ประสบการณ์ เคยเป็นวัยรุ่นมา ต้องพึงตัวเองเเค่ไหน

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้โพล
สวัสดีค่ะ เราชื่อพัดน่ะ ตอนนี้อายุจะ 30ปีเเล้วเนอะ คนที่มองมาเข้ามาส่วนใหญ่มองเราเป็นเเค่วัยรุ่นใจเเตกคนหนึ่งที่เราลูกมาให้เเม่เลี้ยง
ไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกที่เกิด เเต่พวกคุณจะรู้ไหมว่า เราต้องเเลกอะไรมาหลายกว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ จนมาถึงทุกวัน..
.......----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ครอบครัวเราจะเป็นครอบครัวที่พออยุ่พอกินปไปวัน มีใช้มีกินไม่ลำบาก  เเต่ช่วยที่เราเรียนเราอยากได้อะไรเราต้องเก็บเงินซื้อเองหรือไม่
งั้นต้องยืมตังปู่ย่าเอาไปซื้อของก่อนเเล้วค่อย ทยอยให้ตอนมีมีงานทำเเล้วเราถูกปลูกฝังให้หาเงินใช้เอง จะได้รู้ค่าของเงิน เราหาเงินเองตั้งเเต่ประถมศึกษาปี6 ช่วงนั้นปิดเทอมใหญ่ ปู่เอาถุงมือเเละด้ายเย็นผ้ามาจากโรงงานเข้าไม่ได้ใช้เเล้วเอามาเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะขายได้
เเต่ติดอย่างเดียวเข้าห้ามจำหน่ายเราเลยเเอบเอามาขายให้ร้านวัสดุก่อสร้างวันละมัด ตอนนั้นจำได้ของมันเเพง มัดละ150บาท เรามีตังกินเเละใส่ออมสินทุกวันเราทำเเบบนี้ทุกวันจนปู่จับได้ ปู่ถามว่า  " อย่าเอาไปขายให้ได้มากกว่านี้ไหม" ส่วนนั้นเริ่มมีลูกค้าประจำเเล้วเราก็เหลือตอบหู่ไปว่าอยากขายให้ได้มากกว่านี้เพื่อจะมีเงินไว้เรียนต่อมหาลัยเเละซื้อของที่อยากได้.... ปู่ก็เริ่มเอาถุงมือมาให้ประมาณ10มัด เราขายเเบบส่งกับเเบบปลีกช่วงนั้นมีคนงานรับเหมาก่อสร้าง มาสร้างเเถวที่เราอยู่ เราเดินไปถามเขาว่า อย่างได้ถุงมือหนาๆ ไว้ใส่ทำงานไหม หนุขายคู่ละสิบห้าบาทเองถ้าสนใจเเบบปลีกน่ะ ถ้าจะยกโหลหนูขาย150บาท  เเละหนูก้มีด้ายดำอย่างดีมาขายด้วยหลอดละ10บาทเเต่ด้ายมีน้อยเพราะขายให้โรงงานเเถวบ้านไปหมดเเล้ว จำได้คราววันนั้นกำเงินมาให้ครอบครัวประมาณ3000ได้ เพราะรวมขายด้ายเเละถุงมือ เราเอาให้ปุ่ประมาณ2000บาท
เราเอาใส่ออมสินประมาณ500บาท เเละเก็บไว้กินตลอดอาทิตย์  เรามาเเบบนี้มาเรื่อยจนจบป.6
จบขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ เราเริ่มรับจบเป็นเด็กล้างชามตอนกลางคืน เข้างาน17.00น. เริ่มเที่ยงคืน เราจำได้คราวว่าเป็นร้านข้าวต้มกุยที่มาเปิดเเถวบ้านเราได้วันละ150บาท เราเอากินโรงเรียนวันละ 50บาท เเละที่เหลือเราเก็บใส่ออมสินทุกวัน เเละ เราทำงานที่นั้นได้เเค่ปีเดียวๆๆ  เพราะเจ้าของร้านปิดร้านไปอยู่กับสามีต่างชาติ เราได้งานใหม่รับจ้างส่งหนังสือตอนตี04.30-06.00น เราทำทุกวันจนเราจบม.2เทอม2 