ตรุษจีน ชุงโจ็ยะ (春节) วันที่ 1 เดือน 1 ตามจันทรคติจีน
เทศกาลที่ 1 ประจำปี 2568 กำลังจะเริ่มแล้ว เสียงประทัดกำลังจะดังต้อนรับปีใหม่จีนในวันพุธที่ 29 ม.ค (วันจ่าย 27 วันไหว้ 28 และวันเที่ยว 29 ม.ค. 68)
อีกเพียงสองอาทิตย์เท่านั้นค่ะ
“ไฉ่สิ่งเอี๊ย” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
“ไฉ่สิ่งเอี๊ย” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ท่านจะเสด็จลงมาประทานพรให้แก่มนุษย์โลกแต่เช้ามืดของวัน 1 ค่ำ เดือน 1 ปฏิทินจันทรคติจีน (เช้ามืดของวันที่ 29 ม.ค.นี้) ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มั่งคั่ง สมบูรณ์พูนสุขที่สุด ในวันนี้เราจะพูดแต่สิ่งดีๆที่เป็นสิริมงคล แต่งตัวสวยๆ กินเที่ยวอย่างสนุกสนาน
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนตื่นแต่เช้าใส่ชุดสวยชุดหล่อต้อนรับตรุษจีนอย่างเป็นทางการ คณะสิงโตกับเสียงกลองที่คุ้นหูดังมาแต่ไกล ส่งเสียงอวยพรสวัสดีปีใหม่กันเซ็งแซ่ “ซิงเจีย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้” ผู้ใหญ่ใจดีต่างยื่นซองอั่งเปาใส่ปากสิงโตเป็นขวัญถุงต้อนรับตรุษจีน การแสดงการต่อตัวเริ่มขึ้น ฐานล่างสุดจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่กำยำ บ่าทั้งสองข้างทำหน้าที่แบกรับการต่อตัวของเด็กหนุ่มเด็กน้อยทีละคน ทีละคน สูงขึ้น สูงขึ้น สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่อาตี๋อาหมวยทั้งหลาย..แหงนหน้ามองตามอ้าปากเหวอ (เค้าทำได้ยังไงเนี่ย ไม่กลัวตกเหรอ)
พูดถึงตรุษจีน ถ้ามี Time machine ย้อนเวลากลับไปได้ แม่นันอยากกลับไปเป็นเด็กน้อยในวันนั้น เดินจูงแขนอาอึ้ม พากันขึ้นรถสามล้อ ออกไป "ไป๊เจีย" (สวัสดีปีใหม่) ญาติผู้ใหญ่

เป็นความทรงจำที่สวยงามในวัยเด็ก คิดว่าหลายๆท่านก็คงคิดถึงวันนั้นเหมือนแม่นัน "โน๊วอ่า..ไหล่ เซียวหู่ อาอึ้ม เปา ซี้ไก่ไต่กิก คื้อ ไป๊เจี๊ย อาโกว" (ลูกจ๋า..มาช่วยแม่ห่อส้มไปสวัสดีปีใหม่คุณป้ากัน) ได้ยินเรื่องเที่ยวเด็กน้อยในวันนั้นหูผึ่งขึ้นมาทันทีค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่จะได้ใส่ชุดสวยไปนั่งรถสามล้อ เวลาคนขับบิดที..ใบหน้าเด็กน้อยก็จะได้โต้ลมสนุกสนาน ที่สนุกกว่าคือถ้าโชเฟอร์บิดแรงกว่านั้น..ก้นเราก็จะกระเด้งลอยออกจากเบาะ อาอึ้มต้องคอยจับอาหมวยไว้ (กลัวลูกลอย)
ญาติผู้ใหญ่เมื่อได้รับห่อส้มพร้อมคำสวัสดีปีใหม่ “ซิงเจี่ย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้” จากเราแล้ว ท่านก็จะแกะปลายผ้าออก หยิบส้มออกมาสองผล แล้วใส่ผลใหม่ห่อคืนให้ครบสี่ ผูกให้เรียบร้อย ยื่นกลับพร้อมอวยพรกลับให้พวกเรา ล้วงกระเป๋าหยิบเอาซองอั่งเปาสีแดง/ สีชมพูออกมาแต๊ะเอียให้อาหมวยน้อยคนนี้ ถ้าในบ้านที่เราไปเยี่ยมมีเด็กอยู่ด้วย อาอึ้มก็จะให้อั่งเปากับเด็กในบ้านด้วยเช่นกัน เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆมีความสุขที่สุด ขากลับได้อั่งเปามาหลายซอง ได้ของเล่นเป็นดาบไม้ยาวๆปลายสีแดง ได้ป๋องแป๋งด้วย เดินหมุนไปตลอดทาง
