ปชน.สงสัยกกต.แกล้งลืม ดีเอสไอ ต้องทำคดี ฮั้วส.ว. ย้ำอีก สภาสูงจำเป็นต้องมีไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5064903
ปชน.สงสัยกกต.แกล้งลืม ดีเอสไอ ต้องทำคดี ฮั้วส.ว. ย้ำอีก สภาสูงจำเป็นต้องมีไหม
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อมีมติให้คดีเกี่ยวกับการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 เป็นคดีพิเศษ ว่า ต้องย้อนกลับไปมองว่าเรื่องนี้เคยเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว จึงอยากตั้งคำถามถึงการทำงานของ กกต.ว่าได้ทำงานอย่างรวดเร็วเท่าเทียมกันในทุกกรณีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ กกต. ทำงานเร็วมาก แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่กกต.เหมือนจะแกล้งลืมและใช้เวลาเนิ่นนาน
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องทางกฎหมายที่พอจะสามารถถกเถียงกันได้ แต่เราก็ต้องตั้งคำถามว่าที่ผ่านมากกต.ทำอะไรอยู่ ทั้งที่เรื่องนี้เคยถูกส่งเข้าไปนานแล้ว และสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนในกรณีนี้คือที่มาของ สว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ตอบโจทย์อะไรเลย และนำมาซึ่งปัญหามากมาย
“
ฉะนั้น จึงอยากตั้งคำถามให้สังคมคิดคำนึงอีกครั้งว่าตกลงแล้วคำว่าสว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยด้วยกติกาเช่นนี้นั้นตอบโจทย์หรือไม่ การเลือกตั้งสว.ตอบโจทย์หรือไม่ เรายังจำเป็นต้องมีสองสภาอยู่หรือไม่ ผมคิดว่าปัญหาครั้งนี้จะเป็นสัญญาณให้สังคมกลับมาขบคิดกันอีกครั้งถึงการดำรงอยู่ของสว.และที่มาของสว.” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถาม ถึงกรณีที่สว.จะมีการอภิปรายพ.ต.อ.
ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายค้านจะมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของสว. ซึ่งเราคงจะไม่ไปยุ่งหรือก้าวก่ายอะไร และเป็นหน้าที่ของพ.ต.อ.ทวี ที่จะไปชี้แจงเอง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับภาพที่ปรากฏออกมาซึ่งทำให้มีการวิเคราะห์กันว่าเป็นเหมือนการงัดข้อกันระหว่างผู้มากบารมีทางการเมืองสองคน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วนกลับมาที่เดิมว่าตกลงแล้วที่มาของสว.เหมือนที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ และเรายืนยันว่าต้องแก้ไข สรุปแล้วที่มาของสว.ตอบโจทย์การทำงานในสภาจริงหรือไม่ ข้อครหาที่บอกว่าสว.อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ก็มีการพูดกันอย่างกว้างขวาง
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงต้องย้อนกลับมาอีกครั้งว่าตกลงแล้วกติกาเรื่องที่มาของสว.นั้น จริงๆ ควรจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ เพราะสว.ก็ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เข้ามาด้วยวิธีอะไรไม่รู้และไปทำอะไรไม่รู้ อยากฝากถึงกกต.อีกรอบว่านอกจากเรื่องการทำหน้าที่แล้ว จริงๆ ตนคิดว่า กกต.ไม่ใช่เป็นหน่วยงานที่แค่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามกฏหมายที่ระบุ ซึ่งเวลามีการเลือกตั้งรัฐบาลก็อาศัยความเห็นจากกกต.