เเละปิดเทอมใหญ่ เราก็ทำงานกับเจ้ทุกวัน ได้ประมาณ120บาท เจ้ค่อยซื้อนมเปรี้ยวเเละขนมปังมาให้เรื่อย เราก็เก็บไว้ให้น้องกินบางตัวเองกินบาง จนช่วยม.2.. เริ่มมีรายงานตามวิชาต่างๆ เเละโครงงานวิทยาศาสตร์ ช่วยนั้นเราไม่สามารถงานกลุ่มกับใครได้เลย เราต้องหาข้อมูลคนเดียวที่พึ่งเดียวขอเราคืนร้านคอมพิวเตอร์ เเละค่อยสอบถามอาจราย์ตามหลายวิชาต่างเพื่อหาข้อมูลๆๆ เเละทำงานรายงานมาส่งให้ได้คะเเนนเเต่ละวิชา เราตื่นมาทำงานจนเปิดเทอมม.3 เจ้เจอพิษเศษฐกิจเล่นงานเลยอยู่ไม่ไหว เราไม่มีตังเราต้องเตรียมตัวหางานใหม่ที่ไม่กระทบการเรียนหนังสือตอนเช้า
เราตามหางานได้สักพักนึง เราได้ไกลบ้านมาหน่อยเป็นร้านอาหารตามสั่งค้าต่อ 11.00โมง-21.00น เราเดินเข้าไปถามเจ้รับพนักงานไหม
เจ้ถามยังเรียนอยู่เหรอ เเล้วที่บ้านไม่ให้ตังไปกินโรงเรียนเหรอ ถึงต้องหาเงินเสริมทำ ให้ค่ะ เเต่ค่าใช้จ่ายม.3มันเยอะ เลยอยากเเบ่งเบาภาระที่บ้านบาง งั้น
เจ้รับให้มาทำงานด้วย เเต่งานที่นี้เหนื่อยหน่อยน่ะ วันละ250บาท ข้าวกินฟรี หรือจะหอบกับบ้านก็ได้ ถ้าอยากเอาเก็บๆ ไปให้คนที่บ้านกิน
พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลย เลิกเรียนเเล้วก็มาทำน่ะ จ่ายให้ทุกวัน หรือจะเอารายอาทิตย์ เเล้วเเต่เรา จ่ายทุกวันจ้า...
เราไหว้เจ้ เราก็เดินกลับบ้านมาอาบน้ำ ทำการบ้าน หยอดออมสิน  เเละก็อาบบน้ำนอนอีกรอบ เราเตรียมออกมาโรงเรียนพอเลิกเรียน
เราก็มารีบมาทำงาน เจ้ให้เรามาเสริฟอาหารให้ลูกค้า เเละเก็บจานไปล้างที่ครัวเราเอาเศษอาหารทิ้งขยันก่อนเอาจานไปล้านให้สะอาด เเละพักให้น้ำเเห้ง เตรียมเช็คจานเเละช้อนให้เเห้ง เราก็เอาจานออกไปใส่อาหารไปเสริฟลูกเหมือนเดิม จนเลิกงานเราก็รับเค่าเเรงวันนี้มา
วันละ250บาทเราเอาใส่ออมสิน150บาท ที่เหลือเราเก็บไว้ใช้ เราทำเเบบนี้ทุกวันเราไปทำงานทุกวัน จนเจ้ถามเราว่าไม่เหนื่อยเหรอ กว่าจะกลับถึงเเถมไม่มีเวลาเล่นเหมือนเด็กคนอื่น 
เราบอก อยากมี่เหมือนคนอื่นต้องลำบากหน่อย อยากได้เพราะพ่อไม่ได้มีให้ทุกอย่าง  หนูต้องทำเองหมด เพื่อให้ตัวเองมีเหมือนเขาเเละไม่เดือดร้อนปู่ย่า พ่อ เพราะน้องชายเราก็เรียนเหมือนกัน เเละอายุห่างกันเเค่3ปี เอง เราทำงานร้านนี้จนเจ้ประคองค่าใช้จ่ายไม่ไหวก็หยุดขายไปป
ประจวบเราเรียนจบม.3เเล้วกำลังจะขึ้นเรียนปวช ที่วิทยาลัยเเถวบ้าน เเต่เรามาทะเลาะกับปู่เสียก่อน ปู่อยากให้เราเรียนพาณิชย์เรียนบัญชีเพราะหางานง่ายเเต่เรารู้ตัวเองงหัวเราเรียนไม่ไป ...จนเราตัดสินใจจะหางานกลางคืนทำเพราะมัรุ่นพี่เเถวบ้านทำอยู่ก่อนจะสมัครเรียนต่อ
