานที่.บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง เราเรียกกันในรง.ว่านายช่าง ครับ
นายช่างประสงค์ยิ้มร่า และทักทายผม ยินดีต้อนรับ สู่ประเทศ ซาอุดิอราเบีย หลังเช็คเอาท์ ซึ่งพศ.2528 หรือปี คศ.1985 สนามบินดาหรานเช็คแบบละเอียดมากๆ สิ่งตีพิมพ์เกี่ยวกับมีภาพทางศาสนา หรือภาพนุ่งน้อยห่มน้อย โดนโยนทิ้งครับ อาหารที่มีน้ำมันต่างๆโดนโยนทิ้งครับ หลังออกพร้อมก็ออกมานั่งรถตู้ อากาศเดือนมค.หนาวเยือกครับ นายช่างประสงค์อธิบาย ว่าเราจะนั่งรถราวๆชม.จะถึงโรงงาน SKC .ชื่อเต็มๆคือ Saudi-Kuwaiti Cement co. เป็นบริษัทร่วมทุนกับซาอุดิและ ประเทศฅูเวต ระหว่างทาง เดือนหงาย ผมมองไปยังข้างทาง พบอูฐ พวกเราตื่นเต้นร้องทักทาย อูฐๆ
เวลาประเทศซาอุดิ ช้ากว่าไทย4ชม.ครับ ถึงห้องพัก อันเป็นห้องเล็กๆเป็นเรือนที่ยกเคลื่อนย้ายได้จัดของเปิดกระเป๋า เอาของออกไว้ แล้วนอนกันเพราะวันรุ่งขึ้นต้องเข้ารายงานตัวที่อ็อฟฟิศ...
รุ่งเช้า วันที่5มค.เรารวมตัวเข้าโรงอาหารต้องนั่งรถบัส มาห่างจากที่พัก สามกม.ที่นั่นคือบ้านพักเป็นตึกสองชั้น มีโรงอาหาร มีสนามเทนนิส มีสระว่ายน้ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ มื้อเช้า จะมีขนมปังไข่ดาว กาแฟ ชา เป็นสวัสดิการของโรงงานครับ หลังอาหารนั่งรถนำพาสปอร์ต เข้ารายงานตัว บริษัทให้เงินแอดวานซ์ 150 รียาล ตีเป็นเงินไทยคือพันบาทไทยครับ เงินนั้นได้ซื้อเสื้อกันหนาว ยาสีฟันสบู่ เครื่องใช้ประจำวันครับ
หลังจากนั้น พวกเราแยกย้าย เข้าแผนกผมเองมาแผนกบรรจุปูนซีเมนต์ มีเพื่อนๆคนไทยมาหลายคนและเขาเหล่านั้นเริ่มงานที่นั่นเป็นงานใหม่สำหรับผม ในไทยผมก็อยู่แผนกบรรจุปูนซีเมนต์เช่นกันเลยไม่มีปัญหาอะไร แผนกบรจุหรือเรียกภาษาอังกฤษ, Packing Plant เครื่องบรรจุ ยี่ห้อเดียวกับประเทศไทย กลุ่มผมไปคือเดินเครืองวันนั้นเอง การทำงานมีกะเดียว คือหกโมงเช้า ถึงบ่ายสองครับแต่เพราะหลายคนคือมาฝึกที่นั่น ทำเอางานติดขัด พอควร
ปัญหาตามมา คือการสื่อสาร ผมเองมีพื้นฐานเล็กน้อย โฟร์แมนคุมงาน ปากีสถาน ทั้งอธิบายภาษามือ ปนภาษาอังกฤษ ยุ่งยากพอควร วันนั้นอาหารทางโรงอาหารมาส่ง เราได้กินอาหารไทยรสแปลกๆจากเดิมที่เคยกินครับ เพราะทั้งเครื่องปรุงผักต่างไม่ได้มีเหมือนประเทศเรา ในแผนกผม ก็มีสามสัญชาติ คือ ฟิลิปินส์ ปากีสถาน อินเดีย ผมเองก็ฟังภาษาอังกฤษ รู้คือ เยส กับ โน...เอาละก็พื้นฐานอ่านได้แต่พูดไม่เป็นนี่สิ งานเข้าเลยบอกตัวเอง แต่..ไม่เป็นไรนะ ไม่มีใครเป็นจากเกิด..
