THE END of ONE PIECE Part 1 (Written by: Greg Werner)

(กระทู้นี้แปลจาก บทความของ Greg อ่านต้นฉบับได้ที่ https://www.onepiecepodcast.com/theendofonepiece )
จุดจบของ ONE PIECE

Part 1: จุดจบของโลกของเขาในแบบที่เรารู้จัก

คำเตือนเกี่ยวกับสปอยล์: บทความนี้ จะไม่ ให้คำตอบที่แน่ชัดว่า ONE PIECE มังงะชื่อดังของ Eiichiro Oda จะจบลงเมื่อไหร่ แต่จะพยายามวิเคราะห์และระบุช่วงเวลาที่เป็นไปได้สำหรับ ‘จุดสิ้นสุด’ ของเรื่องนี้ โดยอ้างอิงจากคำพูดของ Oda ที่มีมากว่าสองทศวรรษครึ่ง รวมถึงคำกล่าวจากผู้ที่มีส่วนร่วมในการผลิตทั้งมังงะและอนิเมะ
อาจมีการกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญในเรื่องทั้งอดีตและปัจจุบันที่บางคนอาจมองว่าเป็นสปอยล์ ถ้าคุณโอเคกับสิ่งนี้... ก็ขอต้อนรับสู่การเดินทางที่ยาวนานกันเลย!

คุณคงเคยได้ยินว่า ONE PIECE กำลังอยู่ใน ‘เนื้อเรื่องสุดท้าย’ แล้วใช่ไหม? “เนื้อเรื่องสุดท้าย? แต่ฉันได้ยินมาว่ามันอยู่ใน มหากาพย์สุดท้าย ต่างหาก!” “ไม่จริง! มันไม่ใช่มหากาพย์สุดท้าย เจ้าบื้อ! มันเป็น บทสุดท้าย แล้วต่างหาก!” “เอ่อ... บทสุดท้าย? หมายถึงอะไร? ONE PIECE กำลังเข้าสู่ ช่วงสุดท้ายของเรื่อง แล้วสิ” “จริงๆ แล้ว ONE PIECE อยู่ใน อาร์คสุดท้าย ของเรื่องแล้วนะ”
ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดเกี่ยวกับจุดจบของ ONE PIECE ที่—น่าเสียดาย—เป็นข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดกันไปหมด แล้ว... เดี๋ยวก่อน, อะไรนะ?!
ONE PIECE กำลังจะจบลงจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?!
ใช่แล้ว มังงะของ Eiichiro Oda ที่สร้างสถิติถล่มทลายมาตั้งแต่ 19 กรกฎาคม 1997 ได้เดินทางเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของมันแล้ว (…ใช่, ONE PIECE DAY คือ 22 กรกฎาคม, แต่เชื่อฉันเถอะ ฉันทำวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งคลิปแล้ว https://www.youtube.com/watch?v=wemZJ8L44i8)
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยาก แต่คุณเคยคิดไหมว่า "ONE PIECE กำลังจะจบ" จริงๆ แล้วมันหมายความว่ายังไง?
คำพูดนี้อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดา เพราะถ้าจะพูดให้ถูกต้อง ONE PIECE ก็ "กำลังจบ" มาตั้งแต่ ตอนที่ 1 แล้ว
เอาล่ะ มาฟังจากปากของ Oda กันเองเลยดีกว่า
ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2022 กับ Gosho Aoyama ผู้เขียน Detective Conan, Oda ได้กล่าวเกี่ยวกับอายุขัยของ ONE PIECE ณ ตอนนั้นว่า:
“...อีกสามปี” - Eiichiro Oda
โอ้ ไม่เอาน่าาาาา!!!
...พูดแบบนั้นกันซักคนรึเปล่า? ก็ไม่นะ เพราะพวกเรารู้กันดีอยู่แล้วว่า Oda ไม่แม่นเรื่องการคาดการณ์เวลาเลย (อุ๊ย! บังอาจกล่าวหาท่านเทพเช่นนั้นได้ยังไง!)
ขอให้เข้าใจกันตรงนี้ก่อนนะ—ฉันไม่ได้จะพูดให้ Oda ดูแย่ แต่เราจะมาดูประวัติของเขาเกี่ยวกับการคาดการณ์เรื่องระยะเวลาของ ONE PIECE และจากที่เราจะได้เห็นกัน... เขาเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจในเรื่องนี้เอาซะเลย (แต่อย่าด่วนสรุปไป!)
ฉันไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า Oda และทีมงานของเขาตั้งใจให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับระยะเวลาของเรื่องเสมอไป... อย่างน้อยก็ เกือบตลอดเวลา นั่นแหละ
ในช่วงฤดูร้อนปี 2019 ฉันได้ถามคนที่อยู่ใกล้ชิดกับโปรเจกต์นี้เกี่ยวกับคำพูดของ Oda ที่ว่า ONE PIECE จะจบภายใน ห้าปี ซึ่งเขากล่าวไว้ในวิดีโอโฆษณาภาพยนตร์ ONE PIECE STAMPEDE บน YouTube
และพวกเขาก็บอกฉันว่า Oda เอาจริงมากกับเรื่องนี้
แต่… ตอนนี้มันปี 2024 แล้ว และ—จนถึงตอนนี้—พวกเรายังติดอยู่ที่ Egghead กันอยู่เลย...
งั้นสรุปว่าไงกันแน่?!

