รถคันนี้ที่ผมใช้อยู่ ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ แต่คุณพ่อผมเป็นคนซื้อ (ผ่อน)
ถึงรถจะใช้งานน้อย แต่ประกันไม่เคยขาด
ทำชั้น 3+ จ่ายเบี้ยทิ้งไปทุกปี มาสิบกว่าปีแล้ว กับบริษัทที่พ่อผมซื้อรถนั่นแหละ แกผ่อนรถหมดภายใน 2 ปี เพราะดาวน์เยอะ ตอนแกผ่อนมันมีสัญญาบังคับให้ทำชั้น 1 พอแกผ่อนหมด ก็ใช้รถอยู่ไปเป็นปีๆ ตอนนั้นก็น่าจะยังต่อชั้น 1 อยู่
ผ่อนหมดได้แค่ปีเดียวแกก็เสียไปซะก่อน พอผมมาใช้ต่อ ผมต่อชั้น 3+ มาตลอดเพราะตอนนั้นยังเรียนอยู่ ไม่มีตังค์มาจ่ายเบี้ยเป็นหมื่นๆ ไม่อยากรบกวนแม่ด้วยครับ แค่ขอเงินแกใช้ทุกวันก็เยอะพอแล้ว ตอนเด็กคือไม่ได้ทำงานหาเงินเอง
ตั้งแต่ work from home รวมๆที่ทำงานอยู่ที่บ้านจนถึงวันนี้ ก็จะ 5 ปีแล้ว
ระยะไมล์รถยนต์ วิ่งรวมตอนนี้หลายแสนโล
เช็คระยะล่าสุดเมื่อปี 62
ที่จำได้ เพราะในมือถือยังมีสลิปโอนเงิน + ใบเสร็จรับเงิน + ใบรายการที่ต้องจ่ายในตาราง
ผมถ่ายเอาไว้หมด แต่เอกสารจริงทิ้งไปหมดแล้ว55555
นับตั้งแต่เช็คครั้งนั้น ระยะตอนนั้นจำได้ว่าเกือบ 86,000 กว่าโลประมาณนี้แหละจำได้รางๆ (ในระยะเวลา 9 ปี) เพราะตอนนั้นยังอยู่ในวัยเดียว
ขับรถและมีใบขับขี่ตอนอายุ 18 ช่วงใกล้จบ ม.6 พอดี แล้วพ่อก็เสียในช่วงเวลานั้นด้วย
ขึ้นมหาลัยก็ยังขับแต่มอไซค์ และบ้านใกล้มหาลัย ตอนนั้นอยู่บ้านในเมือง รถยนต์จอดไว้มากกว่า
แต่ก็ยังขับบ้าง ช่วงเสาร์อาทิตย์และปิดเทอม เริ่มใช้จริงๆตอนขึ้น ปี3 และปี4 ใช้บ่อยเพราะมีไปเที่ยวไปนั่นนี่กับเพื่อน ค่าน้ำมันไม่ใช่ปัญหาเพราะส่วนใหญ่หารกันเวลาไปเที่ยว
พอมาวัยทำงาน ก็ยังใช้มอไซค์ไปทำงาน เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด ได้งานที่จังหวัดตัวเอง และที่ทำงานห่างบ้าน 20 กว่ากิโล ใช้มอไซค์ตลอด ช่วงหน้าฝนถึงใช้รถยนต์
ทุกคนจะเห็นว่าผมใช้รถยนต์วิ่งน้อยมาก มีวิ่งไกลจริงๆตอนลาพักร้อนไปเที่ยวกับแฟน ถ้าเวลาว่างหรือวันหยุดตรงกัน (แฟนบรรจุข้าราชการ) ส่วนผมมนุษย์เงินเดือนเอกชน ส่วนใหญ่แฟนมีวันหยุดบ่อยครั้ง แต่ผมถ้าอยากจะหยุดหลายวันคือต้องใช้วันลาตัวเอง5555
รวมๆระยะไมล์ที่วิ่งมา ดูมาล่าสุด เพิ่งแตะ 135,646 กิโลเอง
เท่ากับว่าไมล์เพิ่มมาจากเดิม แค่ 49,646 ( 86,000-135,646 = ?? )
แต่รถเข้าศูนย์ตลอด แต่ไม่บ่อย ไปที หน้าช่างก็เปลี่ยนที คือนานจนช่างมีการลาออกไป และมาแทนใหม่ คือเว้นระยะนานแบบนั้นเลย5555
วันเสาร์นี้ว่าจะเอารถไปเช็คระยะ ศูนย์ปิดวันอาทิตย์ คงต้องลางานไป
ที่ยังเข้าศูนย์คือสบายใจกว่าอู่นอก และค่าแรงที่ศูนย์ถูกกว่า และอะไหล่คือแท้แน่นอน เพราะถ้าเช็คที่อู่นอก อู่นอกก็มาซื้ออะไหล่จากศูนย์อยู่ดี (พนักงานศูนย์เล่าให้ฟัง)
