สวัสดีคับ เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องจริงนะคับ เรื่องของน้องเตี้ย กับเรื่องพ่อของน้อง
น้องเตี้ยเล่าว่า ตัวเองเป็นลูกสาวคนเดียว อยู่กับพ่อ ปู่และย่า แม่ไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่น้องเตี้ย อายุได้2ขวบ ก็เติบโตมากับปู่กับย่า สะส่วนใหญ่พ่อก็ทำงาน นานๆได้กลับบ้าน พอโตขึ้น วัยเด็กก็เรียนโรงเรียนวัดแถวบ้าน เป็นเด็กผู้หญิงๆบ้านๆคนนึงคับ ห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนกับเพื่อน แล้วก็มักจะลืมกล่องข้าวไว้ที่โรงเรียนเป็นประจำ ทั้งๆที่บ้านห่างจากโรงเรียนร้อยกว่าเมตร พอเรียนจบ ปวช.ก็หาทำงานใกล้ๆบ้าน พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทำงานโรงงานเลยชวน ไปทำด้วย กิจวัตรก็จะเป็น ไปขึ้นรถหน้าปากซอย หน้าวัด ไปโรงงาน ทำงานแล้วก็เลิกงาน นั่งรถโรงงานกลับมาลงหน้าวัด เดินเข้าบ้าน น้องเตี้ยเล่าเรื่องตอนสมัยเด็กๆว่า เคยซ้อนมอไซค์ไปกับเพื่อนแถวๆหลังวัด แล้วน้องมองเห็นกระดาษแต่ไกลๆเลย พอขี่ไปใกล้ๆ เลยบอกเพื่อน จอด .. จอด..พูดดังมาก.. ปรากฎว่า น้องเตี้ยเก็บตังได้ 1000 บาท โหดีใจมาก ในตอนนั้น1000 เยอะมากนะ แต่มากัน3คนนะ น้องเตี้ยบอกว่าให้เพื่อนคนละ100 ผมได้ฟังนี่แบบ555 แกนี่มันจริงๆเลย
พอทำงานโรงงานไปได้4-5ปี โรงงานก็มีการรับคนใหม่เข้า เอาคนเก่าออก เปลี่ยนที่ทำงาน สลับกันไปมา ส่วนนั้น ส่วนนี้ จนน้องเตี้ยเองเริ่มเหนื่อยที่สลับกะดึกบ้างกลางวันบ้าง เลยคิดว่าตัวเองเหนื่อยๆ ก็ถึงช่วงปีใหม่ หลังจากได้โบนัส ก็ลาออก ตามเพื่อนๆ มาพักผ่อนอยู่บ้าน กะว่าจะเปลี่ยนโรงงาน
แล้ววันนึง น้องเตี้ยก็ไปพบรักกับหนุ่มคนนึง ในแอพหาเพื่อน(แอพผึ้ง) สมัยนั้นฮิตมาก สาวๆหนุ่มๆเยอะ ก็คุยกัน คุยไปคุยมาอยู่เกือบปี หนุ่มคนนั้นก็นั่งรถตู้ไปหาน้องเตี้ย (ผมจะเรียกหนุ่มคนนั้นว่าหมูหยองนะคับ) แต่น้องเตี้ยก็วางแผนให้หมูหยองพาไปเที่ยวทะเลบางแสน ก็ไปกันหลายคนนะ มีน้องเตี้ยนั่งหน้าซ้าย หมูหยองขับรถ แล้วก็เพื่อนอีก3คนนั่งหลัง ก็ขับรถไปกัน ถึงทะเลอย่างปลอดภัย ก็กินข้าว ถ่ายรูปคู่ที่ทะเล ปกติ พอตกเย็นก็ขับรถกลับมาบ้าน ไม่ได้ไปนอนที่ทะเล ขับรถกลับมานอนบ้านของน้องเตี้ย ที่บ้านของน้องเตี้ยจะมีบ้านป้าอยุ่ติดกัน และมีบ้านน้าอยู่ติดบ้านป้า กลับมาถึงบ้านก็แยกย้านกันนอน แล้วหมูหยองก็นั่งรถกลับบ้านไป(ตจว)
ผ่านไปประมาณ2เดือน น้องเตี้ยให้พี่สาวขับรถมาส่ง ที่ห้องเช่าของหมูหยอง จากนั้นก็ได้เริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน หมูหยองก็ลาออกงาน ไปเปิดร้านเล็กๆของตัวเอง น้องเตี้ยก็เริ่มขายกาแฟชง แบบชงขายเอง น้องเตี้ยเล่าว่า ตอนออกมาจากโรงงาน คุณครูที่โรงเรียนวัดเปิดร้านกาแฟในหมู่บ้าน เลยให้น้องเตี้ยไปช่วยขาย น้องเตี้ยก็ไปช่วยขายทุกวัน จนคุณครูบอกว่า หนูลูก อันนี้ครูให้สูตรชงกาแฟหนูนะ มีทั้งสูตรชา กาแฟ โอเลี้ยง โกโก้ และอีกหลายอย่าง ให้หนูเก็บไว้เผื่อวันนึงอยากจะขายจะได้มีสูตรนะลูก คุณครูใจดีมากๆ ก็มาขายกาแฟที่หน้าร้านกับหมูหยอง
