ในกระทู้สั้น ๆ นี้ เราจะมาไขประตูให้เห็นถึงธรรมชาติของดนตรีให้มากขึ้น เราเชื่อว่าหลังจากที่เพื่อน ๆ ได้อ่านกระทู้นี้ไป เพื่อน ๆ จะมีมุมมองต่อดนตรีไม่เหมือนเดิม และเราก็เชื่อว่ากระทู้นี้ จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเป็นศิลปินทางด้านดนตรี ไม่ก็อย่างน้อยแค่เป็นคนแต่งเพลงเล่น ๆ นะ
เวลาเราฟังเพลงหรือดนตรีใด ๆ ก็ตาม สมองเราจะพยายามทำนายหรือพยากรณ์ทำนองแทบตลอดเวลา ตัวทำนองของเพลงและดนตรีนั้น จะเป็นสิ่งที่คอยกำหนดอารมณ์ของเรา ถ้าหากทำนองเป็นไปตามที่เราคาดคิดไว้ เราก็จะรู้สึกพึงพอใจ แต่ถ้าหากขัดแย้งกับที่เราได้คิดไว้ เราก็จะรู้สึกตกใจเล็ก ๆ ถ้าหากเราทำให้ทำนองคาดเดาได้ง่ายเกินไป เราจะรู้สึกเบื่อเมื่อฟังจากความไม่ท้าทาย ในขณะที่ถ้าทำนองคาดเดายากเกินไป เราก็จะรู้สึกหงุดหงิดจากความเครียดที่ต้องพยายามทำนายทำนองให้ถูก
เพราะด้วยสาเหตุนี้ ทำนองของเพลงหรือดนตรีที่ดีจึงต้องสร้างความสมดุลระหว่างความคาดเดาได้กับคาดเดาไม่ได้ เพื่อให้ความยากของการฟังทำนอง มีความพอดี "การสร้างความประหลาดใจในบริบทที่แน่นอน" เป็นการทำให้ทำนองมีความยากเพิ่มขึ้น ในขณะที่ "การทำให้คาดเดาได้ในบริบทที่ไม่แน่นอน" จะทำให้ทำนองมีความยากลดลง การกระทำทั้งสองอันนั้น สุดท้ายมันก็คือสิ่งเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ทำนองมีความกลมกล่อม ไม่ยากและไม่ง่ายเกินไปที่จะฟัง
แล้วการสร้างความประหลาดใจในบริบทที่แน่นอน กับการทำให้คาดเดาได้ในบริบทที่ไม่แน่นอน มันเป็นลักษณะใด? เราจะยกตัวอย่างคร่าว ๆ อย่างละ 3 ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
การสร้างความประหลาดใจในบริบทที่แน่นอน
1. การใช้เคเดนซ์ขัด (Deceptive cadence) ซึ่งเป็นการดำเนินคอร์ด V-vi แทนที่จะเป็นเคเดนซ์ปิด (Authentic cadence) ที่เกลาไปคอร์ด I ซึ่งเป็นคอร์ดที่เราคาดหวังมากที่สุด เพราะคอร์ด I นั้น เป็นคอร์ดที่สำคัญมากที่สุด ในขณะที่คอร์ด V มีความตึงเสียงที่ต้องการถูกเกลา การที่คอร์ด V เกลาไปคอร์ด vi จะทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ
2. การสร้างจังหวะขัด (Syncopation) อย่างเช่นปกติทำนองอัตราจังหวะ 4/4 จะมีจังหวะหนักเป็น 1 กับ 3 ซึ่งบริเวณจังหวะนั้น ๆ จะใช้การหยุดโน้ต, ใช้โน้ตสำคัญ, ใช้เป็นบริเวณที่คอร์ดถูกเล่น, ฯลฯ ทีนี้ถ้าเกิดเราเลือกเล่นคอร์ดบนจังหวะ 2 ซึ่งเป็นจังหวะเบา เราจะรู้สึกตกใจเพราะว่าจังหวะมีความขัดกับที่เราชินไปชั่วขณะ
3. การทดเสียง (Transposition) อาทิ อยู่ ๆ ก็ปรับขึ้นไปครึ่งเสียง (Semitone) ทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกตกใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่กระทันหัน
การทำให้คาดเดาได้ในบริบทที่ไม่แน่นอน
1. การสร้างหน่วยย่อยเอก (Motif) หรือก็คือแพทเทิร์นอย่างใดอย่างหนึ่งของทำนอง อาจอยู่ในรูปของจังหวะ, รูปร่างทำนอง (Melodic contour), ฯลฯ ให้ครอบคลุมตลอดทั้งเพลง ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ Symphony No.5 ของ Beethoven ซึ่งจะมีหน่วยย่อยเอกเป็นจังหวะ สั้น-สั้น-สั้น-ยาว และรูปร่างทำนองจะขยับลงตรงท้าย ที่เหลือจะอยู่นิ่ง ๆ
2. การปรับโน้ต (Transformation) อาทิ ค่อย ๆ ปรับโน้ตในแต่ละห้องเพลงที่อยู่บนจังหวะ 1 ในฐานะจังหวะหนัก ให้ขึ้นไปทีละครึ่งเสียงต่อ 1 ห้องเพลงอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าโน้ตบนจังหวะที่เหลือจะสร้างทำนองที่ไม่ได้มีรูปแบบ
3. การกำหนดสังคีตลักษณ์ (Form) ไม่ว่าเพลงมันจะวุ่นวายเพียงใด มันก็มักจะมีสังคีตลักษณ์แบบใดแบบหนึ่ง เช่น สังคีตลักษณ์สามตอน (Ternary form) แบบ ABA, สังคีตลักษณ์รอนโด (Rondo form) แบบ ABACA, สังคีตลักษณ์โซนาตา (Sonata form) ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ตอนตามลำดับ ได้แก่ ตอนนำเสนอ (Exposition), ตอนพัฒนา (Development) และตอนย้อนความ (Recapitulation) เป็นต้น
หวังว่ากระทู้นี้จะสร้างประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ชาวพันทิป ไม่มากก็น้อย ขอให้ประสบความสำเร็จนะ!
