สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
พึ่งจะให้คำปรึกษาญาติผู้ใหญ่ไปหยกๆ ขอเรียกว่าคุณป้านะครับ
ป้ามีเงินเหลือ เยอะแยะ มีบ้านหลายหลัง มีรายได้ในรูปค่าเช่า ทำให้สามารถที่จะใช้จ่ายได้สบาย
ป้าเป็นหญิงโสดสู้ชีวิต สร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งแต่เด็กๆ เคยเป็นพนักงานบริษัท และ ลาออกมาค้าขายด้วยตัวเอง
ค้าขายกับฝรั่งได้ พูดภาษาอังกฤษได้ถึงแม้จะไม่ได้จบปริญญาตรี ขับรถเองได้
เรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่ง มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และประสบความสำเร็จทางการเงินในระดับสูง
ป้าเคยพูดเต็มปากเต็มคำว่า อยู่ด้วยเองได้สบาย ในสายตาของผมป้าคือ หญิงแกร่งคนหนึ่ง เป็นตัวอย่างในด้านความมีวินัย ทำงานหนัก และเชื่อมั่นในตัวเอง
ไม่นานมานี้ ป้าเริ่มป่วยเล็กๆน้อยๆ ป้าเล่าให้ฟังว่าเพื่อนๆ เริ่มจากไป เริ่มแก่ และไปเที่ยวได้ไม่เหมือนที่เคยเป็นมา
นานๆ ครั้งป้าจะโทรมาหาให้ไปเยี่ยมบ้าง บางครั้งร้องไห้ระบายให้ฟังว่าเหงา ภาพนี้ต่างจากหญิงแกร่งที่เคยเป็นมาโดยสิ้นเชิง
ด้วยความที่เป็นคนที่จัดการเรื่องตัวเองมาตั้งแต่ต้น อาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยมีใครอยู่กับแกได้นาน เช่น ชวนญาติไปอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนก็อยู่ได้ไม่นานนัก ป้าพยายามหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้มีคนอยู่ด้วยในชีวิตบั้นปลาย
เงินที่ป้ามีไม่ได้ช่วยให้มีใครผูกพัน และดูแลป้าด้วยใจ
คนที่มาอยู่ด้วย เกือบจะทั้งหมดหวังในทรัพย์สินของป้า เมื่อแกไม่พูดให้ชัดว่าจะแบ่งให้ก็จากไป เสียทั้งญาติ และเสียความรู้สึก...
ส่วนคนที่ป้าเห็นว่าดี ไม่หวังอะไรจากแก ก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไร พอที่จะให้ทิ้งสิ่งที่มีเพื่อไปอยู่กับป้า...
ป้าโทรมาปรึกษาว่าจะชวนมาคุยกันเรื่องทำพินัยกรรม เพราะไม่ต้องการให้ลูกหลานทะเลาะกันเรื่องสมบัติ
ถามบางคน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ เขาก็สนับสนุนให้คุย เพราะอยากรู้อยากได้
ถามคนที่ไม่ได้ต้องการอะไรของป้า เขาก็ไม่อยากยุ่งด้วย เพราะเขามีอยู่แล้ว และไม่ต้องการไปวุ่นวายในสิ่งที่ต้วเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
คนที่มาด้วยเงิน ชัดว่ามาเพื่อต้องการอะไร
ส่วนคนที่ใช่ ที่อยากให้มา เงินใช้การไม่ได้ ดึงเข้ามาให้ผูกพันด้วยไม่ได้...
ป้าหาเงินมาได้เอง แต่ จัดการเงินตัวเองไม่ถูก... เพราะที่ต้องการไม่ใช่เงิน แต่เป็นความผูกพันที่ดีซึ่งเงินซื้อไม่ได้
กลับมาที่ตัวผม สิ่งที่ผมต้องการในชีวิตบั้นปลาย
1 เงิน เพียงพอให้ใช้จ่ายในแบบที่ต้องการ ไม่ได้หรู แต่ไม่ลำบาก ไม่บีบรัด
2 สุขภาพ ให้เดินเหินได้ แข็งแรงพอที่จะไปเที่ยวไปใช้ชีวิตได้
3 ความผูกพัน ความสัมพันธ์ระยะยาวกับ ภรรยา กับลูก
ข้อ 3 เป็นเรื่องท้ายๆ เพราะถ้าไม่มีสองข้อแรก ข้อ 3 ไม่มีความหมาย
แต่ข้อ 3 สำคัญที่สุด เมื่อคุณมีสองข้อแรกแล้ว .... สำคัญที่สุด...