พออยู่กับหมูหยองไปได้ซักปีกว่า ป้าก็โทรมาหาน้องเตี้ย ว่าพ่อป่วยหนัก หนักเลยจากที่ป่วยมานานแล้ว ต้องมาดู ไปเฝ้าที่โรงพยาบาลในเมืองนะ กับที่ได้คุยโทรศัพท์กับป้าก็คิดว่าอาการหนัก จึงทำให้เป็นห่วงพ่อมาก พอผ่านอีกวัน ป้าก็โทรมาบอก " หนูไม่ต้องมาแล้วนะลูก พ่อออกจากโรงบาลแล้ว ตอนนี้นั่งกินข้าวอยู่บ้าน " แล้วก็มีเรื่องราว ได้ข่าวเข้ามาว่า พอพ่อเริ่มป่วยหนัก เมียพ่อ(แฟนใหม่พ่อ) ก็ไปมีแฟนใหม่ ไปคุยกับคนนุ้นบ้าง คนนี้บ้าง แล้วเวลาก็ผ่านไป 5เดือน วันนึงเมียพ่อพาแฟนใหม่มาให้พ่อรู้จัก ตอนแรกบอกเป็นเพื่อน ไปๆมาๆบอกคบกัน ถึงตรงนี้ ทุกคนต้องตั้งคำถามว่าทำไมพ่อถึงยอม ทำไมพ่อรับได้ แม้แต่ตัวน้องเตี้ยเอง ก็สงสารพ่อและตั้งคำถาม ทำไมไม่เลิกกับเขา... พ่อรักเขามากขนาดนั้นหรอ...
_____________________ตอนนี้ตี4.35 ขอตัวไปนอนก่อนนะคับ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ติดอะไรจะมาเล่าต่อคับ______________________
สวัสดีคับวันนี้27กพ68เวลา2.22 ต่อจากเมื่อนวาน
ย้อนกลับไปประมาณ30กว่าปีที่แล้ว ในตอนที่พ่อน้องเตี้ย ยังไม่มีงานประจำ พ่อแกเป็นคนขยันระดับนึง แกหาทำงานรับจ้างแถวบ้าน ข้ามหมู่บ้านบ้าง ข้ามตำบล ไปหาทำงานรับจ้าง งานก็มีหลายแบบ เช่น ถางป่า ถางหญ้า ตัดกิ่งไม้ ทำสวน ฉีดยาฆ่าย่า ยาฆ่าแมลง ยาปุ๋ย ใส่ปุ๋ย แล้วก็พ่อแกไปสมัครเป็นตำรวจบ้านด้วย แกบอกว่าแกชอบเท่ดี งานอะไรแกก็ทำหมดขอให้อยู่ใกล้ๆบ้าน
จนปีนึงพ่อได้ไปทำงานรับจ้างตัดไม้ แถวหมู่บ้านถัดไป ไปเจอกับผู้สาว (เมียใหม่พ่อ) พ่อก็วนเวียนไปหมู่บ้านนั้นบ่อยๆ ไปถามหางานบ้าง ทำท่าไปวัดบ้าง ไปแวะเติมลมรถบ้าง จนคนแถวนั้นเริ่มรู้จักพ่อว่าเป็นคนอยู่หมู่บ้านโน้นไง มารับจ้างแถวนี้บ่อยๆ พอเริ่มแวะเวียนไปทักทายทำความรู้จัก พ่อก็พยายามชวนผู้สาวไปทำงานด้วย (ในตอนนี้ผมขอให้ชื่อ แฟนพ่อน้องเตี้ยว่า น้าสวยนะคับ เพื่อง่ายในการเล่า) พอผ่านไปซัก2-3เดือน น้าสวยก็ตกลงไปทำงานกับพ่อ ไปทำงานด้วยกันได้ซัก8เดือน พ่อก็ให้ที่บ้านไปขอน้าสวย และแต่งงานอยู่กินเป็นผัวเมียกัน หลังจากที่พ่อแต่งงานใหม่ มีงานต่างอำเภอบ่อยๆก็เริ่มไปทำงานไกลขึ้น แล้วก็ผ่านไปประมาน2ปี พ่อกับน้าสวยก็กลับมาสร้างบ้านหลังแรกด้วยกัน แล้วพ่อก็ไปได้งานประจำที่สำนักงานทางหลวง น้าสวยได้ทำงานโรงงาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก 5-6 กิโลเมตรได้ ก็ได้ใช้ชีวิตมีความสุข เช้าพ่อก็ไปส่งน้าสวยเข้าโรงงาน ตอนนั้นยังมีรถมอไซค์คันเดียว ตกเย็นก็ไปรับ แล้วก็แวะซื้อกับข้าวกลับบ้านปกติ ก็ได้ทำงานไปเรื่อยๆ
