ตำนานผีปอบ EP 2 - วิญญาณที่หิวโหยใต้คำสาป

คืนฝนกระหน่ำ ซอยแคบ ๆ เงียบสงัด แสงฟ้าผ่าสว่างวาบ—สองร่างใต้ต้นไม้เก่า พระชุดเหลืองขาดวิ่นอุ้มหมาเหี่ยวแห้ง แม่ชีกอดแมวตาเดียว กลิ่นเน่าคละลอยไปทั่ว คืนนั้น หมาหอนทั้งซอย พอเช้ามา ถนนเปื้อนเลือด ศพสัตว์เกลื่อน อวัยวะในหายเหมือนถูกรื้อกิน ชาวบ้านหวาดกลัว—สองร่างนั้นไม่ใช่คน แต่เป็นปอบจากเงามืด นี่เป็นเรื่องที่ร่ำลือกันในย่านบางบอน-บางแค กรุงเทพฯ ในเดือนสิงหาคม 2545 ครับ
 
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ยินดีต้อนรับสู่ช่อง ก่อนตีสาม ที่จะพาเพื่อน ๆ ดำดิ่งไปสู่ที่สุดแห่งความน่ากลัวของผีปอบ จนรู้สึกว่าเรื่องใน EP 1 เป็นนิทานก่อนนอนไปเลย
 
ส่วนตัวผมเชื่อว่า ถ้าอยากรอดจากปอบ เราต้องรู้จักมันให้ดีก่อนครับ
ผีอย่างปอบไม่เหมือนผีอื่น มันไม่มีร่างกาย มันเป็นเหมือนวิญญาณที่ต้องอาศัยร่างมนุษย์ มันมักเลือกคนที่มี ‘วิบากกรรม’ เพื่อเข้าสิงร่าง เช่น เคยนับถือผีหรือฆ่าสัตว์เซ่นไหว้ พอสิงแล้ว ปอบจะใช้ร่างนั้นกินอาหาร โดยเฉพาะ ตับ ไต ไส้พุงแบบดิบ ๆ คนที่ถูกสิงอาจดุร้าย ชักกระตุก หรือเรียกหาของสดกินตะกละตะกลาม จนชาวบ้านสงสัยว่า ‘ผีเข้า’ แต่แค่นี้คงไม่พิเศษเท่าไหร่หรอกครับ
 
เพราะนอกจากเราต้องระแวงคนแล้ว ในภาคเหนือและอีสานเชื่อกันว่า ปอบสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ เช่น แมวดำ หมาดำ หรือนก เพื่อออกหากินหรือหลอกล่อเหยื่อ บางตำนานบอกว่าหมาดำเป็น "สัตว์เลี้ยง" ของปอบที่ออกล่าแทนเจ้าของ ถ้าสัตว์กินอิ่ม ปอบก็อิ่มไปด้วย ในภาคเหนือมีเรื่อง "ปอบหมาดำ" ด้วยนะครับ ชาวบ้านกลัวหมาใหญ่สีดำที่มีตาแดง เพราะเชื่อว่าเป็นร่างแปลงของปอบ อือ…ผมเริ่มระแวงแมวแถวบ้านแล้วครับ
 
ถ้าที่ไหนมีปอบ เป็ดไก่จะนอนผวาทั้งคืน เพราะปอบชอบไปขโมยกินพวกมันในเล้า กินแบบดิบ ๆ นี่แหละครับ 


 
อย่างที่ผมเล่าไว้ใน EP 1 ปอบมักเกิดจากคนที่เล่นมนต์ดำ เมื่อสิ้นลมแล้ววิญญาณผูกติดพลังนั้น แต่ก็มี ‘ปอบเชื้อ’ เป็นปอบอีกประเภทหนึ่งที่สืบทอดในบ้านกันมารุ่นต่อรุ่น

บางตำนานเล่าขานของชุมชนอีสาน โดยเฉพาะแถบนครพนมและลาวใต้ ปอบเชื้อไม่เพียงแค่สืบทอดผ่านสายเลือดด้วยน้ำลายหรือกรรมเท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็น "พันธะแห่งความมืด" ที่ครอบครัวต้องแบกรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าปอบเชื้อถูก "เลี้ยง" ไว้นานเกินไป โดยให้มันกินเครื่องในหรือดูดพลังชีวิตจากคนในตระกูล มันจะเริ่มฉลาดและร้ายกาจขึ้นเรื่อย ๆ
 