เงิน ตอบโจทย์สองข้อแรกได้ และบางส่วนของข้อที่ 2 ได้ แต่ตอบข้อ 3 ไม่ได้..
ความผูกพันต้องสร้างเอง ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูก มีหนัก มีเบา มีสุข มีทุกข์มาด้วยกัน
หรือ จะผูกจะพันด้วยเงื่อนไขของเงิน ก็คงต้องมีเงินมากพอจนทำให้อยู่กันยาวจนเห็นน้ำใสใจจริงกัน
ผมมีลูกสองคน ในครอบครัวเรารักใคร่กันดี กำลังจะจบการศึกษา
ลูกสองคนมีแฟน และพูดคุยเรื่องสร้างครอบครัวกับแฟน คุยกันเรื่องมีลูก....
เพราะเขาเห็นความสำเร็จของสถาบันครอบครัว
ผมไม่เคยคิดจะให้ลูกมาเลี้ยงดู เพราะผมดูแลด้วยเองได้ เงินที่ผมมีเพียงพอให้เกษียณแบบสบายๆ
ผมบอกภรรยาว่าเราเลี้ยงลูกเหมือนนก พอปีกกล้า ขาแข็งบินออกไปได้ ก็ดีใจ ยิ่งแข็งแรงไปได้ไกลยิ่งดีใจ
เราไม่เลี้ยงลูกเหมือนหมา ที่จะต้องคอยมาอยู่ใกล้ คอยขออาหารกิน เพราะไปหากินเองไม่ได้ แบบนี้ไม่เอา
ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะไม่ให้ความสำคัญกับความผูกพัน ไม่ได้ต้องการให้ตัวเองมีสภาพแบบคุณป้า
แต่เชื่อว่าสิ่งที่ผ่านมา การเกื้อหนุนจนเจือที่มีให้กัน น้ำจิตน้ำใจที่มีให้กัน ลูกมองเห็น
รู้ได้จาการปฏิบัติ การพูดจา ไม่ต้องไปถามหาความกตัญญู เพราะเห็นอยู่ไม่ต้องทวงถาม ไม่จำเป็น...
ถ้านกที่บินออกไป กลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง พาไปเลี้ยงข้าวบ้าง และถ้าจะเป็นธุระในเรื่องต่างๆ ที่ทำไม่ไหวแล้วบ้าง
แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว หรือจะเอาหลานนกมาให้ช่วยเลี้ยงบ้างก็ยินดี และดีใจ
ชื่นใจเพราะ เห็นความผูกพัน และมั่นใจในความความผูกพัน โดยไม่ต้องถามหาความว่ากตัญญู
ผมมีอายุครึ่งร้อยแล้ว ให้ย้อนกลับได้ก็จะมีลูกเหมือนเดิม
ผมน่าจะเกษียณอย่างมีความสุข ทำงาน และได้ผลผลิตส่วนเกินพอที่จะเกษียณได้
และนอกจากนี้ พูดได้ว่าผมได้สร้างประชากรคุณภาพให้โลกใบนี้ดำเนินต่อไป ให้คนรุ่นใหม่เห็นชีวิตที่มีความสุขต่อๆ ไป
ถ้าจะตายก็ตายอย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ความสามารถจะทำได้แล้ว
สุดท้าย ถ้าคุณต้องการพิสูจน์รักที่เกิดจาการให้โดยไม่มีเงื่อนไข ผมเชิญพิสูจน์จากการมีลูกครับ
ป้ามีเงินเหลือ เยอะแยะ มีบ้านหลายหลัง มีรายได้ในรูปค่าเช่า ทำให้สามารถที่จะใช้จ่ายได้สบาย
ป้าเป็นหญิงโสดสู้ชีวิต สร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งแต่เด็กๆ เคยเป็นพนักงานบริษัท และ ลาออกมาค้าขายด้วยตัวเอง
ค้าขายกับฝรั่งได้ พูดภาษาอังกฤษได้ถึงแม้จะไม่ได้จบปริญญาตรี ขับรถเองได้
เรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่ง มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และประสบความสำเร็จทางการเงินในระดับสูง
ป้าเคยพูดเต็มปากเต็มคำว่า อยู่ด้วยเองได้สบาย ในสายตาของผมป้าคือ หญิงแกร่งคนหนึ่ง เป็นตัวอย่างในด้านความมีวินัย ทำงานหนัก และเชื่อมั่นในตัวเอง
ไม่นานมานี้ ป้าเริ่มป่วยเล็กๆน้อยๆ ป้าเล่าให้ฟังว่าเพื่อนๆ เริ่มจากไป เริ่มแก่ และไปเที่ยวได้ไม่เหมือนที่เคยเป็นมา
นานๆ ครั้งป้าจะโทรมาหาให้ไปเยี่ยมบ้าง บางครั้งร้องไห้ระบายให้ฟังว่าเหงา ภาพนี้ต่างจากหญิงแกร่งที่เคยเป็นมาโดยสิ้นเชิง
ด้วยความที่เป็นคนที่จัดการเรื่องตัวเองมาตั้งแต่ต้น อาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยมีใครอยู่กับแกได้นาน เช่น ชวนญาติไปอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนก็อยู่ได้ไม่นานนัก ป้าพยายามหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้มีคนอยู่ด้วยในชีวิตบั้นปลาย
เงินที่ป้ามีไม่ได้ช่วยให้มีใครผูกพัน และดูแลป้าด้วยใจ
คนที่มาอยู่ด้วย เกือบจะทั้งหมดหวังในทรัพย์สินของป้า เมื่อแกไม่พูดให้ชัดว่าจะแบ่งให้ก็จากไป เสียทั้งญาติ และเสียความรู้สึก...
ส่วนคนที่ป้าเห็นว่าดี ไม่หวังอะไรจากแก ก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไร พอที่จะให้ทิ้งสิ่งที่มีเพื่อไปอยู่กับป้า...
ป้าโทรมาปรึกษาว่าจะชวนมาคุยกันเรื่องทำพินัยกรรม เพราะไม่ต้องการให้ลูกหลานทะเลาะกันเรื่องสมบัติ
ถามบางคน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ เขาก็สนับสนุนให้คุย เพราะอยากรู้อยากได้
ถามคนที่ไม่ได้ต้องการอะไรของป้า เขาก็ไม่อยากยุ่งด้วย เพราะเขามีอยู่แล้ว และไม่ต้องการไปวุ่นวายในสิ่งที่ต้วเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
คนที่มาด้วยเงิน ชัดว่ามาเพื่อต้องการอะไร
ส่วนคนที่ใช่ ที่อยากให้มา เงินใช้การไม่ได้ ดึงเข้ามาให้ผูกพันด้วยไม่ได้...
ป้าหาเงินมาได้เอง แต่ จัดการเงินตัวเองไม่ถูก... เพราะที่ต้องการไม่ใช่เงิน แต่เป็นความผูกพันที่ดีซึ่งเงินซื้อไม่ได้
กลับมาที่ตัวผม สิ่งที่ผมต้องการในชีวิตบั้นปลาย
1 เงิน เพียงพอให้ใช้จ่ายในแบบที่ต้องการ ไม่ได้หรู แต่ไม่ลำบาก ไม่บีบรัด
2 สุขภาพ ให้เดินเหินได้ แข็งแรงพอที่จะไปเที่ยวไปใช้ชีวิตได้
3 ความผูกพัน ความสัมพันธ์ระยะยาวกับ ภรรยา กับลูก
ข้อ 3 เป็นเรื่องท้ายๆ เพราะถ้าไม่มีสองข้อแรก ข้อ 3 ไม่มีความหมาย
แต่ข้อ 3 สำคัญที่สุด เมื่อคุณมีสองข้อแรกแล้ว .... สำคัญที่สุด...