“
ฉะนั้น กกต.ควรจะให้ความเห็นได้ตั้งแต่แรกว่าวิธีเช่นนี้ไม่เวิร์ก ไม่ใช่บอกว่าทำกติกาทุกอย่าง ทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากเป็นเช่นนี้เอาเอไอมาเป็นกกต.ก็ได้ ไม่ต้องใช้คน” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า การงัดข้อกันของผู้มากบารมีทางการเมืองทั้งสองคนจะทำให้ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลเลยหรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นี่เรากำลังคุยเรื่องกติกาสว.ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ใช่หรือไม่ ตนขอย้อนกลับไปอีกรอบว่า กติกาที่มาของสว.เช่นนี้มีปัญหาแน่นอน ส่วนจะงัดข้อกันถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าเราพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งและให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจอีกครั้งว่าจะให้ใครเป็นผู้นำรัฐบาล ใครเป็นตัวแทนของพวกเขา
“
จะเปลี่ยนขั้วหรือไม่เปลี่ยนขั้วก็ตาม พักประชาชนยืนยันว่าในสภาชุดนี้ เราไม่เข้าไปร่วมรัฐบาลแน่นอน” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
แกนนำเด็กรุ่นใหม่ฯยื่นหนังสือนายกฯทบทวนพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ชี้เยาวชนมาเล่นเพิ่ม 7 ล้านคน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5064853
แกนนำเด็กรุ่นใหม่ ไม่พนัน ยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เสียงนักพนันหน้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน เพิ่มกว่า 7 ล้านคน
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) กลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นำโดย น.ส.
วศิณี สนแสบ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมตัวแทนประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ทบทวนนโยบายการพนันออนไลน์ ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ให้ครม.พิจารณา เพื่ออนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
น.ส.
วศิณี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีแนว นโยบายให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย โดยเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 เพิ่มเติมนิยามของการพนันและการพนันออนไลน์ และให้เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตจัดให้เล่นพนันออนไลน์ และได้ดำเนินการรับฟังความเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางอินเทอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน มีความห่วงใยต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมาหากนโยบายนี้มีผลปฏิบัติจริง ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงการพนันจำนวนมาก ดังข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหา การพนัน ปี 2566 ที่พบว่ากลุ่มเด็ก เยาวชนอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ถึงประมาณ 739,0000 คน นี่คือตัวเลขข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการป้องกัน แก้ไขใดๆจากรัฐบาลเลย
นางสาว
วาศิณี กล่าวต่อว่า
เครือข่ายจึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายด้วยเหตุผล ดังนี้
1.แนวนโยบายการนำสิ่งที่เคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ มาทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ทำได้ โดยหวังสร้างรายได้ไห้แก่รัฐ เป็นความคิดแก่ได้และน่าละอาย เพราะเห็นชัดเจนในเจตนาว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น โดยผลเสียทางสังคมที่จะเกิดตามมาในระยะยาว
2. การอ้างว่าเมื่อรัฐมีรายได้จากกิจการพนันบนดินดังกล่าว แล้วจะนำรายได้มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและ เยาวชน เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนการเอาอนาคตของเด็กเยาวชนมาเป็นนเครื่องต่อรองอย่างไร้ความรับผิดชอบ และไร้แนวทางที่สร้างสรรค์
และ 3. การอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ที่เปรียบเสมือนการใช้ยาแรงเพื่อจัดการโรคร้าย เป็นการคิดฟังฝันที่ จากการคำนึงถึงความเป็นจริงว่า การที่การพนันออนไลน์แพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน มีต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงาน ดังนั้น การเพิ่มโทษดังกล่าว จึงอาจเปรียบเสมือนแรงให้แก่หมอเถื่อนที่อาจจะนำยานี้ไปใช้อย่างมิชอบ เครือข่ายเยาวชนหวังว่านายกรัฐมนตรีแนวนโยบายดังกล่าว” นางสาววศิณี กล่าว
ด้านนาย
บดินทร์ชัย บุญปก แกนนำเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่าตนมีโอกาสได้เจอคนที่ติดพนันออนไลน์จนเสียผู้เสียคน และพบว่ามันยากมากที่จะออกจากวงจรนี้ กลายเป็นคนที่ชอบโกหกสร้างเรื่อง หลอกลวงและจบลงด้วยการปล้นจี้ สุดท้ายก็ถูกจับสิ้นอิสระภาพ ส่วนตัวไม่เชื่อเลยว่าการมีพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือกาสิโนถูกกฎหมายแล้ว มันจะทำให้พนันออนไลน์ หรือบ่อนพนันเถื่อนจะลดลงหรือหายไป อาจจะชะงักไปช่วงหนึ่งบ้างแต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ประชาชน
“
ไม่เชื่อ ดูอย่างสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าต้องพิมพ์เพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาสลากแพง พิมพ์เพิ่มจาก 30 ล้านฉบับ จนเป็น 100 ล้านฉบับสุดท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังราคาแพงอยู่ดี มันเป็นเพียงข้ออ้างที่ตั้งใจจะมอมเมากันมากกว่า เรื่องนโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ตนใคร่ขอโอกาสนี้เรียกร้องต่อรัฐมนตรีทั้งคณะรัฐมนตรีผู้ดูแลกระทรวงด้านสังคม อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นต้น พวกตนขอให้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อแนวนโยบายนี้ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลกระทบทางสังคมที่จะเกิดตามมาจากการตัดสินใจเห็นชอบกับแนวนโยบายทำลายสังคม ทำร้ายเด็กและเยาวชน” นาย
บดินทร์ชัย กล่าว
จากนั้นนาย
สมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวพร้อม กล่าวว่า ตนในฐานะจะนำเรื่อง ที่ร้องเรียนมาเสนอท่านนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับไปประกอบการพี่นาต่อไป
นักเศรษฐศาสตร์-เอกชน อ่านใจ กนง. ระทึกเคาะดอกเบี้ย 26 ก.พ..