บางครอบครัวเล่าต่อกันมาว่าได้ยินเสียงกระซิบตอนดึก หรือเห็นเงาคล้ายคนยืนนิ่งในบ้านโดยไม่มีที่มา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปอบเชื้อกำลังเลือกร่างใหม่ และถ้าผู้ใดในตระกูลพยายามขัดขวางหรือหนีจากพันธะนี้ อาจถึงคราวเคราะห์ของผู้นั้น บางครอบครัวถึงขั้นต้องฝังศพใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อหวังขังปอบไว้ไม่ให้ออกอาละวาด แต่ถึงอย่างนั้น ชาวบ้านก็ยังเล่าว่าได้ยินเสียงร้องโหยหวนทุกคืนครับ

ปอบต้องหาร่างใหม่เสมอ เมื่อร่างเก่าถูกกินจนหมดหรือเสื่อมสภาพ ปอบต้องสืบทอดตัวเองผ่านการย้ายไปสิงร่างใหม่ ไม่ว่าจะด้วยน้ำลาย กรรม หรือมนต์ดำ เพื่อสนองความหิวโหยต่อไป ความเชื่อนี้พบได้ทั้งในไทยและลาวครับ


 
เรื่องชวนขนลุกของปอบจากเรื่องเล่าที่บันทึกไว้มีมากมายครับ แต่เรื่องนี้ผมยกให้โหดร้ายจนขนลุก คือปอบที่ทำร้ายลูกในท้องตัวเอง มาจากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ถ่ายทอดผ่านลูกหลาน บันทึกในหนังสือ ‘ผีอีสาน’ และเคยถูกพูดถึงในรายการ ‘คนอวดผี’ ด้วยครับ
 
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอกันทรวิชัย เมื่อราว 50-60 ปีที่แล้ว มีหญิงตั้งครรภ์ชื่อ "นางบุญมี" ซึ่งชาวบ้านสงสัยว่าเป็นปอบ เพราะเธอมักออกไปเดินตอนกลางคืนและมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น พูดคนเดียวและหัวเราะเบา ๆ โดยไม่มีสาเหตุ คืนหนึ่ง นางบุญมีกรีดร้องออกจากบ้านด้วยความเจ็บปวด ชาวบ้านไปดูพบว่านางนอนจมกองเลือด ท้องของเธอถูกฉีกขาดจากข้างใน และทารกในครรภ์หายไป เหลือเพียงรอยเลือดและเครื่องในกระจัดกระจาย
 
หลังจากนางบุญมีจากไป และชาวบ้านเริ่มได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ตอนกลางคืนดังมาจากบ้านร้างของเธอ บางคนที่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ เห็นเงาผู้หญิงผมยาวยืนก้มหน้ากับพื้น คล้ายกำลังกินอะไรอยู่ เมื่อเข้าไปใกล้ เงานั้นหันมามองด้วยตาแดงก่ำแล้วหายไปทันที ต่อมา มีคนในหมู่บ้านป่วยหนักและจากไปเพิ่มขึ้นอีก 5 คน สภาพร่างกายมีรอยข่วนและรอยกัดที่ท้อง พระเกจิจากวัดใกล้เคียง (บางคนเชื่อว่าเป็น "หลวงพ่อจันทร์ วัดศรีสะอาด") ถูกนิมนต์มาทำพิธีเผาศพนางบุญมีซ้ำ และตั้งศาลเล็ก ๆ เพื่อขังวิญญาณ ระหว่างพิธี มีควันดำพุ่งออกจากกองไฟ และได้ยินเสียงกรีดร้องเหมือนผู้หญิงผสมกับเด็กร้องไห้ หลังจากนั้น เหตุการณ์สงบลง แต่บ้านของนางบุญมีถูกทิ้งร้าง และชาวบ้านบางส่วนย้ายออกจากหมู่บ้านเพราะหวาดกลัว ผมให้นางบุญมีเป็น 1 ในปอบที่น่ากลัวที่สุด เพราะไม่เพียงกินลูกตัวเอง แต่ยังตามล่าคนอื่นในหมู่บ้าน คิดเหมือนกันไหมครับ
 
และไม่ใช่แค่ในไทย ที่ลาวก็มีปอบคล้ายกัน นางอาร์ฟ หญิงที่ฉีกท้องตัวเองกินลูกในครรภ์ หลังจากนั้น กลายเป็นปอบที่ออกล่าเด็กในหมู่บ้าน ชาวบ้านเล่าว่าเธอชอบปรากฏเป็นเงาร้องไห้ตามลำธาร พรากเด็กไปนับสิบคน 
 
ทั้ง 2 เรื่องที่เล่ามาจะไปคล้ายกับสิ่งหนึ่งที่เหนือกว่าปอบทั่วไป มันคือห่าก้อม ที่ลงมือกับ 10 คนภายใน 7 วัน ได้ยินแล้วขนของผมก็ตั้งชันเกิน 90 องศาเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่