HYPE ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ฉันไม่สงสัยเลยว่าทุกครั้งที่ Oda พูดเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหลือของ ONE PIECE เขามีเจตนาจริงใจเสมอ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความซื่อสัตย์ของเขา แต่อยู่ที่การประเมินขนาดของเรื่องราวที่เขากำลังเล่าออกมา ซึ่งสุดท้ายมันจะขยายตัวใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดเสมอ
เรื่องนี้ส่วนใหญ่มาจากนิสัยของ Oda เอง—ตามคำพูดของเขา—ที่บอกว่าเขาเป็น ‘Perfectionist’ (คนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบทุกอย่าง) แม้ว่าเขาจะสามารถลดทอนเนื้อเรื่องเพื่อให้มันจบเร็วขึ้นได้ แต่เขากลับเลือกที่จะเติมเต็มเรื่องราวด้วยตัวละครใหม่ การผจญภัยใหม่ และมุกตลกใหม่ๆ ที่เขาคิดขึ้นมาตลอดทาง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ Luffy ก้าวเข้าสู่ New World, Oda ก็ได้เร่งความเร็วของ A-plot (เส้นเรื่องหลัก) มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาให้ความสำคัญกับการเดินหน้าเนื้อเรื่องหลักมากขึ้น ในขณะที่ลดจำนวนฉากของเส้นเรื่องรอง (B, C, และ D-plot) ลง ดังนั้น... ต้องขอโทษด้วยนะโลก เราคงไม่มีวันได้รู้ว่า Senor Pink มีความหลงใหลในแมวได้ยังไง
ถึงแม้ว่า Oda จะพยายามผลักดันเนื้อเรื่องหลักไปข้างหน้า แต่เรื่องราวของเขาก็ยังคงลากยาวกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ทำให้เขาใช้เวลามากกว่าที่คิดไปกับแต่ละสถานที่ในเรื่อง
ลืมคำพยากรณ์เกี่ยวกับอายุขัยของซีรีส์ไปเลย
แค่ดูสิ่งที่เขาทำนายไว้เกี่ยวกับ Ace ก็พอ…

"ตอนที่ Ace เปิดตัว เดิมทีฉันวางแผนจะฆ่าเขาในอีกหนึ่งปีต่อมา [ในเวลาจริง]"
(ที่มา: Sound and Recording เมษายน 2012)