วันนึงลุงที่เป็นญาติกันป่วยเป็นมะเร็ง แล้วทางพี่น้องของพ่อก็พาลุงไปตรวจ ทางป้าก็เลยให้พ่อตรวจสุขภาพด้วย ถึงได้รู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งระยะแรก จากนั้นก็เริ่มไปรักษา หาหมอ ไปตรวจ กินยา และกลับไปทำงานปกติ จากเมื่อก่อน ที่สนง.ของพ่อ พ่อจะได้ออกไปกับรถสนง.ทางหลวงด้วย พอพ่อป่วยหัวหน้าก็ให้พ่อทำงานเฝ้า สนง.ก็คือ รปภ.นั้นเอง นานๆไปน้าสวยกับพ่อก็เริ่มมีเงิน มีทอง ซื้อรถเก๋ง ทุบบ้านเก่า ทำบ้านใหม่หลังที่2ให้ดีกว่าเดิม
อยู่กันไปจนช่วงเวลาผ่านไปหลายปี น้าสวยก็เปลี่ยนไป มีคนในหมู่บ้านมาเล่าให้ป้าฟังว่า เห็นน้าสวยไปคุยกับคนนั้นที คนนี้ทีหลายคน เพราะพ่อเริ่มมีอาการป่วยทรุด เริ่มจะไปทำงานบ้างไม่ไปบ้าง น้าสวยก็พานายพงษ์มาเปิดตัว บอกกับครอบครัวของพ่อว่าเป็นลูกหลาน จะพามาอยู่ที่บ้านพ่อด้วย แต่คนในหมู่บ้านเขาคุยกันและมาบอกป้าว่า ทางน้าสวยไม่มีลูกหลานผู้ชายนะ จนความแตกว่านายพงษ์ที่แท้คือชู้ และน้าสวยก็บอกพ่อว่าจะคบกับนายพงษ์
แล้ววันนึงอาการของพ่อก็ทรุดหนักลงมาก จนน้องเตี้ยกับหมูหยอง ต้องกลับไปดูแลพ่อน้องเตี้ยที่บ้าน คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำเช็ดตัว ประมานอาทิตย์กว่า อาการดีขึ้น เหมือนพ่อแกมีกำลังใจว่ามีลูกมาดูแล อาการดีขึ้นลุกมานั่งพูดคุยได้ ตัดมาที่ฝั่งของน้าสวยตอนนี้ กลับบ้านดึกมากๆ และไม่สนใจพ่อเลย ก่อนหน้านี้ พ่อนอนทับเยี่ยวตัวเอง ก็ไม่ค่อยเช็ดตัวให้พ่อดีๆ เปลี่ยนแพมเพิสให้พ่อ ก็ไม่ล้างตูดให้พ่อดีๆ เช็ดทำความสะอาดดีๆ ทำเหมือนคนไม่รักกันแล้ว อีกทั้ง บางครั้ง ก็พานายพงษ์มาบ้านบ่อยๆ นายพงษ์ก็มานั่งสูบบุหรี่ กินเหล้าอยู่ใกล้ๆพ่อ ทั้งที่พ่อป่วย หมูหยองก็บอกว่า พ่อนอนอยู่ตรงนี้ แกได้กลิ่นไปไกลๆหน่อย ทางน้าสวยก็บอกว่า ไม่เปนไรหรอกแกเคยสูบ แต่นี่พ่อป่วยอยู่นะ
แล้วอาการพ่อก็ทรุด แล้วพ่อก็เสียในวันนั้นเลยตอนกลางวัน ก่อนนั้นแกก็ไอ หลายครั้ง น้องเตี้ยกับหมูหยองก็พยุงตัวพ่อแกขึ้น และไปเรียกป้ามา พอป้ามาซักพักพ่อแกก็เริ่มไออีก2-3ครั้ง แล้วพ่อแกก็หมดลมหายใจในอ้อมแขนน้องเตี้ย แล้วน้าสวยก็มาถึงบ้าน ก็วิ่งเข้ามาร้องไห้กอดพ่อ ทั้งที่ป้าก็รีบโทรให้มาตั้งนานแล้ว แต่น้าสวยก็ต้องไปรับนายพงษ์มาด้วยอีก
*หลังจากที่พ่อเสีย1ปี น้าสวยโทรมาหาน้องเตี้ยบอกจะขายบ้าน น้องเตี้ยก็ตกใจ ไหนพ่อจะยกบ้านกับที่ให้ลูก ก็โทรคุยปรึกษากับทางป้า แล้วน้องเตี้ยก็กลับมาบ้าน จะมาเซนต์เอกสารให้น้าสวย เพื่อขายที่ แล้วเขาก็ดำเนินการขายที่เรียบร้อย ทางน้าสวยเขาก็แบ่งเงินให้น้องเตี้ยก้อนนึง แล้วต่างคนต่างแยกย้าย
