สัปดาห์นี้จะมีการพบกันระหว่างสองทีมที่มีสไตล์การเล่นที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในการแข่งพรีเมียร์ลีก MD28, จะเป็น fast and direct ของ NottinghamForest ที่จะมีชัย หรือจะเป็น slow and intricate ของ ManCity ที่จะเก็บแต้มเพื่อรักษาพื้นที่ยุโรปต่อไป?
พอมองไปที่การแข่งของค่ำวันนี้ที่ City Ground แล้ว แน่นอนเลยว่าด้วยอันดับที่ติดกัน ชนะในลีกเท่ากัน เก็บคะแนนได้ไล่เลี่ยกัน แต่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน การพบกันครั้งนี้ของ NottinghamForest กับ ManCity จึงน่าสนใจเป็นพิเศษ
หลายฤดูกาลที่ผ่านมา ManCity ของ Pep Guardiola เน้นหนักไปทางการครองบอล ค่อยๆสร้างเกม ด้วยสไตล์ที่ซับซ้อน จนกลายมาเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสดแห่งเกาะอังกฤษได้ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน, เพียงแต่ว่าในฤดูกาลปัจจุบัน 2024/25 วิธีการที่เคยใช้จนประสบความสำเร็จ "มันใช้ไม่ได้" ManCity ตามหลังผู้นำหงส์แดงอยู่ถึง 20 แต้ม โดยมีเกมเหลือแค่ 11 เกม
Cr. OptaAnalyst
9 ฤดูกาลที่ผ่านมา ManCity จะอยู่บนสุดของอันดับการครองบอล (60.6%) การส่งบอลสำเร็จต่อเกม(540) ซึ่งก็คืช่วงเวลาที่ Pep มาคุมนี่แหละ ที่นี้พอมามองย้อนไปถึง Munich กับ Barcelona 17 ฤดูกาลในการคุมทีมของ Pep สถิติสองอย่างในข้างต้นก็จะพุ่งสูงไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด และนำมาซึ่งความสำเร็จให้กับ Pep อยู่เสมอ
ยกเว้นฤดูกาลนี้
และหนึ่งในทีมที่กล้าที่จะแตกต่างในยุคที่ slow & intricate ของ ManCity ประสบความสำเร็จ ก็คือทีมที่อยู่อันดับเหนือกว่าในตารางพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน โดยที่มีขนาดทีมไม่ได้ต่างจากชุดแชมป์ของจิ้งจอกสยามในปี 2015/16, ถ้า NottinghamForest ได้สิทธิไป UCL จริงๆ แม้จะไม่ถึงแชมป์แต่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องเซอร์ไพรส์ที่สุดในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เหตุการณ์ของจิ้งจอกสยาม
ดูจากสไตล์การเล่นแล้ว NottinghamForest ก็ไม่ได้ต่างจากยุคที่จิ้งจอกประสบความสำเร็จมากนัก
Cr. OptaAnalyst
Forest คือที่สุดของ fast & direct ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลนี้, โดยมีค่าเฉลี่ยขณะ open-play อยู่ที่ 2.08 เมตร ต่อวินาที และยังมีค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งการส่งที่น้อยที่สุด (2.8)ในลีกด้วย
พวกเขามีสถิติการครองบอลที่ต่ำที่สุด (39.7%) และจ่ายบอลสำเร็จเพียง 263.5 ครั้งต่อเกม ซึ่งน้อยกว่าครึ่งของ ManCity (540.3)
ตอน Leicester คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พวกเขามีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลสำเร็จต่ำที่สุด (248.1) แถมยังนำในตาราง speed direct (2.26 เมตรต่อวินาที) และยังมีค่าเฉลี่ย open-play ที่ใช้จำนวนครั้งในการส่งน้อยที่สุดด้วย (2.4)
Open-play ของ ManCity มีค่าเฉลี่ยอยู่รั้งท้ายของพรีเมียร์ลีกที่ 15.7 วินาทีต่อ 1 open-play ส่วน NottinghamForest มีค่าเฉลี่ยเพียง 7.4 วินาที ต่ำกว่า ManCity ครึ่งนึง และต่ำที่สุดในลีก
Cr. OptaAnalyst