https://www.matichon.co.th/economy/news_5064802
นักเศรษฐศาสตร์-เอกชน อ่านใจกนง. ระทึกเคาะดอกเบี้ย 26 ก.พ.
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นาย
สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ถึงแนวโน้มการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่า หากมองจาก ภายนอก ซึ่งขณะนี้นโยบายของทรัมป์ กำลังสร้างความไม่แน่นอนทางสงครามการค้า อาทิ มาตรการตอบโต้ที่เป็นในลักษณะของ ‘
การต่างตอบแทน‘ หมายความว่า “
คุณเก็บภาษีผมเท่าไหร่ ผมจะเก็บภาษีคุณเท่านั้น” เช่น สหภาพยุโรปที่มาการเก็บภาษีรถยนต์ 10% ในขณะที่สหรัฐเก็บภาษีรถยนต์เพียง 2-2.5% ต่อไปสหรัฐก็จะเก็บภาษีรถยนต์จากสหภาพยุโรป 10% เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ทรัมป์ได้บอกว่า เขาจะเล่นงานทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ ไทยเองก็ติดที่อันดับ 5 ในลิสต์นี้ ซึ่งทุกตัวอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็น ‘
ความไม่แน่นอน‘ ทั้งสิ้น
ฉะนั้นจะเห็นว่าสงครามการค้ามันเพิ่งจะเข้าสู่ยกที่ 2-3 เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องมองให้ชัดว่า ตกลงผลกระทบจากการดำเนินมาตรการของทรัมป์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างไรบ้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งกรณีนี้ กนง. ก็คงจะต้องคอยจับตาดูสงครามการค้าว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากน้อยเพียงใด และหากเป็นไปตามสมมติฐานนี้ คิดว่ากนง.จะชะลอเรื่องการลดดอกเบี้ยลง เพื่อรอดูให้แน่ชัดถึงผลกระทบที่ไทยจะได้รับ
ขณะเดียวกัน หากมองจาก ภายใน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเองอยากให้ลดดอกเบี้ยลงอีกสักหน่อย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนนี้มองว่าหากลองชั่งน้ำหนักดู ก็คิดว่า กนง. คงจะชะลอการลดดอกเบี้ยลงเพื่อรอดูสถานการณ์ที่แน่ชัดมากกว่า อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อเป็นการเตรียมกระสุนในภาวะที่เศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่เด่นชัด ซึ่งหมายความว่า ‘
’
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่กนง.จะยังไม่เคาะลดหรือลดเบี้ยใช่หรือไม่ นาย
สมชาย กล่าวว่า ใช่ แต่ส่วนตัวคิดว่าปีนี้ลงแน่ เพียงแต่ต้องรอดูสงความการค้าให้แน่ชัดก่อน มองว่าในปีนี้จะมีการลดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 1-2 ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสมมติฐาน ที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ถึงขั้นปั่นป่วน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ก็อาจจะทำให้เกิดการขึ้นดอกเบี้ยได้ แต่ ณ ขณะนี้ธนาคารกลางของสหรัฐ ยังคงอยู่ในขั้นตอนรอดูให้ชัดเพื่อที่จะเก็บกระสุนเอาไว้ แล้วถ้าหากว่าไม่ได้ร้ายแรงจนเกินไป กรณีนี้คิดว่ามีแนวโน้มที่ในการประชุม กนง. ครั้งต่อไปจะมีการปรับลดดอกเบี้ยงลง