น้องเตี้ยพึ่งนึกออกว่า ก่อนหน้านี้ที่จะขายบ้าน น้าสวยเคยบอกจะไม่ขายบ้านนี้ จะให้น้องเตี้ย บอกว่า ถ้าขายแล้วน้องเตี้ยจะไปอยู่ไหน ผ่านไปซักพักน้าสวยจะเปิดร้านน้ำชากาแฟเล็กๆ ทางน้องเตี้ยก็มีสูตรชงอยู่ ก็มาสอนให้ฟรีๆ ชงกาแฟ โอเลี้ยง ชาเขียว ชาเย็น ทำนองนั้น ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่น้าสวยมีเงินอยู่เพราะแกเปิดร้านชำเล็กๆด้วยอยู่ทางหลังโรงงาน คิดว่าน่าจะมาทำกับนายพงษ๋์ ก่อนที่ จะหมดเงินและเลิกลากัน ร้านชำก็ขายไม่ได้กำไรเพราะนายพงษ์นั่งกินเหล้าทั้งวัน จนหมด คนผ่านไปผ่านมาก็ชวนมานั่งกิน
พึ่งมารู้ทีหลัง ก่อนหน้าที่น้าสวยจะโทรหาให้ไปเซนต์ขายที่ ก็คือหลังจากที่พ่อตาย2-3เดือน น้าสวยแต่งงานใหม่ กับนายพงษ์ ชาวบ้านเล่าให้น้องเตี้ยฟังว่า พอแต่งงานได้2เดือน นายพงษ์เมา ขับรถชนท้ายรถสิบล้อ รถพังยับเยิน แบบที่ว่าซ่อมคืนไม่คุ้มเลย แต่คนไม่เป็นอะไร แค่หัวแตกนิดกน่อย รถพังขายทิ้งไป แล้วพอเวลาผ่านไปน้าสวยกับนายพงษ์ก็เลิกกัน ส่วนนึงเพราะนายพงษ์ชอบกินเหล้า และมีนิสัยเจ้าชู้จนชาวบ้านรู้กันดี หลังจากนั้นน้าสวย จากที่มีเงิน มีทอง มีรถ ก็ไม่เหลืออะไร
จะมีอยู่ช่วงนึงที่น้องเตี้ยกับหมูหยองค่อนข้างลำบาก ลูกค้าเงียบ เดือนชนเดือน น้องเตี้ยก็พูดลอยๆขึ้นเป็นภาษาบ้านๆว่า " พ่อใหญ่แม่ใหญ่ (ก็คือปู่ย่าที่เสียไปแล้ว) ให้ลูกหลานถูกรางวัลแหน่เด้อ ให้ลูกหลานมีตัง มีเงินทุนทำมาหากิน " แล้วก็ไปต่อในตอนที่น้าสวยโทรมา ให้มาเซนต์ขายที่ และแบ่งค่าขายที่ให้น้องเตี้ย ซึ่งลูกพี่ลูกน้องที่อยู่กับป้า บอกน้องเตี้ยว่า จริงๆแล้วไม่ต้องมาเซนต์ก็ได้นะ เขาจะขายไปเลยก็ได้ เพราะพ่อยกเป็นชื่อเขาไปแล้ว เขาขายได้เลย แล้วน้องเตี้ยก็พนมมือ สาธุ และคิดว่าเงินนี้พ่อใหญ่แม่ใหญ่ให้ เพราะจำได้ว่าเคยบ่น ตอนลำบาก
แล้วน้องเตี้ยก็กลับมาอยู่กับหมูหยองช่วยกันทำมาหากิน น้องเตี้ยอยากทำขนมขาย เพราะตัวเองอยู่ในกลุ่มทำขนมในเฟสและเห็นคนทำขายบ้าง ทำกินบ้าง เลยอยากลองทำ ก็ให้หมูหยองพาไปซื้อเตาอบ62ลิตร แล้วก็เริ่มไปตะเวนหาร้านขายของเบเกอรรี่ในตัวอำเภอ ซื้อของมาทำขนม มาลองทำเองตามยูปทูปบ้าง ถามคนเก่งๆในกลุ่มขนมบ้าง แล้วก็ทำแบ่งให้ เจ้าของห้องเช่าชิม ให้ร้านเสริมสวยชิม ร้านที่นอนชิม ก็ว่าอร่อยนะ ลองทำขายซิ
แล้วน้องเตี้ยก็ทำขนมขายออนไลน์ โดยมีหมูหยองเป็นคนลงขายในกลุ่มให้ เวลาลูกค้าทักมา น้องเตี้ยก็จะเป็นคนคอยคุยอีกทีว่า อยากได้ชิ้นประมานไหนคะ หน้าอะไร เอากี่ชิ้น ใส่กล่องแบบไหน แพคแบบไหน ส่งตจว.รึป่าว รับของวันไหน เพื่อจะได้มาวางแผนทำขนมให้สดใหม่ ส่งให้ลูกค้าได้ทันเวลา
แล้วก็มาเจอโควิด19ลูกค้าก็เงียบ น้ำมันก็ขึ้นราคา ไข่ก็ขึ้นราคา เลยต้องหยุดไปก่อน เพราะต้นทุนเพิ่ม ขายเท่าเดิมไม่ได้กำไรพอ
















