สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้เคยมีใครถึงขั้นนั่งจ้องจอไป น้ำตาจะไหลไป เพราะงานท่วม จนแทบจะหนีออกจากบริษัทกันบ้างไหมคะ? เราเองก็เป็นคนนึงที่อยู่ในสภาพแทบจะ “ถวายชีวิต” ให้บริษัทแล้วจริง ๆ บอกตรง ๆ ว่าหลายครั้งมันเหนื่อยจนอยากลาออกไปพักใจยาว ๆ แต่พอเหลียวมองเศรษฐกิจที่น่ากลัวตอนนี้ก็ชักหวั่น เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปค่ะ
ปัญหาใหญ่ระหว่างนี้ก็คือ “ตาแห้ง แสบตา” เพราะเราต้องจ้องจอคอมฯ 8-10 ชั่วโมงหรือบางวันมากกว่านั้น ยิ่งช่วงที่มีเดดไลน์รัว ๆ นี่แทบไม่ลุกจากเก้าอี้เลย หันไปพักสายตาบ้าง ก็มีกองงานอยู่ตรงหน้า สภาพตอนนี้คือดวงตาเหมือนจะรับภาระไปเต็ม ๆ ถึงจะพยายามกระพริบตาบ่อยขึ้นหรือปรับแสงหน้าจอ ก็ยังเอาไม่ค่อยจะอยู่
พอเจอแบบนี้ทุกวัน ชีวิตประจำวันก็เริ่มพัง ถามว่าอยากลาออกไหม? อยากมากเลยค่ะ แต่จะไปไหนได้ตอนนี้... เงินเดือนมันยังจำเป็น แถมยังมีค่าผ่อนนั่นผ่อนนี่ ว่าแล้วก็ทำได้แค่ตั้งสติ แล้วลองหาวิธีถนอมดวงตาในช่วงที่วิกฤตงานถล่มนี้ดูก่อน
เราเริ่มแก้ที่อาหารก่อนนะคะ หาข้อมูลว่าลูทีนกับบิลเบอร์รี่ช่วยบำรุงสายตาได้ เลยลองเสริม Innobic Lutein Bilberry+ ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่พอรวมกับการกินผักใบเขียว บล็อกโคลี กินแครอท หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อยู่เป็นประจำ ก็ดูโอเคขึ้นจากตอนแรกที่ปวดตาแทบจะร้องไห้แต่ละวัน นอกจากนี้ก็เอาน้ำตาเทียมมาหยอด ประคบตาเย็น ๆ ในช่วงพักเที่ยงสั้น ๆ บ้าง ถึงจะน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย
เรื่องตั้งแจ้งเตือนให้ละสายตาจากจอทุก 20 นาทีก็ทำอยู่เหมือนกัน พอเสียงแจ้งเตือนดัง เราก็เงยหน้าขึ้น ขยับคอ มองไกล ๆ สักนิด มันช่วยรีเฟรชสมองได้บ้าง อย่างน้อยก็รู้สึกว่าร่างกายเราไม่ได้โดนจับให้นั่งมองจอเฉย ๆ ตลอดเวลา
แต่ช่วงนี้ด้วยความเครียดจากทั้งงานและอนาคตที่ไม่แน่นอน เราเองเริ่มสนใจ “เครื่องนวดตา” ขึ้นมา เห็นรีวิวหลายคนบอกว่ามันช่วยผ่อนคลายดวงตาได้ดีมาก แถมยังช่วยลดความเมื่อยล้า เหมือนมีคนมากดจุดให้ ใครเคยลองใช้ยี่ห้อไหนแล้วเวิร์กบ้างคะ อยากขอคำแนะนำ ถ้าดีจริงจะถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพตาของตัวเองเลยนะเนี่ย
เพื่อน ๆ คนไหนมีวิธีไหนช่วยถนอมทั้งดวงตาและสภาพจิตใจตอนทำงานล้น ๆ แบบนี้บ้าง ขอแชร์กันหน่อยนะคะ บางทีแค่ได้คุยหรือระบายความอัดอั้นให้กันฟัง ก็น่าจะช่วยให้เราไม่ถอดใจง่าย ๆ จากสงครามชีวิตออฟฟิศไปซะก่อน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ระบายยาว ๆ นี้ หวังว่าพวกเราจะช่วยกันผ่านช่วงเศรษฐกิจแย่และงานกดดันไปให้ได้ สู้ไปด้วยกันนะคะ
พนักงานออฟฟิศตาแห้งบ่อย แถมงานกดดันจนอยากลาออก แต่ก็ต้องทน... ใครมีวิธีถนอมดวงตากับใจให้ไหวบ้าง?
