ที่ผมเคยตั้งกระทู้เรื่องที่แม่ช่วยน้องชายเคลียร์หนี้สินและคดี เอาบ้านไปให้น้องค้ำประกัน รักและห่วงแต่กับน้อง ล่าสุดแม่ผมตรวจพบเนื้องอกประมาณ 19 ซม. และสุ่มเสี่ยงเป็นมะเร็งที่รังไข่เพราะค่าเลือดสูงมาก ต้องผ่าตัดเพื่อเอาชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ วันที่ผมพาแม่ไปฟังผลที่ รพ. หลังหมอแจ้งกับแม่ว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง ความรู้สึกที่เคยโกรธแม่ โมโหแม่มันหายกลายเป็นสงสารและเห็นใจแม่ที่แม่ต้องมาเจอกับโรคร้าย หลังจากวันนั้นแม่อยากกินอะไร อยากได้อะไรหรือจะว่าอะไรผมๆ ไม่รู้สึกโกรธแม่เลย คิดแต่เพียงว่าเวลาเริ่มเดินถอยหลังเรื่อย ๆ แล้ว เหลือเวลาไม่มากแล้วด้วยแม่อายุ 81 หลังจากกลับมาจาก รพ. อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเองไม่รู้ตัว ถ้าวันหนึ่งไม่มีแม่แล้วจะเป็นยังไง วันนี้กลับมานั่งทบทวนสิ่งที่แม่ทำไปก็เพราะความรักของแม่ที่ห่วงลูก แต่มันอาจจะเกินไปจากที่มันควรจะเป็น
เมื่อวานแม่โทรมาและบอกกับผมว่าถ้าหลังผ่าแล้วเค้าไม่ฟื้น ฝากให้ผมดูแลน้องชายที่ยังอยู่ในเรือนจำด้วย ซึ่งถ้าถามจากใจจริงๆ ผมไม่อยากดูแลแต่ก็เฉยๆไปไม่ได้ตอบอะไรแม่ไป ผมได้ยินแล้วใจหายเหมือนเป็นลางไม่ดี
สุดท้ายผมก็โกรธแม่ไม่ลง เมื่อวันที่แม่ต้องรับมือกับโรคร้าย
เมื่อวานแม่โทรมาและบอกกับผมว่าถ้าหลังผ่าแล้วเค้าไม่ฟื้น ฝากให้ผมดูแลน้องชายที่ยังอยู่ในเรือนจำด้วย ซึ่งถ้าถามจากใจจริงๆ ผมไม่อยากดูแลแต่ก็เฉยๆไปไม่ได้ตอบอะไรแม่ไป ผมได้ยินแล้วใจหายเหมือนเป็นลางไม่ดี