การทำงานเดือนแรกๆขลุกขลักมากๆ ผมเองนั้นไม่เท่าไร มีพื้นฐาน ก็ต้องสอนเพื่อนร่วมงาน ไปผมเขียนจม.ถึงพี่สาวให้ส่งหนังสือ 79 ชม.เป็นการสนทนาภาษาอังกฤษ และแปลเป็นไทย มีสมุดโน๊ตเล็กๆ เอาไว้โน๊ต ตรงไหนไม่เข้าใจ ผมไม่อายครับ ที่จะให้เพื่อนต่างชาติอินเดีย ปากีสถาน หรือฟิลิปินส์เขียน ใส่สมุดโน๊ตแล้วหลังเลิกงาน จะเอามาแปล อ่านทบทวนครับ
หลังทำงานได้สามเดือน เราได้ย้ายที่พักเดิมมายังตึกอันเป็นห้องพัก ที่บริษัท ทำไว้ให้เป็นห้อง ตามเกรดของตำแหน่งงาน ผมเองเกรดสามครับ ได้พักสามคน ผมพัก กับ พี่วิฑูรย์ และ สถิตย์ พี่วิฑูรย์ เขามาทำคลีนเนอร์ คือทำความสะอาดในบริเวณรง. ที่นั่นช่วงเช้า เขาจะนั่งคุยกันว่า ใครเล่นไฮโลว์ เล่นไพ่ ใครได้ใครเสียคนไทยในรง.ที่ผมทำมี120คนครับ
ผมเอง แรกๆนั่งรวมกับคนไทยครับ แต่...เขาจะคุยเรื่อง การเล่นการพนันหลังเวลาเลิกงาน นั่นสรุปผมเลยต้องค่อยๆปลีกตัวออกห่าง ไปคุยกับชาติอินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปินส์ แทนเป็นการฝึกภาษาไปในตัวครับ มีพี่คนหนึ่งคนไทยเขาทำงานแผนกช่าง ไม่ขอเอ่ยชื่อ พูดเปรยๆในโรงอาหารซึ่งนั่งไม่ห่างผมนัก ใครที่คิดว่าแน่ เก่งภาษาอังกฤษ ตายน้ำตื้นทุกราย...นั่นแน่ะ เอาเข้าละ
และถัดมา...เพื่อนร่วมแผนก บอกดังๆ ในโรงอาหาร คนไทยเรานี้มีแกะดำอยู่ตัวหนึ่ง ไม่เข้าพวกเข้าพ้อง....ผมเฉยไม่พูดอะไร เพราะรู้ว่าเขาหมายถึงใคร พอเงินเดือนออก ก็คือเล่นได้เสียกันในกลุ่มคนไทย แต่ผมตั้งใจแน่วแน่ อยู่ในไทยผมเอง มีงานทำดีๆแต่เพราะวัยยังน้อย หลงผิดหน้าใหญ่ เลี้ยงเพื่อนเสมอๆ ดื่มแล้วเสียคนครับ จนบริษัท เลิกจ้างครับ ตกงานสามปี...คือระหกระเหินสุดๆหลังจากตกงาน นั่นคืออดีตที่ผมไม่เคยลืมครับ
ผมเอง ปลีกตัวไม่นั่งกินอาหารกัยคนไทยเพราะผมไม่สามารถเล่าเรื่องใครได้เสียเรื่องเล่นไพ่ไฮโลว์ จึงปลีกตัวมาคบเพื่อนๆต่างชาติ ฝึกภาษาอังกฤษ เพื่อนคนไทยไปพบหมอคลีนิค หมอที่คลีนิค จะโทร.หาหัวหน้าแผนกผมให้ผมไปแปลภาษาแทนเสมอเพราะที่นั่นใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางครับ ผมเองหกเดือน พูดโต้ตอบได้คล่องในขณะที่คนไทยเรา เลิกงาน เงินเดือนออก จับกลุ่มเล่นการพนันกัน โฟร์แมนผมยังเคยพูดนี่...แรกๆผมสั่งคุณได้ไม่โต้แย้ง หลังได้พูดคล่องอังกฤษนี่แย้งบ่อยนะ อ้าว นั่นคือพูดไม่ได้ต้องทำตามเน๊าะ
และแล้ว วันหนึ่ง ก็เพื่อนคนไทยมีปัญหาคือแอบดื่มเหล้า เมาแล้วอาละวาดที่นั่นตามจริงคือไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายและผิดกฏหมายนะครับ แต่คนไทยนี่ละครับหัวดัดแปลงเอายีสต์ขนมปังมาตัดแปลงต้มเหล้าเถื่อนขาย อีกที่ไม่ใช่ในที่ผมอยู่ เขาจะซื้อขวดน้ำดื่มเอามาผสมอย่างละครึ่ง ต้มกลั่นกลางทะเลทรายเป็นความลับ ผมจะเล่าในตอนต่อไปครับ
กรณีเพื่อนคนไทยดื่มเหล้า แคมป์บอสแจ้งตำรวจมาจับไปนอนคุก และผจ.โรงงานได้รับคำสั่งจากเบื้องบน เอาออกมาและส่งกลับภายใน24ชม.ตั๋วเครื่องบินมี เงินติดกระเป๋ามีแต่....คนไทยยังหวังว่าจะเอาเงินเพิ่มกลับไปเลยเข้าวงไฮโลว์ ผลเงินไม่มี เพื่อนคนไทยต้องมาเดินเรี่ยไรเงินคนไทยด้วยกันกาค่ารถให้หลังลงเครื่องบิน และผมเอง แกะดำ ตัวนี้ก็บริจาคให้ไปค่าแรงวันหนึ่งครับ!
ตัวผมเอง ทำงานส่งเงินเดือนกลับบ้านเป็นค่าหัวครับค่าหัวมาพศ.2528 หกหมื่นห้าพันบาท ร้อยละสิบบาทครับ พี่ชาย กับพี่สะใภ้จัดการให้ แปดเดือน ทำงาน ก็ลาพักผ่อนประจำปี บริษัทมอบตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมเงินติดกระเป๋าเงินเดือนหนึ่งเดือนครับ...