ปัญหาใหญ่ระหว่างนี้ก็คือ “ตาแห้ง แสบตา” เพราะเราต้องจ้องจอคอมฯ 8-10 ชั่วโมงหรือบางวันมากกว่านั้น ยิ่งช่วงที่มีเดดไลน์รัว ๆ นี่แทบไม่ลุกจากเก้าอี้เลย หันไปพักสายตาบ้าง ก็มีกองงานอยู่ตรงหน้า สภาพตอนนี้คือดวงตาเหมือนจะรับภาระไปเต็ม ๆ ถึงจะพยายามกระพริบตาบ่อยขึ้นหรือปรับแสงหน้าจอ ก็ยังเอาไม่ค่อยจะอยู่
พอเจอแบบนี้ทุกวัน ชีวิตประจำวันก็เริ่มพัง ถามว่าอยากลาออกไหม? อยากมากเลยค่ะ แต่จะไปไหนได้ตอนนี้... เงินเดือนมันยังจำเป็น แถมยังมีค่าผ่อนนั่นผ่อนนี่ ว่าแล้วก็ทำได้แค่ตั้งสติ แล้วลองหาวิธีถนอมดวงตาในช่วงที่วิกฤตงานถล่มนี้ดูก่อน
เราเริ่มแก้ที่อาหารก่อนนะคะ หาข้อมูลว่าลูทีนกับบิลเบอร์รี่ช่วยบำรุงสายตาได้ เลยลองเสริม Innobic Lutein Bilberry+ ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่พอรวมกับการกินผักใบเขียว บล็อกโคลี กินแครอท หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อยู่เป็นประจำ ก็ดูโอเคขึ้นจากตอนแรกที่ปวดตาแทบจะร้องไห้แต่ละวัน นอกจากนี้ก็เอาน้ำตาเทียมมาหยอด ประคบตาเย็น ๆ ในช่วงพักเที่ยงสั้น ๆ บ้าง ถึงจะน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย
เรื่องตั้งแจ้งเตือนให้ละสายตาจากจอทุก 20 นาทีก็ทำอยู่เหมือนกัน พอเสียงแจ้งเตือนดัง เราก็เงยหน้าขึ้น ขยับคอ มองไกล ๆ สักนิด มันช่วยรีเฟรชสมองได้บ้าง อย่างน้อยก็รู้สึกว่าร่างกายเราไม่ได้โดนจับให้นั่งมองจอเฉย ๆ ตลอดเวลา
แต่ช่วงนี้ด้วยความเครียดจากทั้งงานและอนาคตที่ไม่แน่นอน เราเองเริ่มสนใจ “เครื่องนวดตา” ขึ้นมา เห็นรีวิวหลายคนบอกว่ามันช่วยผ่อนคลายดวงตาได้ดีมาก แถมยังช่วยลดความเมื่อยล้า เหมือนมีคนมากดจุดให้ ใครเคยลองใช้ยี่ห้อไหนแล้วเวิร์กบ้างคะ อยากขอคำแนะนำ ถ้าดีจริงจะถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพตาของตัวเองเลยนะเนี่ย
เพื่อน ๆ คนไหนมีวิธีไหนช่วยถนอมทั้งดวงตาและสภาพจิตใจตอนทำงานล้น ๆ แบบนี้บ้าง ขอแชร์กันหน่อยนะคะ บางทีแค่ได้คุยหรือระบายความอัดอั้นให้กันฟัง ก็น่าจะช่วยให้เราไม่ถอดใจง่าย ๆ จากสงครามชีวิตออฟฟิศไปซะก่อน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ระบายยาว ๆ นี้ หวังว่าพวกเราจะช่วยกันผ่านช่วงเศรษฐกิจแย่และงานกดดันไปให้ได้ สู้ไปด้วยกันนะคะ