JJNY : ปชน.สงสัยกกต.แกล้งลืม│ยื่นทบทวนพนันออนไลน์ถูกกม.│อ่านใจ กนง. ระทึกเคาะดอกเบี้ย│คณะมนตรีฯ ยูเอ็นรับรองญัตติยุติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5064903
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อมีมติให้คดีเกี่ยวกับการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 เป็นคดีพิเศษ ว่า ต้องย้อนกลับไปมองว่าเรื่องนี้เคยเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว จึงอยากตั้งคำถามถึงการทำงานของ กกต.ว่าได้ทำงานอย่างรวดเร็วเท่าเทียมกันในทุกกรณีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ กกต. ทำงานเร็วมาก แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่กกต.เหมือนจะแกล้งลืมและใช้เวลาเนิ่นนาน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องทางกฎหมายที่พอจะสามารถถกเถียงกันได้ แต่เราก็ต้องตั้งคำถามว่าที่ผ่านมากกต.ทำอะไรอยู่ ทั้งที่เรื่องนี้เคยถูกส่งเข้าไปนานแล้ว และสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนในกรณีนี้คือที่มาของ สว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ตอบโจทย์อะไรเลย และนำมาซึ่งปัญหามากมาย
“ฉะนั้น จึงอยากตั้งคำถามให้สังคมคิดคำนึงอีกครั้งว่าตกลงแล้วคำว่าสว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยด้วยกติกาเช่นนี้นั้นตอบโจทย์หรือไม่ การเลือกตั้งสว.ตอบโจทย์หรือไม่ เรายังจำเป็นต้องมีสองสภาอยู่หรือไม่ ผมคิดว่าปัญหาครั้งนี้จะเป็นสัญญาณให้สังคมกลับมาขบคิดกันอีกครั้งถึงการดำรงอยู่ของสว.และที่มาของสว.” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถาม ถึงกรณีที่สว.จะมีการอภิปรายพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายค้านจะมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของสว. ซึ่งเราคงจะไม่ไปยุ่งหรือก้าวก่ายอะไร และเป็นหน้าที่ของพ.ต.อ.ทวี ที่จะไปชี้แจงเอง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับภาพที่ปรากฏออกมาซึ่งทำให้มีการวิเคราะห์กันว่าเป็นเหมือนการงัดข้อกันระหว่างผู้มากบารมีทางการเมืองสองคน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วนกลับมาที่เดิมว่าตกลงแล้วที่มาของสว.เหมือนที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ และเรายืนยันว่าต้องแก้ไข สรุปแล้วที่มาของสว.ตอบโจทย์การทำงานในสภาจริงหรือไม่ ข้อครหาที่บอกว่าสว.อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ก็มีการพูดกันอย่างกว้างขวาง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงต้องย้อนกลับมาอีกครั้งว่าตกลงแล้วกติกาเรื่องที่มาของสว.นั้น จริงๆ ควรจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ เพราะสว.ก็ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เข้ามาด้วยวิธีอะไรไม่รู้และไปทำอะไรไม่รู้ อยากฝากถึงกกต.อีกรอบว่านอกจากเรื่องการทำหน้าที่แล้ว จริงๆ ตนคิดว่า กกต.ไม่ใช่เป็นหน่วยงานที่แค่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามกฏหมายที่ระบุ ซึ่งเวลามีการเลือกตั้งรัฐบาลก็อาศัยความเห็นจากกกต.