เงิน ตอบโจทย์สองข้อแรกได้ และบางส่วนของข้อที่ 2 ได้ แต่ตอบข้อ 3 ไม่ได้..
ความผูกพันต้องสร้างเอง ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูก มีหนัก มีเบา มีสุข มีทุกข์มาด้วยกัน
หรือ จะผูกจะพันด้วยเงื่อนไขของเงิน ก็คงต้องมีเงินมากพอจนทำให้อยู่กันยาวจนเห็นน้ำใสใจจริงกัน
ผมมีลูกสองคน ในครอบครัวเรารักใคร่กันดี กำลังจะจบการศึกษา
ลูกสองคนมีแฟน และพูดคุยเรื่องสร้างครอบครัวกับแฟน คุยกันเรื่องมีลูก....
เพราะเขาเห็นความสำเร็จของสถาบันครอบครัว
ผมไม่เคยคิดจะให้ลูกมาเลี้ยงดู เพราะผมดูแลด้วยเองได้ เงินที่ผมมีเพียงพอให้เกษียณแบบสบายๆ
ผมบอกภรรยาว่าเราเลี้ยงลูกเหมือนนก พอปีกกล้า ขาแข็งบินออกไปได้ ก็ดีใจ ยิ่งแข็งแรงไปได้ไกลยิ่งดีใจ
เราไม่เลี้ยงลูกเหมือนหมา ที่จะต้องคอยมาอยู่ใกล้ คอยขออาหารกิน เพราะไปหากินเองไม่ได้ แบบนี้ไม่เอา
ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะไม่ให้ความสำคัญกับความผูกพัน ไม่ได้ต้องการให้ตัวเองมีสภาพแบบคุณป้า
แต่เชื่อว่าสิ่งที่ผ่านมา การเกื้อหนุนจนเจือที่มีให้กัน น้ำจิตน้ำใจที่มีให้กัน ลูกมองเห็น
รู้ได้จาการปฏิบัติ การพูดจา ไม่ต้องไปถามหาความกตัญญู เพราะเห็นอยู่ไม่ต้องทวงถาม ไม่จำเป็น...
ถ้านกที่บินออกไป กลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง พาไปเลี้ยงข้าวบ้าง และถ้าจะเป็นธุระในเรื่องต่างๆ ที่ทำไม่ไหวแล้วบ้าง
แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว หรือจะเอาหลานนกมาให้ช่วยเลี้ยงบ้างก็ยินดี และดีใจ
ชื่นใจเพราะ เห็นความผูกพัน และมั่นใจในความความผูกพัน โดยไม่ต้องถามหาความว่ากตัญญู
ผมมีอายุครึ่งร้อยแล้ว ให้ย้อนกลับได้ก็จะมีลูกเหมือนเดิม
ผมน่าจะเกษียณอย่างมีความสุข ทำงาน และได้ผลผลิตส่วนเกินพอที่จะเกษียณได้
และนอกจากนี้ พูดได้ว่าผมได้สร้างประชากรคุณภาพให้โลกใบนี้ดำเนินต่อไป ให้คนรุ่นใหม่เห็นชีวิตที่มีความสุขต่อๆ ไป
ถ้าจะตายก็ตายอย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ความสามารถจะทำได้แล้ว
สุดท้าย ถ้าคุณต้องการพิสูจน์รักที่เกิดจาการให้โดยไม่มีเงื่อนไข ผมเชิญพิสูจน์จากการมีลูกครับ
แสดงความคิดเห็น
ชีวิตคนที่ไม่มีลูกเป็นยังไงหรอคะตอนที่เราเเก่ตัวไป?