เราเรียนในกทม เข้าไปดูงานในวิทยาลัย เราเห็นแผนกช่างยนต์โอเคร เราตัดสินใจสมัครเรียน5คน ที่เจอกันในไฮ5  เเต่ละคนอยู่ต่างจังหวัดทุกคน เราคุยในออนไลน์มใาเกือบปี ในสถานะเพื่อน จนกลายเป็นเพื่อนสนืมากกว่าเพื่อนเรียนที่โรงเรียนเดียว เราตัดสินทำงานเป็นเด็กเสริฟกลางคืนเพราะได้ติปเยอะ จนพี่เจ้าของร้านเป็นศิษย์เก่าวิทยาลัยที่เราเรียน เขาเดินมาถามเราว่าสนใจเป็นนักดนตรีประจำร้านไหม เราบอกเราเล่นดนตรีไม่เป็นอะ  พี่เขาอาสาสอนให้ สอนให้ทุกคน เพราะค่าจ่ายนักดนตรีมันเยอะกว่าเด็กเสริฟ เราบอกว่า เราขอเสริฟเเละดนตรีด้วยได้ไหม
เพราะที่บ้านไม่ได้ส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ เพราะต้องส่งตัวเองเรียนบาง พี่เขาบอกก่อนจะเล่นดนตรี ก็มาช่วยเเสริฟอาหารข้างล่าง พอขึ้นเล่นดนตรี
ก็ขึ้นเล่น พวกเราทั้งหมดทำเเบบนี้จนเปิดเทอม  เราเอาจ่ายค่าเทอมทั้งสองในปีหนึ่ง เเละเช่าห้องอยู่ เราเก็บเงิน ต่อเรื่อยจนวันหนึ่งเราอยากได้มือถือใหม่ตอนนั้นราคา 6000บาท จำได้ว่าของออปโป้ เราซื้อมือสองเอาไว้ใช้ติดต่องานเเละไว้คุยงานกับเพื่อน เรายังทำงานที่เดิมลูกค้าเยอะขึ้นทุกปี เราได้ติปมากันเยอะเราห่างเท่ากัน เพื่อนเราใช้กินใช้เที่ยว ส่วนเราต้องเก็ไว้จ่ายของปวชปี2 เราเเเยกออมสินไว้สามส่วน อันหนึ่งค่าห้องน้ำไห ค่าเทอม  ค่าของที่อยากได้  ถ้าไม่มีของที่อยากได้จริง เก็บไว้เเบบนั้นจนถึงปีเพราะหาเงินได้ทุกวัน ค่าจ่ายประจำวัน เเค่ค่ากินข้าว
วันละ100บาท เเถมเหลืออีก40บาท เหลือก็เฉลี่ยใส่ออมสินเท่าๆกัน  เราทำงานทุกวันไม่มัวันหยุด เพื่อนเราก้ทำด้วย บางคนก็มีเงินเก็บน่ะ 
บางคนก็ไม่มี เราใช้ชีวิตเเบบไปเรื่อยจนเรียนจบปวชปี3 เราได้ทุนนักดนตรีกับนักกีฬา เราไม่ต้องเสียค่าเทอมค่าห้องพัก พวกเราเลือกที่ไปเรียรนต่อ ที่วิทยาลัยหนึ่งย่ายฝั่งธน ในสาขายนต์กรรมเหมือนเดิม เรียนอีกสองปีคงจบ ช่วงเเรกลำบากหน่อยเพราะต้องหาที่ทำงานใหม่ เพื่อเก็บตังไว้ใ้จ่าบในชีวิตประจำวัน เราได้ทุนก็จริงเดือนละ5000บาท ซึ่งมันไม่พอใช้จ่ายหลอกเราต้องรีบหางาน ต่อ เราตัดสินใจเป็นงานกลางคืน เพราะตอนเช้าจะได้ไปเรียนสาบายหน่อย เพราะนอนดึกอย่างไงตื่นเช้า เเต่อย่างว่างานหายากหน่อย เราหาง่ายจนได้ก็จะเปิดเทอม เป็นร่านเหล้าดนตรีสด เราทำมาระยะหนึ่ง ไม่มีวงประจำมาเล่นที่ร้าน พี่เจ้าของร้านถามเพื่อนเขาว่ามีคนที่พอเล่นดนตรีได้ รู้จักไหม ช่วงนี้น้องที่กูรู้จักไม่ค่อยว่างเลย เราก็ถามพี่เขาว่าา พี่หาว่างมาเล่นเหรอ พี่ตอบใช้  
หนูเล่นกันได้น่ะ พี่ลองเชื่อใจหนูสักครั้งหนึ่ง พี่จะไม่ผิดหวังเลย  