การแพ็คเกมรับแน่นๆก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ NottinghamForest เป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในลีก ด้วยการทำให้คู่แข่งเล่นยาก และสร้างไดเแต่โอกาสคุณภาพต่ำๆ
มีเพียงสามทีมที่เสียประตูน้อยกว่า และมีเพียง Liverpool ที่เก็บ cleansheet ได้มากกว่า
Cr. OptaAnalyst
อีกสถิตินึงที่ 2 ทีมนี้ต่างกันคนละขั้ว คือ การเพรสซิ่งแดนบน ที่ดูเหมือน NottinghamForest จะไม่สนใจจะทำเท่าไหร่(18.9%) ต่างจาก ManCity ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในลีก(38.3%)
แม้ครั้งล่าสุดที่คู่นี้เจอกัน จะจบด้วยชัยชนะของ ManCity แต่ครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายแบบเดิม เมื่อ Forest ได้เล่นในบ้านพวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 9 นัด (6w 3d), ทีมของ Nuno เก็บได้ถึง 23 แต้ม จาก 10 นัดล่าสุดที่ได้เล่นในบ้าน เป็นรองเพียง Liverpool ที่เก็บได้ถึง 26 แต้ม
ด้วยความที่เป็นยอดทีมในสไตล์ครองบอลแบบหนักๆ ของ ManCity บางที Forest อาจจะทำลายสถิติของตัวเองได้ในนัดนี้
ตอนที่ Forest ปราบ Arsenal 1-0 เมื่อเดือนพฤษภา 23, Forest มีค่าเฉลี่ยการครองบอลอยู่ที่ 18.3% จ่ายบอลสำเร็จเพียง 80 ครั้ง ตลอดทั้งเกม, ทั้งสองสถิติเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดในการแข่งพรีเมียร์ลีก (2003/04)
จากข้อมูลทั้งหมดก็จะเห็นได้ว่า NottinghamForest กำลังเอาตัวรอดในลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ 1998/99, แถมยังใกล้จะคว้าสิทธิไปเล่นบอลยุโรปเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1995 อีกก้าวนึงด้วย
ชนะนัดนี้ให้ดูหน่อยนะ
Cr. OptaAnalyst
ขอบคุณบทความจาก theanalyst.com ด้วยนะครับ
Nottingham Forest × Man City >> กับบทพิสูจน์ว่าไม่ได้มีแค่วิธีเดียวที่จะชนะเกมฟุตบอล >> Premier League 🏴
พอมองไปที่การแข่งของค่ำวันนี้ที่ City Ground แล้ว แน่นอนเลยว่าด้วยอันดับที่ติดกัน ชนะในลีกเท่ากัน เก็บคะแนนได้ไล่เลี่ยกัน แต่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน การพบกันครั้งนี้ของ NottinghamForest กับ ManCity จึงน่าสนใจเป็นพิเศษ
หลายฤดูกาลที่ผ่านมา ManCity ของ Pep Guardiola เน้นหนักไปทางการครองบอล ค่อยๆสร้างเกม ด้วยสไตล์ที่ซับซ้อน จนกลายมาเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสดแห่งเกาะอังกฤษได้ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน, เพียงแต่ว่าในฤดูกาลปัจจุบัน 2024/25 วิธีการที่เคยใช้จนประสบความสำเร็จ "มันใช้ไม่ได้" ManCity ตามหลังผู้นำหงส์แดงอยู่ถึง 20 แต้ม โดยมีเกมเหลือแค่ 11 เกม
Cr. OptaAnalyst
9 ฤดูกาลที่ผ่านมา ManCity จะอยู่บนสุดของอันดับการครองบอล (60.6%) การส่งบอลสำเร็จต่อเกม(540) ซึ่งก็คืช่วงเวลาที่ Pep มาคุมนี่แหละ ที่นี้พอมามองย้อนไปถึง Munich กับ Barcelona 17 ฤดูกาลในการคุมทีมของ Pep สถิติสองอย่างในข้างต้นก็จะพุ่งสูงไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด และนำมาซึ่งความสำเร็จให้กับ Pep อยู่เสมอ
ยกเว้นฤดูกาลนี้