“ฉะนั้น กกต.ควรจะให้ความเห็นได้ตั้งแต่แรกว่าวิธีเช่นนี้ไม่เวิร์ก ไม่ใช่บอกว่าทำกติกาทุกอย่าง ทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากเป็นเช่นนี้เอาเอไอมาเป็นกกต.ก็ได้ ไม่ต้องใช้คน” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า การงัดข้อกันของผู้มากบารมีทางการเมืองทั้งสองคนจะทำให้ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลเลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นี่เรากำลังคุยเรื่องกติกาสว.ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ใช่หรือไม่ ตนขอย้อนกลับไปอีกรอบว่า กติกาที่มาของสว.เช่นนี้มีปัญหาแน่นอน ส่วนจะงัดข้อกันถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าเราพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งและให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจอีกครั้งว่าจะให้ใครเป็นผู้นำรัฐบาล ใครเป็นตัวแทนของพวกเขา
“จะเปลี่ยนขั้วหรือไม่เปลี่ยนขั้วก็ตาม พักประชาชนยืนยันว่าในสภาชุดนี้ เราไม่เข้าไปร่วมรัฐบาลแน่นอน” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
แกนนำเด็กรุ่นใหม่ฯยื่นหนังสือนายกฯทบทวนพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ชี้เยาวชนมาเล่นเพิ่ม 7 ล้านคน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5064853
แกนนำเด็กรุ่นใหม่ ไม่พนัน ยื่นหนังสือนายกฯ ทบทวนพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เสียงนักพนันหน้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน เพิ่มกว่า 7 ล้านคน
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) กลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นำโดย น.ส.วศิณี สนแสบ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมตัวแทนประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ทบทวนนโยบายการพนันออนไลน์ ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ให้ครม.พิจารณา เพื่ออนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
น.ส.วศิณี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีแนว นโยบายให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย โดยเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 เพิ่มเติมนิยามของการพนันและการพนันออนไลน์ และให้เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตจัดให้เล่นพนันออนไลน์ และได้ดำเนินการรับฟังความเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางอินเทอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน มีความห่วงใยต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมาหากนโยบายนี้มีผลปฏิบัติจริง ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงการพนันจำนวนมาก ดังข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหา การพนัน ปี 2566 ที่พบว่ากลุ่มเด็ก เยาวชนอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ถึงประมาณ 739,0000 คน นี่คือตัวเลขข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการป้องกัน แก้ไขใดๆจากรัฐบาลเลย
นางสาววาศิณี กล่าวต่อว่า เครือข่ายจึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายด้วยเหตุผล ดังนี้
1.แนวนโยบายการนำสิ่งที่เคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ มาทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ทำได้ โดยหวังสร้างรายได้ไห้แก่รัฐ เป็นความคิดแก่ได้และน่าละอาย เพราะเห็นชัดเจนในเจตนาว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น โดยผลเสียทางสังคมที่จะเกิดตามมาในระยะยาว
2. การอ้างว่าเมื่อรัฐมีรายได้จากกิจการพนันบนดินดังกล่าว แล้วจะนำรายได้มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและ เยาวชน เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนการเอาอนาคตของเด็กเยาวชนมาเป็นนเครื่องต่อรองอย่างไร้ความรับผิดชอบ และไร้แนวทางที่สร้างสรรค์
และ 3. การอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ที่เปรียบเสมือนการใช้ยาแรงเพื่อจัดการโรคร้าย เป็นการคิดฟังฝันที่ จากการคำนึงถึงความเป็นจริงว่า การที่การพนันออนไลน์แพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน มีต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงาน ดังนั้น การเพิ่มโทษดังกล่าว จึงอาจเปรียบเสมือนแรงให้แก่หมอเถื่อนที่อาจจะนำยานี้ไปใช้อย่างมิชอบ เครือข่ายเยาวชนหวังว่านายกรัฐมนตรีแนวนโยบายดังกล่าว” นางสาววศิณี กล่าว
ด้านนายบดินทร์ชัย บุญปก แกนนำเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่าตนมีโอกาสได้เจอคนที่ติดพนันออนไลน์จนเสียผู้เสียคน และพบว่ามันยากมากที่จะออกจากวงจรนี้ กลายเป็นคนที่ชอบโกหกสร้างเรื่อง หลอกลวงและจบลงด้วยการปล้นจี้ สุดท้ายก็ถูกจับสิ้นอิสระภาพ ส่วนตัวไม่เชื่อเลยว่าการมีพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือกาสิโนถูกกฎหมายแล้ว มันจะทำให้พนันออนไลน์ หรือบ่อนพนันเถื่อนจะลดลงหรือหายไป อาจจะชะงักไปช่วงหนึ่งบ้างแต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ประชาชน
“ไม่เชื่อ ดูอย่างสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าต้องพิมพ์เพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาสลากแพง พิมพ์เพิ่มจาก 30 ล้านฉบับ จนเป็น 100 ล้านฉบับสุดท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังราคาแพงอยู่ดี มันเป็นเพียงข้ออ้างที่ตั้งใจจะมอมเมากันมากกว่า เรื่องนโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ตนใคร่ขอโอกาสนี้เรียกร้องต่อรัฐมนตรีทั้งคณะรัฐมนตรีผู้ดูแลกระทรวงด้านสังคม อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นต้น พวกตนขอให้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อแนวนโยบายนี้ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลกระทบทางสังคมที่จะเกิดตามมาจากการตัดสินใจเห็นชอบกับแนวนโยบายทำลายสังคม ทำร้ายเด็กและเยาวชน” นายบดินทร์ชัย กล่าว
จากนั้นนายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวพร้อม กล่าวว่า ตนในฐานะจะนำเรื่อง ที่ร้องเรียนมาเสนอท่านนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับไปประกอบการพี่นาต่อไป
นักเศรษฐศาสตร์-เอกชน อ่านใจ กนง. ระทึกเคาะดอกเบี้ย 26 ก.พ..
