หลังจากเริ่มรวบรวมเรื่องผีและลี้ลับในชีวิตผม ลองเรื่องแรกเลยละกัน

สวัสดีครับผมชื่อ บอม นะครับเป็นพนักงานออฟฟิศสายไอทีวัยกลางคน ผมเองชอบเรื่องผีเรื่องลี้ลับตั้งแต่เด็กละ ตั้งแต่ยังไม่มีรายการผีให้ฟังเหมือนเดี๋ยวนี้

ช่วงปี 2528 - 2545 ผมอาศัยอยู่บ้านนอกของเชียงใหม่ ห่างจากในเมืองไปประมาณ 100 กว่าโล ในช่วงนั้นแถวบ้านก็เรื่องลี้ลับเยอะมากครับโดยเฉพาะผมเองก็คลุกคลีกับทั้งครอบครัวและเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับอยู่บ้าง คนที่พาผมให้วงการผีก็คือเพื่อนผมคนนึง สมมติว่าชื่อ A นะครับ (จริงๆขออนุญาตมันแล้วแหล่ะแต่มันขอว่าอย่าใช้ชื่อจริง) แถวบ้านผมเมื่อก่อนจะเรียกมันว่า "ละอ่อนต๋าหมา" (เด็กตาหมา) ก็คือเด็กที่เห็นผีนั่นแหล่ะ เรื่องที่มาที่ไปเกี่ยวกับการเห็นผีของ A เดี๋ยวจะไปเล่าในเรื่องต่อๆไป

ผม และ A ใช้คำว่าถูกเลี้ยงมาด้วยกันเลย เพราะแม่ผมก็ต้องไปทำงานในเมือง ส่วนแม่ A ก็เสียไปตั้งแต่ A ยังไม่ถึงขวบ ทำให้พ่อของ A เวลาติดงานอะไรก็จะเอามาฝากให้ยายผมเลี้ยง เพราะว่ายายเป็นแม่ค้าทำงานแค่ช่วงเช้ามืด ทำให้มีเวลาเลี้ยงดูเด็กช่วงกลางวัน ครอบครัวผมและครอบครัว A สนิทกันนานแล้วครับ ผมก็โตมากับเด็กที่เห็นผี เรียนอยู่ด้วยกัน จนถึง ม.ต้น เลย ฉายาของ A ก็มาจากพฤติกรรมตอนเด็กของ A นี่แหล่ะ

ต้องเกริ่นก่อนว่าพ่อของ A และ ปู่ของ A เขาเป็นสัปเหร่อและหมอธรรมประจำตำบลครับ บ้านผมจะเรียก พ่อหนาน พ่ออุ้ยหนาน ก็จะต้องเดินทางไปทำงานกับวัดต่างๆ งานศพ งานบุญ งานแต่ง ขึ้นบ้านใหม่ ก็จะถูกเชิญไปเป็นนายพิธีตลอด รวมไปถึงนานๆทีก็จะมีการให้ช่วยไล่ผีแก้ของ แก้คุณไสยบ้าง ในช่วงที่ A เด็กๆ ซัก 3-4 ขวบก็มีบ่อยที่ A ก็จะต้องไปงานศพกับพ่อในระหว่างที่พ่อทำพิธีอยู่ ชาวบ้านก็มักจะเห็น A เดินไปคุยกับอากาศ เล่นคนเดียวบ้าง พอโตขึ้นมาหน่อยก็ชอบพูดว่าเห็นคนนั้นคนนี้ยืนอยู่ตรงจุดที่ไม่ควรอยู่ บนหลังคาบ้าง บนต้นไม้บ้าง หรือ แม้แต่ในสระน้ำ จนเหตุการณ์ที่เลื่องลือสุดคือ ช่วง A อยู่อนุบาล A ก็ได้ไปงานศพกับพ่อเหมือนเดิม เป็นงานของคนแก่ในหมู่บ้านชื่อว่า แม่อุ้ยทา ซึ่งเป็นญาติห่างๆของ A นั่นแหล่ะก็รู้จักกันดี ในงานชาวบ้านก็เห็น A นั่งคุยกับใครไม่รู้หน้าโลง ต่อมาก็วิ่งมาหาลูกสาวของ แม่อุ้ยทาแล้วบอกว่า "น้าๆ อุ้ยทาบอกว่าอยากกิ๋นน้ำพริกอ่อง" ตอนนั้นลูกสาวแม่อุ้ยทาก็ตกใจ แต่ก็พอรู้จากข่าวลือของ A มาบ้างแล้ว ด้วยความสงสัย น้าคนนี้ก็ถาม A ไปว่า "อุ้ยทาอยู่ตรงไหน" A ก็ตอบไปว่า "นั่งอยู่ในศาลา" ด้วยความที่น้าคนนี้ก็ไม่ได้กลัวก็เลยเดินจูงมือ A ไปนั่งที่ศาลาเพื่อหวังให้เป็นล่ามระหว่าง ผี กับ คน ลูกสาวแม่อุ้ยทาถามว่า "แม่อยากกินอะไรบ้าง" A เงียบไปซักพักก็ตอบมาว่า "อยากกินน้ำพริกอ่อง อยากกินลาบ อยากกินยำไก่" ซึ่งตรงกับอาหารที่แม่อุ้ยทาชอบกินตั้งแต่ก่อนตายจริงๆ ก็เลยถามไปอีกว่า "แม่ยังมีห่วงอะไรก็บอกลูกนะ" ก็คุยกันเป็นภาษาเหนือนะครับ ซักพัก A ก็ตอบมาว่า "อุ้ยทาไม่ได้ห่วงอะไร แค่อยากให้ดูแลสร้อยแหวนกับพระในหีบบนหัวเตียงให้ดีก็พอ" ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ไม่มีทางที่เด็กอนุบาลจะรู้แน่ๆ ฉายา เด็กตาหมา เลยติดตัว A มาตั้งแต่ตอนนั้น