พี่เข้าก็ให้ขึ้นไปเล่น กลับมีลูกค้าชอบวงเรามากกว่า ที่เล่น ติบวันไหนได้เกือบ10000บาท หารกัน5คน คนละ2000บาท เราก็เงินสองพันเก็บเข้า่ออมสิน เราทำงานจนเปิดเทอม เราขอเข้างานสายหน่อยเพราะติดเรียน เราเรียนจบปี 1  กำลังเข้าปี2 ช่วงปิดเทอมเเรกเราก็เริ่มรู้จักพ่อของลูกเเล้วเขาเเก่กว่า10ปี เป็นรุ่นพี่ที่เรียนจบจากวิทยาลัยเดียวกับเรา เราคบหาดูใจกับมาเกือบ2ปี เข้าปีที่3 เราเริ่มมีอาการเหมือนคนท้อง เราเลยเอาเ
เรื่องไปปรึกษาพี่เจ้าของร้าน  พี่เขาก็เลยซื้อที่ตรวจครรภ์มาให้ เราตรวจขึ้นสองขีด เราไปบอกเเฟน เเฟนเหมือนจะรับผิดชอบน่ะ เเต่ก็ไม่ทำตัว
เหมือนผู้ใหญ่ เราเริ่มทำงานคนเดียวเเฟน  เเฟนมีอารมณ์ เเต่เราไม่มี ืเราพูด ลองไปซื้อกินไหม เราเหนื่อย เรายื่นตังไป1500บาท 
จนวันหนึ่งเราบอกเราจะกลับบ้านทที่ต่างจังหวัดเ เพื่อไปครรภ์ลูกที่นั้น เเม่เราก็รู้ เราทุบออมสินลงพื้น เราเก็บมาต่อทั้ง6ปี ได้เกือบ300000บาท
เราตัดสินใจกลับบ้านโดนไม่บอกเเฟน เพราะเราเริ่มรู้เเล้วว่า ไม่ได้เเค่ซื้อกินอยากเดียว เขายังเเอบเลี้ยงดูกัน เราไม่ทิ้งตังให้มันสักบาท เราเลือกมาคลอดที่นี้เเละดร๊อบไว้ปี1 เพื่อลี้ยงลูกก่อน เพื่อนก็โทรมา คุยด้วยตลอดพวกพี่ที่หลาน เเละรุ่นที่จบไปแล้วดทรคุยตลอด
เราคลอดเเล้วก็เลี้ยงลูกเองจนสองขวบ เราหางานที่สามารถทำงานเเละก็เลี้ยงลูกไปด้วยได้ โดนไม่ให้เเม่เดือดร้อน เราเลือกติดต่อรุ่นพี่คนหนึ่งไป เป็นพี่สายรหัสของเพื่อน บ้านพี่เขาอยู่ใกล้จังหวัดเรา เขามาถึงบ้าน เอางานเคลียร์บัญชีให้เราทำ เราทำให้เขาจนลูกสองขวบเราบอกเเม่
หนูมีเงินเก็บอบู่ก้อนหนึ่งเเม่เก็บไว้เลี้ยงหลานเเละใช้จ่าย หนูเเบ่งส่วนที่จะไปเรียนต่เเล้ว หนูหางานทำได้ หนูจะโอนให้ทุกเดือน 
เราก็เรียนด้วยทำงานด้วยเพื่อนเราจะเรียนจบอยู่ เราเลือกวิศวะเครื่องกลโรงงาน เรามาเรียนที่เดียวกับเพื่อนสองคน เราหางานพาร์ทไทม์กลางคืนร้านเหล้าที่เรารู้จักเเละรับงานเคลียร์บัญชีให้พี่คนนั้นด้วย เราทำงานเราก็เก็บเงินด้วย เราโอนเงินให้เเม่ทุกเดือน เดือนละ15000บาท
เเละจ่ายค่าห้องจากค่าติบเล่นดนตรี ค่าเทอมจากงานเคลียร์บัญชี  จนเรียนจบวิศวเครื่องกลโรงงาน เราก็ไม่ได้ติดต่อพ่อของลูกตั้งเเต่นั้นมา
เราสามารถพึ่งตัวเองได้ สามา่รถเลี้ยงดูลูกได้ ให้เงินเเม่ใช้ได้  ดูเเลน้องเเละครอบครัวได้ ถือว่าเก่ง ปัจจุบันนี้ลูกเก้าขวบเเล้ว ทุกอย่างในชีวิตเริ่มดีขึ้น ...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------              ขอบพระคุณน่ะค่ะ  -------------------------------------------------------------------------------------------
 สามารถให้ข้อคิดหรือติชมได้น่ะค่ะั     
ฝากความคิดเห็นไว้ได้
เรื่องจริงจากประสบกราณ์จริง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่