รถคันแรกของเพื่อนๆ ตอนนี้ยังใช้งานกันอยู่มั้ย หรือเปลี่ยนกันกี่คันแล้วครับ
ถึงรถจะใช้งานน้อย แต่ประกันไม่เคยขาด
ทำชั้น 3+ จ่ายเบี้ยทิ้งไปทุกปี มาสิบกว่าปีแล้ว กับบริษัทที่พ่อผมซื้อรถนั่นแหละ แกผ่อนรถหมดภายใน 2 ปี เพราะดาวน์เยอะ ตอนแกผ่อนมันมีสัญญาบังคับให้ทำชั้น 1 พอแกผ่อนหมด ก็ใช้รถอยู่ไปเป็นปีๆ ตอนนั้นก็น่าจะยังต่อชั้น 1 อยู่
ผ่อนหมดได้แค่ปีเดียวแกก็เสียไปซะก่อน พอผมมาใช้ต่อ ผมต่อชั้น 3+ มาตลอดเพราะตอนนั้นยังเรียนอยู่ ไม่มีตังค์มาจ่ายเบี้ยเป็นหมื่นๆ ไม่อยากรบกวนแม่ด้วยครับ แค่ขอเงินแกใช้ทุกวันก็เยอะพอแล้ว ตอนเด็กคือไม่ได้ทำงานหาเงินเอง
ตั้งแต่ work from home รวมๆที่ทำงานอยู่ที่บ้านจนถึงวันนี้ ก็จะ 5 ปีแล้ว
ระยะไมล์รถยนต์ วิ่งรวมตอนนี้หลายแสนโล
เช็คระยะล่าสุดเมื่อปี 62
ที่จำได้ เพราะในมือถือยังมีสลิปโอนเงิน + ใบเสร็จรับเงิน + ใบรายการที่ต้องจ่ายในตาราง
ผมถ่ายเอาไว้หมด แต่เอกสารจริงทิ้งไปหมดแล้ว55555
นับตั้งแต่เช็คครั้งนั้น ระยะตอนนั้นจำได้ว่าเกือบ 86,000 กว่าโลประมาณนี้แหละจำได้รางๆ (ในระยะเวลา 9 ปี) เพราะตอนนั้นยังอยู่ในวัยเดียว
ขับรถและมีใบขับขี่ตอนอายุ 18 ช่วงใกล้จบ ม.6 พอดี แล้วพ่อก็เสียในช่วงเวลานั้นด้วย
ขึ้นมหาลัยก็ยังขับแต่มอไซค์ และบ้านใกล้มหาลัย ตอนนั้นอยู่บ้านในเมือง รถยนต์จอดไว้มากกว่า
แต่ก็ยังขับบ้าง ช่วงเสาร์อาทิตย์และปิดเทอม เริ่มใช้จริงๆตอนขึ้น ปี3 และปี4 ใช้บ่อยเพราะมีไปเที่ยวไปนั่นนี่กับเพื่อน ค่าน้ำมันไม่ใช่ปัญหาเพราะส่วนใหญ่หารกันเวลาไปเที่ยว
พอมาวัยทำงาน ก็ยังใช้มอไซค์ไปทำงาน เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด ได้งานที่จังหวัดตัวเอง และที่ทำงานห่างบ้าน 20 กว่ากิโล ใช้มอไซค์ตลอด ช่วงหน้าฝนถึงใช้รถยนต์
ทุกคนจะเห็นว่าผมใช้รถยนต์วิ่งน้อยมาก มีวิ่งไกลจริงๆตอนลาพักร้อนไปเที่ยวกับแฟน ถ้าเวลาว่างหรือวันหยุดตรงกัน (แฟนบรรจุข้าราชการ) ส่วนผมมนุษย์เงินเดือนเอกชน ส่วนใหญ่แฟนมีวันหยุดบ่อยครั้ง แต่ผมถ้าอยากจะหยุดหลายวันคือต้องใช้วันลาตัวเอง5555
รวมๆระยะไมล์ที่วิ่งมา ดูมาล่าสุด เพิ่งแตะ 135,646 กิโลเอง
เท่ากับว่าไมล์เพิ่มมาจากเดิม แค่ 49,646 ( 86,000-135,646 = ?? )
แต่รถเข้าศูนย์ตลอด แต่ไม่บ่อย ไปที หน้าช่างก็เปลี่ยนที คือนานจนช่างมีการลาออกไป และมาแทนใหม่ คือเว้นระยะนานแบบนั้นเลย5555
วันเสาร์นี้ว่าจะเอารถไปเช็คระยะ ศูนย์ปิดวันอาทิตย์ คงต้องลางานไป
ที่ยังเข้าศูนย์คือสบายใจกว่าอู่นอก และค่าแรงที่ศูนย์ถูกกว่า และอะไหล่คือแท้แน่นอน เพราะถ้าเช็คที่อู่นอก อู่นอกก็มาซื้ออะไหล่จากศูนย์อยู่ดี (พนักงานศูนย์เล่าให้ฟัง)