เรามีความสุขและทุกข์ เพราะบุญและบาปที่เราทำไว้ใช่ไหมครับ หรือเป็นธรรมดาที่เราต้องเจอ ขอคำตอบชัดๆนะครับ อันใดอันหนึง

เรื่องไม่ดีที่เป็นข่าวโด่งดังในสังคมให้ระคายต่อพระศาสนา ล้วนใช้ความเชื่อของคนเป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ชาวพุทธ"จำนวนไม่น้อย" (ไม่ได้เหมารวมว่าทั้งหมด) ยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "ศ

อ้างอิงจากกระทู้นี้ https://m.pantip.com/topic/43831404/comment15-5 มีความเห็นส่วนมากสนับสนุนให้คิดแบบนี้ งง ว่าสมัยนี้ศาสนาพุทธเปลี่ยนไป พระสามารถเอาเงินทำบุญไปทำธุรกิจส่วนตัวตอนสึกได้แล้ว เจ้าขอ

จะขอพูดถึงเราๆท่านส่วนใหญ่. ที่ชอบทำบุญชอบให้ทานช่วยเหลือผู้อื่น อยู่บ่อยๆหรืออาจจะแค่ชั่วคร้้งชั่วคราวก็ตาม ที่จะพูดก็คือ หลังจากผ่านกิจกรรมการทำบุญให้ทานไปแล้ว เราอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าเรานั้นได้เ

ได้ยินบ่อยๆว่าการทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน100ครั้งเช่นปล่อยปลา ก็ไม่เท่าการทำบุญกับผู้มีศีลเพียง1ครั้งเช่นทำบุญกับพระ และการทำทาน10ครั้งก็ไม่เท่าการภาวนาอย่างมีสมาธิเพียง1ครั้ง หากเป็นอย่างนี้คนเราก็คงเลื

ผู้สารภาพพึงระมัดระวังอย่างยิ่งในการรักษาเกียรติชื่อเสียงของเพื่อนมนุษย์ขณะทำการสารภาพบาป และต้องระวังมิให้เอ่ยนามบุคคลใดเมื่อสารภาพบาปที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ทั้งนี้ ผู้สารภาพไม่พึงหาข้อแก้ตัวให้ตนเ

ปกติเราทำบุญแล้วก็จะอธิษฐานตามแต่อารมณ์ ขอให้บุญนี้เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานบ้าง ให้ได้เกิดในสวรรค์บ้าง หรือบ้างทีก็จะออกแนวไปในทางกามๆ บ้าง ในโลกนี้ก็เห็นคนที่อธิษฐานขอกับพวกเทพหรืออะไรทำนองนั้นอยู่ แ

ผมเคยด่าพระอริยะสงหลวงปูทวดผมกลัวบาปไม่อยากตกนรกรักษาศีลตลอดชีวิตจะทำให้ไม่ต้องตกนรกได้ไหมครับ

...แต่ถ้า รู้จักตั้งเจตนาที่ถูกต้อง คือ ทำใจกลางๆ ไม่ยึดตัวตนบุคคล ทำเป็นแบบสังฆทาน... ก็จะได้บุญมากกว่า แม้ได้ทำแบบส่วนตัวต่อพระพุทธเจ้า ...สมัยพุทธกาล มีตัวอย่างมากมาย ที่มีพระที่ ในตอนแรกๆ ประพฤติป