[img]
https://f.ptcdn.info/201/087/000/m7mfvybgjDM76082S1J-o.jpg[/i
น้องเตี้ยกับเรื่องของพ่อ
น้องเตี้ยเล่าว่า ตัวเองเป็นลูกสาวคนเดียว อยู่กับพ่อ ปู่และย่า แม่ไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่น้องเตี้ย อายุได้2ขวบ ก็เติบโตมากับปู่กับย่า สะส่วนใหญ่พ่อก็ทำงาน นานๆได้กลับบ้าน พอโตขึ้น วัยเด็กก็เรียนโรงเรียนวัดแถวบ้าน เป็นเด็กผู้หญิงๆบ้านๆคนนึงคับ ห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนกับเพื่อน แล้วก็มักจะลืมกล่องข้าวไว้ที่โรงเรียนเป็นประจำ ทั้งๆที่บ้านห่างจากโรงเรียนร้อยกว่าเมตร พอเรียนจบ ปวช.ก็หาทำงานใกล้ๆบ้าน พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทำงานโรงงานเลยชวน ไปทำด้วย กิจวัตรก็จะเป็น ไปขึ้นรถหน้าปากซอย หน้าวัด ไปโรงงาน ทำงานแล้วก็เลิกงาน นั่งรถโรงงานกลับมาลงหน้าวัด เดินเข้าบ้าน น้องเตี้ยเล่าเรื่องตอนสมัยเด็กๆว่า เคยซ้อนมอไซค์ไปกับเพื่อนแถวๆหลังวัด แล้วน้องมองเห็นกระดาษแต่ไกลๆเลย พอขี่ไปใกล้ๆ เลยบอกเพื่อน จอด .. จอด..พูดดังมาก.. ปรากฎว่า น้องเตี้ยเก็บตังได้ 1000 บาท โหดีใจมาก ในตอนนั้น1000 เยอะมากนะ แต่มากัน3คนนะ น้องเตี้ยบอกว่าให้เพื่อนคนละ100 ผมได้ฟังนี่แบบ555 แกนี่มันจริงๆเลย
พอทำงานโรงงานไปได้4-5ปี โรงงานก็มีการรับคนใหม่เข้า เอาคนเก่าออก เปลี่ยนที่ทำงาน สลับกันไปมา ส่วนนั้น ส่วนนี้ จนน้องเตี้ยเองเริ่มเหนื่อยที่สลับกะดึกบ้างกลางวันบ้าง เลยคิดว่าตัวเองเหนื่อยๆ ก็ถึงช่วงปีใหม่ หลังจากได้โบนัส ก็ลาออก ตามเพื่อนๆ มาพักผ่อนอยู่บ้าน กะว่าจะเปลี่ยนโรงงาน
แล้ววันนึง น้องเตี้ยก็ไปพบรักกับหนุ่มคนนึง ในแอพหาเพื่อน(แอพผึ้ง) สมัยนั้นฮิตมาก สาวๆหนุ่มๆเยอะ ก็คุยกัน คุยไปคุยมาอยู่เกือบปี หนุ่มคนนั้นก็นั่งรถตู้ไปหาน้องเตี้ย (ผมจะเรียกหนุ่มคนนั้นว่าหมูหยองนะคับ) แต่น้องเตี้ยก็วางแผนให้หมูหยองพาไปเที่ยวทะเลบางแสน ก็ไปกันหลายคนนะ มีน้องเตี้ยนั่งหน้าซ้าย หมูหยองขับรถ แล้วก็เพื่อนอีก3คนนั่งหลัง ก็ขับรถไปกัน ถึงทะเลอย่างปลอดภัย ก็กินข้าว ถ่ายรูปคู่ที่ทะเล ปกติ พอตกเย็นก็ขับรถกลับมาบ้าน ไม่ได้ไปนอนที่ทะเล ขับรถกลับมานอนบ้านของน้องเตี้ย ที่บ้านของน้องเตี้ยจะมีบ้านป้าอยุ่ติดกัน และมีบ้านน้าอยู่ติดบ้านป้า กลับมาถึงบ้านก็แยกย้านกันนอน แล้วหมูหยองก็นั่งรถกลับบ้านไป(ตจว)
ผ่านไปประมาณ2เดือน น้องเตี้ยให้พี่สาวขับรถมาส่ง ที่ห้องเช่าของหมูหยอง จากนั้นก็ได้เริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน หมูหยองก็ลาออกงาน ไปเปิดร้านเล็กๆของตัวเอง น้องเตี้ยก็เริ่มขายกาแฟชง แบบชงขายเอง น้องเตี้ยเล่าว่า ตอนออกมาจากโรงงาน คุณครูที่โรงเรียนวัดเปิดร้านกาแฟในหมู่บ้าน เลยให้น้องเตี้ยไปช่วยขาย น้องเตี้ยก็ไปช่วยขายทุกวัน จนคุณครูบอกว่า หนูลูก อันนี้ครูให้สูตรชงกาแฟหนูนะ มีทั้งสูตรชา กาแฟ โอเลี้ยง โกโก้ และอีกหลายอย่าง ให้หนูเก็บไว้เผื่อวันนึงอยากจะขายจะได้มีสูตรนะลูก คุณครูใจดีมากๆ ก็มาขายกาแฟที่หน้าร้านกับหมูหยอง
