สวัสดีครับทุกคน หลังจากที่ผมมีกระทู้เรียบเรียงบทความเรื่องจิตวิทยาต่างๆ
Empathy Skill (ทักษะที่เราควรมีทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น),
Dark Empath (ศาสตร์มืดของความเห็นอกเห็นใจ) และ
Narcissist (อาการหลงตัวเองที่คนรอบข้างต้องรับมือ) ไปแล้ว
.
คราวนี้จะมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตที่หลายๆคนอาจจะละเลยกันไปครับ นั่นก็คือ
"ความเหงา"
.
ความเหงา คืออารมณ์ความรู้สึกอย่างหนึ่งของมนุษย์ ที่เกิดขึ้นได้ทั้งเวลาที่อยู่คนเดียว หรือแม้แต่อยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แต่ขาดความรู้สึกเชื่อมโยง หรือมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทำให้เกิดความรู้สึกทางลบในจิตใจ
.
ความเหงา อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต สภาพอารมณ์ที่หดหู่ เศร้าหมอง รวมถึงอาจกระตุ้นความเสี่ยงในการคิดฆ่าตัวตาย ในคนที่มีปัญหาด้านจิตใจอยู่แล้ว แต่จากข้อมูลใหม่ๆ ทำให้เราได้ตระหนักว่า ความเหงา ยังนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายอีกด้วย
.
ดร.วิเวก เมอร์ธี (Vivek Murthy) หนึ่งในคณะกรรมการระหว่างประเทศ ที่ WHO จัดตั้งขึ้นเพื่อหาแนวทางรับมือปัญหาสุขภาพอันเกิดจากความเหงา กล่าวว่า ความเหงา เป็นภัยต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน และเป็นภัยร้ายแรงยิ่งกว่าโรคอ้วน และการไม่ออกกำลังกายเสียอีก
.
เหงาคืออะไร อย่างไรถึงเรียกว่าเหงา
.
ดร.เบล วอชิงตัน (Bell Washington) หนึ่งในคณะกรรมการผู้จัดทำนโยบายแก้ปัญหาความเหงาของ AMA (American Medical Association) กล่าวว่า ความเหงา คือความรู้สึกในทางลบที่เกิดขึ้นในจิตใจของคน เมื่อพบว่า การมีปฏิสัมพันธ์ หรือการมีความรู้สึกเชื่อมโยงกับคนอื่น ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิดว่าควรจะเป็น
.
“คุณอาจจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่คุณรู้จักคุ้นเคยดี แต่คุณก็ยังรู้สึกเหงาได้” ดร.วอชิงตัน กล่าว พร้อมเสริมว่า “คุณอาจจะพบเจอ-พูดคุยกับคนมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกอ้างว้าง เพราะสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ไม่ใช่บทสนทนาแบบผิวเผิน ตามมารยาท แต่เป็นใครสักคนที่รู้จักคุณอย่างลึกซึ้งจริงๆ”
.
ซีโมน ดาส โดเรส นักจิตวิทยาจาก iPractice สถาบันจิตเวชแห่งเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า “การจะบอกว่าคุณกำลังรู้สึกเหงาหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องอยู่ลำพังคนเดียว ถ้าคุณรู้สึกหดหู่ เครียด หรือวิตกกังวลกับการต้องอยู่ลำพังคนเดียว แปลว่าคุณรู้สึกเหงาแล้ว และยิ่งคุณคิดถึงมัน คุณจะยิ่งเหงามากขึ้น”
.
อย่างไรก็ดี โดเรสย้ำว่า การอยู่ลำพังคนเดียว ไม่ได้เท่ากับความเหงา การอยู่ตัวคนเดียวเป็นข้อเท็จจริง หรือภววิสัย (Objective) แต่การรู้สึกเหงา เป็นเรื่องของความรู้สึก การรับรู้ ซึ่งถือเป็นอัตวิสัย (Subjective) หรือสิ่งที่รับรู้ได้เฉพาะตัวบุคคล
.
“สำหรับคนบางคน การอยู่ลำพังคนเดียว กลับทำให้เขาหรือเธอรู้สึกสบายใจ มีความสุข นั่นแปลว่า คนๆ นั้นไม่ได้รู้สึกเหงา” โดเรส กล่าว
.
เคล็ดลับการรับมือกับความเหงา
.
ดร.เดวิด เคทส์ นักจิตวิทยาจากสถาบันการแพทย์เนแบรสกา สหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงวิธีรับมือกับปัญหาที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
.
“อันดับแรกเลย คุณต้องใจดีกับตัวเอง” ดร.เคทส์ กล่าว “ยอมรับว่าตัวเองกำลังมีปัญหา คุณถึงจะแก้ปัญหาได้”
.
นอกจากใจดีกับตัวเองแล้ว จงใจดีกับคนอื่นด้วย การใส่ใจและพยายามช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้คนที่กำลังรู้สึกเหงา ได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
.
ขณะที่ซาราห์ ไฮทาวเวอร์ (Sarah Hightower) นักจิตวิทยาการปรึกษาจากแอตแลนตา กล่าวว่า สำหรับบางคน อาจมีช่วงเวลา หรือบางเทศกาลที่มักรู้สึกเหงาบ่อยๆ ดังนั้น เมื่อรู้ล่วงหน้าว่าตัวเองมีโอกาสจะรู้สึกเหงา ให้วางแผนล่วงหน้าในการรับมือ เช่น นัดเจอครอบครัวหรือเพื่อนในช่วงนั้น
.
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายวิธีในการขจัดความเหงา เช่น การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง การมีงานอดิเรกใหม่ๆ การออกไปเดินเล่นในสถานที่ธรรมชาติ และการมีกิจกรรมที่ขยับเขยื้อนร่างกาย ไม่ว่าจะทำคนเดียว หรือทำร่วมกับเพื่อนๆ ล้วนแต่เป็นวิธีที่ดีในการลดอารมณ์หดหู่
.
ทางด้าน ดร.เคทส์ กล่าวว่า ฟังดูอาจเป็นเรื่องแปลก หรือย้อนแย้ง แต่การดื่มด่ำกับช่วงเวลาอยู่คนเดียว นับเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเหงาได้ เพราะการอยู่ลำพังอย่างมีคุณภาพ จะทำให้คุณได้ชาร์จพลังให้กับตัวเอง ได้ทบทวนเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น รวมถึงได้มีโอกาสใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์
.
ท้ายที่สุด การพบแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เป็นอีกหนทางที่ช่วยให้คุณพ้นจากความเหงาได้
.
“ความเหงา เป็นปัญหาที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง” ดร. เบล วอชิงตัน จาก AMA กล่าวทิ้งท้าย “เพราะมันนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อาการซึมเศร้า และที่ร้ายแรงที่สุด อาจถึงแก่ชีวิตได้”
.
.
ดังนั้น ความเหงาไม่ใช่เรื่องแปลกและก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากเรารู้จักตัวเองดีพอและเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันครับ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับทุกคน
Loneliness (ภัยเงียบเมื่อความเหงากำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ)
สวัสดีครับทุกคน หลังจากที่ผมมีกระทู้เรียบเรียงบทความเรื่องจิตวิทยาต่างๆ Empathy Skill (ทักษะที่เราควรมีทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น), Dark Empath (ศาสตร์มืดของความเห็นอกเห็นใจ) และ Narcissist (อาการหลงตัวเองที่คนรอบข้างต้องรับมือ) ไปแล้ว
.
คราวนี้จะมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตที่หลายๆคนอาจจะละเลยกันไปครับ นั่นก็คือ "ความเหงา"
.
https://thepotential.org/life/loneliness-and-health/