แต่ก็มีเหตุการ์เหมือนกันที่ทำให้คนในงานแตกตื่นๆ วันนั้นต้องไปงานศพต่างหมู่บ้านแต่เป็นงานที่คนตายแขวนคอตายอยู่ต้นไม้ในบ้านตัวเอง พ่อ A เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็ต้องหอบลูกไปด้วยเหมือนเดิม ปกติเมื่อ A ไปถึงงานถ้าไม่ไปนั่งอยู่กับพ่อ ก็จะไปนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวที่มีคนรู้จักอยู่ ในวันนั้นมีคนจากหมู่บ้านเดียวกันมาพอดีเลยฝาก A นั่งอยู่ตรงโต๊ะ ซึ่งดันตั้งอยู่ใกล้ๆกับจุดที่คนตายแขวนคอพอดี ก็เห็น A ไปยืนดู ไปกระโดดเล่นโหยงๆอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น คนแถวนั้นก็เห็นและสงสัยนะครับว่าเด็กคนนี้ไปเล่นอะไรแถวนั้นไม่กลัวเลยเหรอ ก็เลยมีคนเข้าไปถาม "น้องมาเล่นอะไรแถวนี้" ชาวบ้านเจ้าถิ่นเขารู้อยู่แล้วว่าตรงนี้เกิดอะไรขึ้น A ก็ตอบไปแบบใสๆว่า "อยากเล่นทาร์ซาน พี่คนนี้เขาโหนทาร์ซาน" แล้วชี้ขึ้นไปยังกิ่งไม้ที่เกิดเหตุ พอได้ยินแบบนั้นชาวบ้านที่นั่งใกล้ๆก็ลุกหนีแตกฮือเลย จนพ่อ A ต้องมาดุ A เพราะทำคนแตกตื่นก็โดนสั่งให้นั่งนิ่งๆ แต่ด้วยความที่เด็กมากเลยคุมอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่

จนกระทั่ง A ขึ้น ป.1 - ป.2 พอรู้ความขึ้นมาบ้างแล้ว พ่อ A และ ปู่ A ก็สอน A ให้แยกแยะระหว่างผีกับคนออกจากกันเพื่อให้เวลาไปงานต่างๆจะได้ไม่ต้องไปทักมั่วซั่วทำคนตื่นตระหนก เช่น ถ้าเจอคนอยู่ในสถานที่แปลกๆหรือมีความรู้สึกว่าคนนี้ลักษณะแตกต่างจากคนทั่วไป ก็อย่าไปทัก โดยเฉพาะเวลาไปงานศพก็ให้ A เดินไปดูรูปหน้าศพก่อนเลยอันดับแรก หากเจอใครหน้าเหมือนในรูปก็อย่าไปคุย นานๆไป A ก็เริ่มชินกับการเห็นผีและแยกแยะ เท่าที่รู้จักมันมาเวลามันเห็นอะไรมันจะไม่บอกเพื่อนนะครับจนกว่าเพื่อนจะถาม และ มันเป็นคนตกใจยากมากเวลาแกล้งผีหลอก หรือ แฮร่!! ใส่กันมันก็จะนิ่งๆ จนกระทั่งที่เหตุการณ์นึงที่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มีประสบการณ์ร่วมกับมันครั้งแรก จะเป็นช่วงที่พวกผมอายุประมาณ 10 - 11 ขวบ ...... (ต่อด้านล่างนะครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่