พออยู่กับหมูหยองไปได้ซักปีกว่า ป้าก็โทรมาหาน้องเตี้ย ว่าพ่อป่วยหนัก หนักเลยจากที่ป่วยมานานแล้ว ต้องมาดู ไปเฝ้าที่โรงพยาบาลในเมืองนะ กับที่ได้คุยโทรศัพท์กับป้าก็คิดว่าอาการหนัก จึงทำให้เป็นห่วงพ่อมาก พอผ่านอีกวัน ป้าก็โทรมาบอก " หนูไม่ต้องมาแล้วนะลูก พ่อออกจากโรงบาลแล้ว ตอนนี้นั่งกินข้าวอยู่บ้าน " แล้วก็มีเรื่องราว ได้ข่าวเข้ามาว่า พอพ่อเริ่มป่วยหนัก เมียพ่อ(แฟนใหม่พ่อ) ก็ไปมีแฟนใหม่ ไปคุยกับคนนุ้นบ้าง คนนี้บ้าง แล้วเวลาก็ผ่านไป 5เดือน วันนึงเมียพ่อพาแฟนใหม่มาให้พ่อรู้จัก ตอนแรกบอกเป็นเพื่อน ไปๆมาๆบอกคบกัน ถึงตรงนี้ ทุกคนต้องตั้งคำถามว่าทำไมพ่อถึงยอม ทำไมพ่อรับได้ แม้แต่ตัวน้องเตี้ยเอง ก็สงสารพ่อและตั้งคำถาม ทำไมไม่เลิกกับเขา... พ่อรักเขามากขนาดนั้นหรอ...
_____________________ตอนนี้ตี4.35 ขอตัวไปนอนก่อนนะคับ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ติดอะไรจะมาเล่าต่อคับ______________________
สวัสดีคับวันนี้27กพ68เวลา2.22 ต่อจากเมื่อนวาน
ย้อนกลับไปประมาณ30กว่าปีที่แล้ว ในตอนที่พ่อน้องเตี้ย ยังไม่มีงานประจำ พ่อแกเป็นคนขยันระดับนึง แกหาทำงานรับจ้างแถวบ้าน ข้ามหมู่บ้านบ้าง ข้ามตำบล ไปหาทำงานรับจ้าง งานก็มีหลายแบบ เช่น ถางป่า ถางหญ้า ตัดกิ่งไม้ ทำสวน ฉีดยาฆ่าย่า ยาฆ่าแมลง ยาปุ๋ย ใส่ปุ๋ย แล้วก็พ่อแกไปสมัครเป็นตำรวจบ้านด้วย แกบอกว่าแกชอบเท่ดี งานอะไรแกก็ทำหมดขอให้อยู่ใกล้ๆบ้าน
จนปีนึงพ่อได้ไปทำงานรับจ้างตัดไม้ แถวหมู่บ้านถัดไป ไปเจอกับผู้สาว (เมียใหม่พ่อ) พ่อก็วนเวียนไปหมู่บ้านนั้นบ่อยๆ ไปถามหางานบ้าง ทำท่าไปวัดบ้าง ไปแวะเติมลมรถบ้าง จนคนแถวนั้นเริ่มรู้จักพ่อว่าเป็นคนอยู่หมู่บ้านโน้นไง มารับจ้างแถวนี้บ่อยๆ พอเริ่มแวะเวียนไปทักทายทำความรู้จัก พ่อก็พยายามชวนผู้สาวไปทำงานด้วย (ในตอนนี้ผมขอให้ชื่อ แฟนพ่อน้องเตี้ยว่า น้าสวยนะคับ เพื่อง่ายในการเล่า) พอผ่านไปซัก2-3เดือน น้าสวยก็ตกลงไปทำงานกับพ่อ ไปทำงานด้วยกันได้ซัก8เดือน พ่อก็ให้ที่บ้านไปขอน้าสวย และแต่งงานอยู่กินเป็นผัวเมียกัน หลังจากที่พ่อแต่งงานใหม่ มีงานต่างอำเภอบ่อยๆก็เริ่มไปทำงานไกลขึ้น แล้วก็ผ่านไปประมาน2ปี พ่อกับน้าสวยก็กลับมาสร้างบ้านหลังแรกด้วยกัน แล้วพ่อก็ไปได้งานประจำที่สำนักงานทางหลวง น้าสวยได้ทำงานโรงงาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก 5-6 กิโลเมตรได้ ก็ได้ใช้ชีวิตมีความสุข เช้าพ่อก็ไปส่งน้าสวยเข้าโรงงาน ตอนนั้นยังมีรถมอไซค์คันเดียว ตกเย็นก็ไปรับ แล้วก็แวะซื้อกับข้าวกลับบ้านปกติ ก็ได้ทำงานไปเรื่อยๆ