อ้างอิง:
Meyer, L. B. (1956).
Emotion and Meaning in Music (pp. 14-42). University of Chicago Press. Retrieved from
ลิงก์นี้.
อารมณ์จะถูกสร้าง ไม่จากการเติมเต็มความคาดหวัง ก็จากการทำลายความคาดหวัง
Huron, D. (2006).
Sweet Anticipation: Music and the Psychology of Expectation. The MIT Press. Retrieved from
ลิงก์นี้ (เอกสารได้มาจากการกด Download full-text PDF).
เราจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อทำนายอะไรก็ตามได้ถูกต้อง
Yerkes, r. m., & Dodson, j. d. (1908).
the relation of strength of stimulus to rapidity of habit-formation. journal of comparative neurology and psychology, 18(5), 459–482. Retrieved from
ลิงก์นี้.
อะไรก็ตามที่ง่ายเกินไปจะสร้างความเบื่อหน่าย แต่ถ้าอะไรก็ตามที่ยากเกินไปจะสร้างความเครียด (การพยายามทำนายทำนองของดนตรีก็เช่นเดียวกัน)
Cheung, V. K. M., et al. (2019).
Uncertainty and Surprise Jointly Predict Musical Pleasure and Amygdala, Hippocampus, and Auditory Cortex Activity. Current Biology, 29(23). Retrieved from
ลิงก์นี้ (เอกสารได้จากการกด View PDF).
ทำนองเพลงที่ให้ความพอใจสูงที่สุด จะต้องมีความสมดุลระหว่างการสร้างความประหลาดใจกับการทำให้คาดเดาได้
Shany, O., et al. (2019).
Surprise-related activation in the nucleus accumbens interacts with music-induced pleasantness. Social Cognitive and Affective Neuroscience, 14(4). Retrieved from
ลิงก์นี้ (เอกสารได้มาจากการกด PDF เพื่อดาวน์โหลด).
ส่วนของสมองบริเวณ Nucleus accumbens จะถูกกระตุ้นจากความประหลาดใจของทำนองที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกพึงพอใจ
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2563).
สังคีตลักษณ์และการวิเคราะห์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: ธนาเพรส.
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2564).
พจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: ธนาเพรส.
[หัวใจหลักของเพลงหรือดนตรี] การสร้างความประหลาดใจในบริบทที่แน่นอน และการทำให้คาดเดาได้ในบริบทที่ไม่แน่นอน
Meyer, L. B. (1956). Emotion and Meaning in Music (pp. 14-42). University of Chicago Press. Retrieved from ลิงก์นี้.
อารมณ์จะถูกสร้าง ไม่จากการเติมเต็มความคาดหวัง ก็จากการทำลายความคาดหวัง
Huron, D. (2006). Sweet Anticipation: Music and the Psychology of Expectation. The MIT Press. Retrieved from ลิงก์นี้ (เอกสารได้มาจากการกด Download full-text PDF).
เราจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อทำนายอะไรก็ตามได้ถูกต้อง
Yerkes, r. m., & Dodson, j. d. (1908). the relation of strength of stimulus to rapidity of habit-formation. journal of comparative neurology and psychology, 18(5), 459–482. Retrieved from ลิงก์นี้.
อะไรก็ตามที่ง่ายเกินไปจะสร้างความเบื่อหน่าย แต่ถ้าอะไรก็ตามที่ยากเกินไปจะสร้างความเครียด (การพยายามทำนายทำนองของดนตรีก็เช่นเดียวกัน)
Cheung, V. K. M., et al. (2019). Uncertainty and Surprise Jointly Predict Musical Pleasure and Amygdala, Hippocampus, and Auditory Cortex Activity. Current Biology, 29(23). Retrieved from ลิงก์นี้ (เอกสารได้จากการกด View PDF).
ทำนองเพลงที่ให้ความพอใจสูงที่สุด จะต้องมีความสมดุลระหว่างการสร้างความประหลาดใจกับการทำให้คาดเดาได้
Shany, O., et al. (2019). Surprise-related activation in the nucleus accumbens interacts with music-induced pleasantness. Social Cognitive and Affective Neuroscience, 14(4). Retrieved from ลิงก์นี้ (เอกสารได้มาจากการกด PDF เพื่อดาวน์โหลด).
ส่วนของสมองบริเวณ Nucleus accumbens จะถูกกระตุ้นจากความประหลาดใจของทำนองที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกพึงพอใจ
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2563). สังคีตลักษณ์และการวิเคราะห์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: ธนาเพรส.
ณัชชา พันธุ์เจริญ. (2564). พจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: ธนาเพรส.