https://www.matichon.co.th/economy/news_5064802
นักเศรษฐศาสตร์-เอกชน อ่านใจกนง. ระทึกเคาะดอกเบี้ย 26 ก.พ.
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ถึงแนวโน้มการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่า หากมองจาก ภายนอก ซึ่งขณะนี้นโยบายของทรัมป์ กำลังสร้างความไม่แน่นอนทางสงครามการค้า อาทิ มาตรการตอบโต้ที่เป็นในลักษณะของ ‘การต่างตอบแทน‘ หมายความว่า “คุณเก็บภาษีผมเท่าไหร่ ผมจะเก็บภาษีคุณเท่านั้น” เช่น สหภาพยุโรปที่มาการเก็บภาษีรถยนต์ 10% ในขณะที่สหรัฐเก็บภาษีรถยนต์เพียง 2-2.5% ต่อไปสหรัฐก็จะเก็บภาษีรถยนต์จากสหภาพยุโรป 10% เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ทรัมป์ได้บอกว่า เขาจะเล่นงานทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ ไทยเองก็ติดที่อันดับ 5 ในลิสต์นี้ ซึ่งทุกตัวอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็น ‘ความไม่แน่นอน‘ ทั้งสิ้น
ฉะนั้นจะเห็นว่าสงครามการค้ามันเพิ่งจะเข้าสู่ยกที่ 2-3 เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องมองให้ชัดว่า ตกลงผลกระทบจากการดำเนินมาตรการของทรัมป์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างไรบ้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งกรณีนี้ กนง. ก็คงจะต้องคอยจับตาดูสงครามการค้าว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากน้อยเพียงใด และหากเป็นไปตามสมมติฐานนี้ คิดว่ากนง.จะชะลอเรื่องการลดดอกเบี้ยลง เพื่อรอดูให้แน่ชัดถึงผลกระทบที่ไทยจะได้รับ
ขณะเดียวกัน หากมองจาก ภายใน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเองอยากให้ลดดอกเบี้ยลงอีกสักหน่อย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนนี้มองว่าหากลองชั่งน้ำหนักดู ก็คิดว่า กนง. คงจะชะลอการลดดอกเบี้ยลงเพื่อรอดูสถานการณ์ที่แน่ชัดมากกว่า อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อเป็นการเตรียมกระสุนในภาวะที่เศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่เด่นชัด ซึ่งหมายความว่า ‘
’
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่กนง.จะยังไม่เคาะลดหรือลดเบี้ยใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ใช่ แต่ส่วนตัวคิดว่าปีนี้ลงแน่ เพียงแต่ต้องรอดูสงความการค้าให้แน่ชัดก่อน มองว่าในปีนี้จะมีการลดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 1-2 ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสมมติฐาน ที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ถึงขั้นปั่นป่วน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ก็อาจจะทำให้เกิดการขึ้นดอกเบี้ยได้ แต่ ณ ขณะนี้ธนาคารกลางของสหรัฐ ยังคงอยู่ในขั้นตอนรอดูให้ชัดเพื่อที่จะเก็บกระสุนเอาไว้ แล้วถ้าหากว่าไม่ได้ร้ายแรงจนเกินไป กรณีนี้คิดว่ามีแนวโน้มที่ในการประชุม กนง. ครั้งต่อไปจะมีการปรับลดดอกเบี้ยงลง