วันนึงลุงที่เป็นญาติกันป่วยเป็นมะเร็ง แล้วทางพี่น้องของพ่อก็พาลุงไปตรวจ ทางป้าก็เลยให้พ่อตรวจสุขภาพด้วย ถึงได้รู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งระยะแรก จากนั้นก็เริ่มไปรักษา หาหมอ ไปตรวจ กินยา และกลับไปทำงานปกติ จากเมื่อก่อน ที่สนง.ของพ่อ พ่อจะได้ออกไปกับรถสนง.ทางหลวงด้วย พอพ่อป่วยหัวหน้าก็ให้พ่อทำงานเฝ้า สนง.ก็คือ รปภ.นั้นเอง นานๆไปน้าสวยกับพ่อก็เริ่มมีเงิน มีทอง ซื้อรถเก๋ง ทุบบ้านเก่า ทำบ้านใหม่หลังที่2ให้ดีกว่าเดิม
อยู่กันไปจนช่วงเวลาผ่านไปหลายปี น้าสวยก็เปลี่ยนไป มีคนในหมู่บ้านมาเล่าให้ป้าฟังว่า เห็นน้าสวยไปคุยกับคนนั้นที คนนี้ทีหลายคน เพราะพ่อเริ่มมีอาการป่วยทรุด เริ่มจะไปทำงานบ้างไม่ไปบ้าง น้าสวยก็พานายพงษ์มาเปิดตัว บอกกับครอบครัวของพ่อว่าเป็นลูกหลาน จะพามาอยู่ที่บ้านพ่อด้วย แต่คนในหมู่บ้านเขาคุยกันและมาบอกป้าว่า ทางน้าสวยไม่มีลูกหลานผู้ชายนะ จนความแตกว่านายพงษ์ที่แท้คือชู้ และน้าสวยก็บอกพ่อว่าจะคบกับนายพงษ์
แล้ววันนึงอาการของพ่อก็ทรุดหนักลงมาก จนน้องเตี้ยกับหมูหยอง ต้องกลับไปดูแลพ่อน้องเตี้ยที่บ้าน คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำเช็ดตัว ประมานอาทิตย์กว่า อาการดีขึ้น เหมือนพ่อแกมีกำลังใจว่ามีลูกมาดูแล อาการดีขึ้นลุกมานั่งพูดคุยได้ ตัดมาที่ฝั่งของน้าสวยตอนนี้ กลับบ้านดึกมากๆ และไม่สนใจพ่อเลย ก่อนหน้านี้ พ่อนอนทับเยี่ยวตัวเอง ก็ไม่ค่อยเช็ดตัวให้พ่อดีๆ เปลี่ยนแพมเพิสให้พ่อ ก็ไม่ล้างตูดให้พ่อดีๆ เช็ดทำความสะอาดดีๆ ทำเหมือนคนไม่รักกันแล้ว อีกทั้ง บางครั้ง ก็พานายพงษ์มาบ้านบ่อยๆ นายพงษ์ก็มานั่งสูบบุหรี่ กินเหล้าอยู่ใกล้ๆพ่อ ทั้งที่พ่อป่วย หมูหยองก็บอกว่า พ่อนอนอยู่ตรงนี้ แกได้กลิ่นไปไกลๆหน่อย ทางน้าสวยก็บอกว่า ไม่เปนไรหรอกแกเคยสูบ แต่นี่พ่อป่วยอยู่นะ
แล้วอาการพ่อก็ทรุด แล้วพ่อก็เสียในวันนั้นเลยตอนกลางวัน ก่อนนั้นแกก็ไอ หลายครั้ง น้องเตี้ยกับหมูหยองก็พยุงตัวพ่อแกขึ้น และไปเรียกป้ามา พอป้ามาซักพักพ่อแกก็เริ่มไออีก2-3ครั้ง แล้วพ่อแกก็หมดลมหายใจในอ้อมแขนน้องเตี้ย แล้วน้าสวยก็มาถึงบ้าน ก็วิ่งเข้ามาร้องไห้กอดพ่อ ทั้งที่ป้าก็รีบโทรให้มาตั้งนานแล้ว แต่น้าสวยก็ต้องไปรับนายพงษ์มาด้วยอีก
*หลังจากที่พ่อเสีย1ปี น้าสวยโทรมาหาน้องเตี้ยบอกจะขายบ้าน น้องเตี้ยก็ตกใจ ไหนพ่อจะยกบ้านกับที่ให้ลูก ก็โทรคุยปรึกษากับทางป้า แล้วน้องเตี้ยก็กลับมาบ้าน จะมาเซนต์เอกสารให้น้าสวย เพื่อขายที่ แล้วเขาก็ดำเนินการขายที่เรียบร้อย ทางน้าสวยเขาก็แบ่งเงินให้น้องเตี้ยก้อนนึง แล้วต่างคนต่างแยกย้าย