และหนึ่งในทีมที่กล้าที่จะแตกต่างในยุคที่ slow & intricate ของ ManCity ประสบความสำเร็จ ก็คือทีมที่อยู่อันดับเหนือกว่าในตารางพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน โดยที่มีขนาดทีมไม่ได้ต่างจากชุดแชมป์ของจิ้งจอกสยามในปี 2015/16, ถ้า NottinghamForest ได้สิทธิไป UCL จริงๆ แม้จะไม่ถึงแชมป์แต่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องเซอร์ไพรส์ที่สุดในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เหตุการณ์ของจิ้งจอกสยาม
ดูจากสไตล์การเล่นแล้ว NottinghamForest ก็ไม่ได้ต่างจากยุคที่จิ้งจอกประสบความสำเร็จมากนัก
Cr. OptaAnalyst
Forest คือที่สุดของ fast & direct ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลนี้, โดยมีค่าเฉลี่ยขณะ open-play อยู่ที่ 2.08 เมตร ต่อวินาที และยังมีค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งการส่งที่น้อยที่สุด (2.8)ในลีกด้วย
พวกเขามีสถิติการครองบอลที่ต่ำที่สุด (39.7%) และจ่ายบอลสำเร็จเพียง 263.5 ครั้งต่อเกม ซึ่งน้อยกว่าครึ่งของ ManCity (540.3)
ตอน Leicester คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พวกเขามีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลสำเร็จต่ำที่สุด (248.1) แถมยังนำในตาราง speed direct (2.26 เมตรต่อวินาที) และยังมีค่าเฉลี่ย open-play ที่ใช้จำนวนครั้งในการส่งน้อยที่สุดด้วย (2.4)
Open-play ของ ManCity มีค่าเฉลี่ยอยู่รั้งท้ายของพรีเมียร์ลีกที่ 15.7 วินาทีต่อ 1 open-play ส่วน NottinghamForest มีค่าเฉลี่ยเพียง 7.4 วินาที ต่ำกว่า ManCity ครึ่งนึง และต่ำที่สุดในลีก
Cr. OptaAnalyst
การแพ็คเกมรับแน่นๆก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ NottinghamForest เป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในลีก ด้วยการทำให้คู่แข่งเล่นยาก และสร้างไดเแต่โอกาสคุณภาพต่ำๆ
มีเพียงสามทีมที่เสียประตูน้อยกว่า และมีเพียง Liverpool ที่เก็บ cleansheet ได้มากกว่า
Cr. OptaAnalyst
อีกสถิตินึงที่ 2 ทีมนี้ต่างกันคนละขั้ว คือ การเพรสซิ่งแดนบน ที่ดูเหมือน NottinghamForest จะไม่สนใจจะทำเท่าไหร่(18.9%) ต่างจาก ManCity ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในลีก(38.3%)
แม้ครั้งล่าสุดที่คู่นี้เจอกัน จะจบด้วยชัยชนะของ ManCity แต่ครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายแบบเดิม เมื่อ Forest ได้เล่นในบ้านพวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 9 นัด (6w 3d), ทีมของ Nuno เก็บได้ถึง 23 แต้ม จาก 10 นัดล่าสุดที่ได้เล่นในบ้าน เป็นรองเพียง Liverpool ที่เก็บได้ถึง 26 แต้ม
ด้วยความที่เป็นยอดทีมในสไตล์ครองบอลแบบหนักๆ ของ ManCity บางที Forest อาจจะทำลายสถิติของตัวเองได้ในนัดนี้
ตอนที่ Forest ปราบ Arsenal 1-0 เมื่อเดือนพฤษภา 23, Forest มีค่าเฉลี่ยการครองบอลอยู่ที่ 18.3% จ่ายบอลสำเร็จเพียง 80 ครั้ง ตลอดทั้งเกม, ทั้งสองสถิติเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดในการแข่งพรีเมียร์ลีก (2003/04)
จากข้อมูลทั้งหมดก็จะเห็นได้ว่า NottinghamForest กำลังเอาตัวรอดในลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ 1998/99, แถมยังใกล้จะคว้าสิทธิไปเล่นบอลยุโรปเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1995 อีกก้าวนึงด้วย
ชนะนัดนี้ให้ดูหน่อยนะ
Cr. OptaAnalyst
ขอบคุณบทความจาก theanalyst.com ด้วยนะครับ