แม้ว่าคำพูดของ Oda เกี่ยวกับ Ace จะไม่ถูกเปิดเผยจนกระทั่งหลังจากที่ตัวละครนี้ตายในศึก Marineford, แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูประวัติของเขา Oda เคยทำนายผิดพลาดหลายครั้งเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในแต่ละปี ผ่านการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน JUMP Festa ซึ่งจัดขึ้นทุกเดือนธันวาคมที่ Makuhari Messe Expo Center ใน Chiba, Japan
ทุกปีเขาจะขึ้นเวทีเพื่อสร้างกระแสและให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวในปีหน้า เขาทำแบบนี้จนถึงปี 2014 จากนั้นเขาก็เงียบหายไป ไม่ออกมาพูดด้วยตัวเองอีกเลย ปล่อยให้ตัวละครในเรื่องเป็นตัวแทนของเขาแทน
แม้ว่า Oda ยังคงเขียนจดหมายประจำปีถึงแฟนๆ เพื่อบอกใบ้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะผิดอยู่ดี 😂) แต่เราจะเห็นได้ว่าเขาเลิกใช้วิธีการ hype ด้วยการสปอยล์เนื้อหาแบบตรงๆ ไปแล้ว
การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ Oda เริ่มขึ้นในปี 2003
(JUMP Festa 2003 ที่จริงแล้วจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2002)
ในงานนั้น Oda ได้ทิ้งบอมบ์ลงเวที ด้วยการกล่าวว่า “จะมีลูกเรือตายปีหน้า” แล้วเดินออกจากเวทีไป...
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อแฟนๆ อย่างรุนแรงมาก จนพวกเขาส่งจดหมายไปแสดงความไม่พอใจให้เขารู้
ดูเหมือนว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Oda เริ่มลดความแรงของการสปอยล์ลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เคยให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการตายของตัวละคร กลายเป็นเพียงคำใบ้ที่คลุมเครือเกี่ยวกับตัวละครที่จะโผล่ในปีหน้าแทน
ปัจจุบัน คำพูดของเขาในช่วงสิ้นปีมักจะ “เข้าใกล้ความจริง” มากขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะเขาพูดถูกนะ... แต่เป็นเพราะเขาให้ตัวเอง "พื้นที่เผื่อผิดพลาด" เยอะมาก
แต่เมื่อพูดถึงเวลาที่เหลือของเรื่อง... เขายังคงเป็นคนที่คาดการณ์ได้แย่มาก
ซึ่งอาจทำให้คุณประหลาดใจว่า แม้ว่าเขาจะพลาดเรื่องระยะเวลาอยู่ตลอด... แต่เขากลับ "ถูกต้องในทางเทคนิค" เกือบตลอดเวลา (ซึ่งเป็นความถูกต้องที่กวนประสาทสุดๆ)
ก่อนที่ Oda จะเริ่มโยนตัวเลขปีลงไป เขาเคยเล่นเกม hype ได้ฉลาดกว่านี้มาก เพราะเขาจะพูดถึง "ปริมาณของเนื้อเรื่องที่เหลืออยู่" แทนที่จะบอกว่า "เหลืออีกกี่ปี"
“มังงะเดินทางมา 50% แล้ว” ≠ “ONE PIECE ออกไปแล้ว 50% ของตอนทั้งหมด”
นี่คือจุดสำคัญที่หลายคนมองข้าม การพูดถึงเปอร์เซ็นต์ของเรื่องกับจำนวนตอนที่เขียนไปแล้วเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง

EXPECTATION VS REALITY
แฟน ๆ ONE PIECE ส่วนใหญ่คงรู้กันดีว่า Oda เริ่มวางโครงเรื่องจากจุดสิ้นสุดก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาเติมรายละเอียดเพื่อสร้างเรื่องราวขึ้นมาเป็นรูปร่างเดิมที ONE PIECE ถูกกำหนดให้เป็นเรื่องราวที่ใช้เวลาเพียง 5 ปี เท่านั้น!
1 ปีถึง 1 ปีครึ่งสำหรับการรวบรวมลูกเรือ
3 ปีแห่งการผจญภัยใน Grand Line
และ 1 ปีสุดท้ายสำหรับบทสรุปของเรื่อง
แต่ที่น่าสนใจก็คือ แม้แต่ตัวเลขนี้ก็ไม่คงที่ Oda เองยังให้ข้อมูลแตกต่างกันไปในแต่ละบทสัมภาษณ์ เช่น ใน Sound and Recording Magazine ปี 2012 กับ Yomiuri Shimbun ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้กับความเป็นจริงนั้นมักจะไปกันคนละทาง
Backward Mapping กับความผิดพลาดของ Oda
กระบวนการสร้างเรื่องจากจุดจบย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้นนี้ เรียกว่า Backward Mapping ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายสาขา ไม่ใช่แค่การเขียนเรื่องเท่านั้น มันช่วยให้ Oda มองเห็นเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบได้ล่วงหน้า ก่อนที่หน้าแรกของ ONE PIECE จะถูกตีพิมพ์ลงใน Weekly Shonen Jump
แต่สิ่งที่เขาพลาดก็คือ... "ความยาวของแต่ละช่วง"
ลองนึกถึงจุดสำคัญของเรื่องที่ Oda วางไว้เป็น A → B → C → D หากตอนที่เขียนถึงจุด B แล้วเขาประกาศว่า "เรื่องราวเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว" นี่อาจเป็นความจริงจากมุมมองของ Oda แต่ไม่ได้หมายความว่าเวลาจริงที่เราใช้ในการอ่าน ONE PIECE ก็มาถึงครึ่งทางแล้วเหมือนกัน
เพราะถ้าแต่ละช่วงมีความยาวแตกต่างกันมาก ความหมายของคำว่า 50% ก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
"เราต้องดูว่าหมวกฟางเดินทางมาถึงจุดไหน"
จำนวน เล่มมังงะ หรือ ตอนที่ตีพิมพ์ ไม่ใช่ตัววัดที่ดีที่สุดในการบอกว่าเนื้อเรื่องเดินทางมาไกลแค่ไหน สิ่งที่สะท้อนความก้าวหน้าของเรื่องได้ดีที่สุดคือ "ตำแหน่งของกลุ่มหมวกฟางในโลกของ ONE PIECE"
ตัวอย่างที่ดีที่สุดของ Oda ในการตระหนักว่าเนื้อเรื่องของเขาจะยืดยาวเกินไป เกิดขึ้นในปี 2003
นิตยสาร Manga Omo! ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับมังงะที่ออกเพียงฉบับเดียว ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ Oda ซึ่งเกือบจะถูกลืมไปแล้ว ในบทสัมภาษณ์นั้น เขากล่าวว่า...
"ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 20 ปีในการเขียนเรื่องนี้ให้จบ"
แน่นอนว่าผู้อ่านหลายคน (รวมถึงฉันด้วย) คิดว่าเขาพูดเกินจริง หรืออาจหมายถึง สิ่งที่เขาอยากเขียน ไม่ใช่ สิ่งที่เขาต้องเขียนจริง ๆ
แต่นั่นคือปี 2002 และตอนนี้เรากำลังถกเถียงกันในปี 2024 ว่า ONE PIECE จะจบเมื่อไหร่! 😆
Oda สามารถมองเห็นเป้าหมายของตัวเองได้ แต่เขายังคงคำนวณเวลาผิดพลาดไปมาก
ความจริงที่ "ทั้งถูกและผิด" ในเวลาเดียวกัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การพยากรณ์ของ Oda เกี่ยวกับอายุขัยของ ONE PIECE มักมีสองมุมมองเสมอ
ถูกต้องในเชิงโครงสร้างของเรื่อง (Structural Accuracy)
ผิดพลาดในเชิงเวลาและจำนวนบทจริงๆ (Time & Chapter Count Miscalculation)
พูดง่าย ๆ คือ เขา "พูดถูก" จากมุมหนึ่ง แต่ "บิดจากความจริง" จากอีกมุมหนึ่ง

ทำไม Oda ถึงให้คำทำนายที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
เหตุผลหลัก ๆ คือการ Hype ให้กับแฟน ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม แฟนทั่วไป (Casual Fans)
การให้คำทำนายผิด ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อหลอกลวงใคร แต่มันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดแฟนกลุ่มใหญ่ที่ยังไม่ได้เข้ามาสู่ ONE PIECE Fandom
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ (Super Fans) พวกเขารู้แล้วว่าตัวเองรัก ONE PIECE และติดตามมันอยู่แล้ว Oda จึงไม่ต้องพยายามโน้มน้าวให้พวกเขาอยู่ต่อ
แต่เป้าหมายของเขาคือการดึงดูดแฟนใหม่ ๆ และนำแฟนเก่ากลับมา
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ONE PIECE ถึงพยายามรักษาสมดุลระหว่างความตลกและความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง เพื่อให้แม้แต่คนที่ไม่เคยอ่านมาก่อนก็สามารถเปิดอ่านตอนล่าสุด แล้วหัวเราะไปกับมันได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่