น้องเตี้ยพึ่งนึกออกว่า ก่อนหน้านี้ที่จะขายบ้าน น้าสวยเคยบอกจะไม่ขายบ้านนี้ จะให้น้องเตี้ย บอกว่า ถ้าขายแล้วน้องเตี้ยจะไปอยู่ไหน ผ่านไปซักพักน้าสวยจะเปิดร้านน้ำชากาแฟเล็กๆ ทางน้องเตี้ยก็มีสูตรชงอยู่ ก็มาสอนให้ฟรีๆ ชงกาแฟ โอเลี้ยง ชาเขียว ชาเย็น ทำนองนั้น ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่น้าสวยมีเงินอยู่เพราะแกเปิดร้านชำเล็กๆด้วยอยู่ทางหลังโรงงาน คิดว่าน่าจะมาทำกับนายพงษ๋์ ก่อนที่ จะหมดเงินและเลิกลากัน ร้านชำก็ขายไม่ได้กำไรเพราะนายพงษ์นั่งกินเหล้าทั้งวัน จนหมด คนผ่านไปผ่านมาก็ชวนมานั่งกิน
พึ่งมารู้ทีหลัง ก่อนหน้าที่น้าสวยจะโทรหาให้ไปเซนต์ขายที่ ก็คือหลังจากที่พ่อตาย2-3เดือน น้าสวยแต่งงานใหม่ กับนายพงษ์ ชาวบ้านเล่าให้น้องเตี้ยฟังว่า พอแต่งงานได้2เดือน นายพงษ์เมา ขับรถชนท้ายรถสิบล้อ รถพังยับเยิน แบบที่ว่าซ่อมคืนไม่คุ้มเลย แต่คนไม่เป็นอะไร แค่หัวแตกนิดกน่อย รถพังขายทิ้งไป แล้วพอเวลาผ่านไปน้าสวยกับนายพงษ์ก็เลิกกัน ส่วนนึงเพราะนายพงษ์ชอบกินเหล้า และมีนิสัยเจ้าชู้จนชาวบ้านรู้กันดี หลังจากนั้นน้าสวย จากที่มีเงิน มีทอง มีรถ ก็ไม่เหลืออะไร
จะมีอยู่ช่วงนึงที่น้องเตี้ยกับหมูหยองค่อนข้างลำบาก ลูกค้าเงียบ เดือนชนเดือน น้องเตี้ยก็พูดลอยๆขึ้นเป็นภาษาบ้านๆว่า " พ่อใหญ่แม่ใหญ่ (ก็คือปู่ย่าที่เสียไปแล้ว) ให้ลูกหลานถูกรางวัลแหน่เด้อ ให้ลูกหลานมีตัง มีเงินทุนทำมาหากิน " แล้วก็ไปต่อในตอนที่น้าสวยโทรมา ให้มาเซนต์ขายที่ และแบ่งค่าขายที่ให้น้องเตี้ย ซึ่งลูกพี่ลูกน้องที่อยู่กับป้า บอกน้องเตี้ยว่า จริงๆแล้วไม่ต้องมาเซนต์ก็ได้นะ เขาจะขายไปเลยก็ได้ เพราะพ่อยกเป็นชื่อเขาไปแล้ว เขาขายได้เลย แล้วน้องเตี้ยก็พนมมือ สาธุ และคิดว่าเงินนี้พ่อใหญ่แม่ใหญ่ให้ เพราะจำได้ว่าเคยบ่น ตอนลำบาก
แล้วน้องเตี้ยก็กลับมาอยู่กับหมูหยองช่วยกันทำมาหากิน น้องเตี้ยอยากทำขนมขาย เพราะตัวเองอยู่ในกลุ่มทำขนมในเฟสและเห็นคนทำขายบ้าง ทำกินบ้าง เลยอยากลองทำ ก็ให้หมูหยองพาไปซื้อเตาอบ62ลิตร แล้วก็เริ่มไปตะเวนหาร้านขายของเบเกอรรี่ในตัวอำเภอ ซื้อของมาทำขนม มาลองทำเองตามยูปทูปบ้าง ถามคนเก่งๆในกลุ่มขนมบ้าง แล้วก็ทำแบ่งให้ เจ้าของห้องเช่าชิม ให้ร้านเสริมสวยชิม ร้านที่นอนชิม ก็ว่าอร่อยนะ ลองทำขายซิ
แล้วน้องเตี้ยก็ทำขนมขายออนไลน์ โดยมีหมูหยองเป็นคนลงขายในกลุ่มให้ เวลาลูกค้าทักมา น้องเตี้ยก็จะเป็นคนคอยคุยอีกทีว่า อยากได้ชิ้นประมานไหนคะ หน้าอะไร เอากี่ชิ้น ใส่กล่องแบบไหน แพคแบบไหน ส่งตจว.รึป่าว รับของวันไหน เพื่อจะได้มาวางแผนทำขนมให้สดใหม่ ส่งให้ลูกค้าได้ทันเวลา
แล้วก็มาเจอโควิด19ลูกค้าก็เงียบ น้ำมันก็ขึ้นราคา ไข่ก็ขึ้นราคา เลยต้องหยุดไปก่อน เพราะต้นทุนเพิ่ม ขายเท่าเดิมไม่ได้กำไรพอ