ขอเข้าประเด็นเลยนะคะ คือส่วนตัวเราไม่ค่อยอยากมีลูกค่ะ(ไม่ได้ฟันธงนะคะเเต่เเค่ส่วนใหญ่รู้สึกเเบบนั้นค่ะ) เรารู้สึกว่าการเกิดคือการเป็นทุกข์ค่ะ ชีวิตคนๆนึงมันต้องผ่านอะไรเยอะมากเเม้เเต่เรื่องที่เราไม่สามารถคาดถึงได้ค่ะ เเละอีกส่วนคือเราไม่อยากเเก่ตัวไปเป็นภาระให้เขาค่ะ เราเป็นคนที่ค่อนข้างทุ่มเทให้กับตัวเองมากค่ะ เรียกได้ว่ารักตัวเองมากค่ะ5555 เราอยากทุ่มเทช่วงที่ยังสดใสของเราไปกับการทำงานหาเงิน หาประสบการณ์ ไปท่องเที่ยว มีความรักดีๆเเละเราก็เเอบรู้สึกลึกๆว่าการมีลูกมันเสียสละอะไรเยอะอยู่ค่ะ ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งไม่ต้องพูดเลยค่ะทั้งร่างกาย สภาพจิตใจเเละหน้าที่การงานที่อาจไม่เหมือนเดิมค่ะ(ฟิวเเบบการมีลูกเป็นหินที่หนักอึ้งเลยค่ะเเบบนี้มันจะเรียกว่าคนเห็นเเก่ตัวมั้ยคะ5555) เเต่เคยได้ยินว่าเดี๋ยวพอโตมาเริ่มมีทุกอย่างมาเติมเต็มตัวเองจนพอใจเเล้วก็จะเริ่มเปลี่ยนใจเพื่อหาที่เติมเต็มใหม่ให้กับคนอื่นเเทน (ถือว่าเป็นประโยคที่น่าคิดเหมือนกันนะคะ) เเต่ที่บ้านก็จะมีประโยคนึงที่คุณเเม่พูดเเล้วติดอยู่ในใจเราค่ะนั่นคือประโยคนี้ "คนเราเกิดคนเดียว ตายคนเดียวนะ " ตอนฟังเรารู้สึกเหมือนเวิ้งไปเเว๊บนึงเลยค่ะ ต่อให้มีครอบครัวที่อบอุ่นเราก็ตายคนเดียวอยู่ดีนั่นก็จริงค่ะ เเต่ทีนี้พอมาคิดดูว่าถ้าใจเรามาทางนี้เเล้วก็อยากลองคิดต่อเล่นๆอีกหน่อยว่า ถ้าไม่มีลูกจะจัดการตัวเองตอนเเก่ยังไงดี ส่วนตัวตอนนี้คิดว่าการวางเเผนทางด้านการเงินสำคัญที่สุดค่ะ ถ้าวางเเผนดีๆอาจไม่ลำบากตอนเเก่ค่ะ เเล้วก็ทำพวกประกัน กองทุน อะไรเเบบนี้ค่ะเเต่ทางด้านความรู้สึกก็ตอบยากนะคะเเอบกลัวว่าตัวเองจะเหงาเหมือนกันค่ะเวลามองคนอื่นมีครอบครัวพาลูกไปเที่ยว ส่วนตัวเองนั่งอยู่กับเพื่อนหรือลูกเพื่อนเเทนค่ะ5555 เเต่ก็คิดได้ว่าเดี๋ยวพอโตขึ้นอาจจะได้เจออะไรมากกว่านี้อาจเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ(อาจปลงเเล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้นก็ได้ค่ะ555) ส่วนตอนนี้ก็อยากฝึกใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้เก่งค่ะ เรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวเป็น มีสังคมเเละเพื่อนดีๆ ก็จะถือว่าประสบความสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นเล็กๆค่ะ
อยากทราบว่าคนอื่นที่เลือกเส้นทางนี้วางเเผนเเบบไหนกันบ้างหรอคะตอนเเก่ตัวไป เเล้วรู้สึกว่าคิดถูกมั้ยคะที่เลือกทางนี้? ชีวิตที่ไม่มีภาระอะไรผูกพันมันเหงามั้ยคะหรือคิดว่ามีอิสระเต็มที่กับชีวิตดีหรอคะ?
มาเเชร์ประสบการณ์หรือให้คำเเนะนำก็ได้ค่ะ