โตขึ้นมาถึงวัยเรียนหนังสือ พอถึงวันตรุษจีนที คุณครูก็จะให้หยุดทีละหลายๆวัน สมัยนั้นวันตรุษจีนเป็นวันหยุดพิเศษให้เหล่าอาตี๋อาหมวยในประเทศไทยทั้งหลายได้ไปกราบไหว้บรรพบุรุษ หยุดทีเป็นอาทิตย์เลยค่ะ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และเที่ยวต่ออีกยาวๆ เปิดเรียนมายังหนีบเป็ดไก่ขนมนมเนยมาฝากเพื่อนเยอะแยะ
ตอนเด็กแม่นันเคยถามอาอึ้มว่า ผู้ใหญ่ต้องให้อั่งเปาเด็กๆทุกปีเลยเหรอคะ ถ้าหนูโตแล้ว เรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว จนหนูแต่งงานแล้ว ก็ยังได้อั่งเปาเหมือนเดิมเหรอคะ
อาอึ้มตอบว่า "บ๊อหน่อ อู่คังข่วยจ่อ อู่กังจือ จู่เตียะ แต้ะอั่งเปา โห่วแป่ไอ๊ โห่วซุงหม่วย" (ไม่ใช่อย่างนั้น พอหนูโต มีงานทำ มีเงินเดือน ก็ต้องให้อั่งเปาพ่อแม่ ให้น้องๆหลานๆ เพราะถือว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แล้ว)
อาอึ้มพูดไว้ไม่ผิดเลยค่ะ ....ในวันตรุษจีนปีหนึ่ง แม่นันขับรถจากกรุงเทพ เพื่อจะนำอั่งเปาไปให้อาอึ้มที่บ้านสามพราน ขณะกำลังจะถึงหน้าบ้าน หลานๆได้ยินเสียงรถอาอี๊/อาโกวคนนี้ เด็กๆต่างวิ่งกรูออกมาหน้าบ้านพร้อมตะโกนอวยพรให้ได้ยินแต่ไกล "ซิงเจี่ย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้ อั่งเปา ตั่วๆ ไก๊" คำว่า “อั่งเปา ตั่วตั่วไก๊” หมายถึง ซองแดงซองใหญ่ๆ (ด้วยนะ)
แม่นันเห็นแล้วอดชำเลืองซองแดงในกระเป๋าตัวเองไม่ได้ (จะพอแจกมั้ยเนี่ย) ขำเด็กๆด้วย แม่นันจึงแกล้งเบรครถแล้วขับถอยหลังช้าๆ ประมาณว่า "ถอยดีกว่า"
เด็กๆวิ่งไล่ตาม..โบกไม้โบกมือไม่ให้กลับ อาอึ้มเดินตามหลานๆออกมา แม่นันเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของอาอึ้ม.. เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมาก
โห..หลานแม่นันเยอะมาก เยอะจริงๆ ตรุษจีนทียั้วเยี้ยไปหมด ปีที่แล้วนั่งนับกับอาหลักแจ้ (พี่สาวคนที่หก) นับวนไปวนมาเรามีหลานเหลนถึง 46 คนแล้ว (ยังไม่รวมที่เกิดใหม่ปีนี้ปีนู้นอีกนะคะ) แม่นันมีพี่น้อง 10 คน แม่นันคนเล็ก หลานคนโตอายุเท่าแม่นัน ลูกแม่นัน (อาตั่วตี๋ โซ้ยตี๋) มีศักดิ์เป็นอากู๋/อาเจ็กตั้งแต่อยู่ในท้อง
ตรุษจีน เทศกาลแรกของปีใกล้เข้ามาแล้วค่ะ
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนตื่นแต่เช้าใส่ชุดสวยชุดหล่อต้อนรับตรุษจีนอย่างเป็นทางการ คณะสิงโตกับเสียงกลองที่คุ้นหูดังมาแต่ไกล ส่งเสียงอวยพรสวัสดีปีใหม่กันเซ็งแซ่ “ซิงเจีย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้” ผู้ใหญ่ใจดีต่างยื่นซองอั่งเปาใส่ปากสิงโตเป็นขวัญถุงต้อนรับตรุษจีน การแสดงการต่อตัวเริ่มขึ้น ฐานล่างสุดจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่กำยำ บ่าทั้งสองข้างทำหน้าที่แบกรับการต่อตัวของเด็กหนุ่มเด็กน้อยทีละคน ทีละคน สูงขึ้น สูงขึ้น สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่อาตี๋อาหมวยทั้งหลาย..แหงนหน้ามองตามอ้าปากเหวอ (เค้าทำได้ยังไงเนี่ย ไม่กลัวตกเหรอ)
เป็นความทรงจำที่สวยงามในวัยเด็ก คิดว่าหลายๆท่านก็คงคิดถึงวันนั้นเหมือนแม่นัน "โน๊วอ่า..ไหล่ เซียวหู่ อาอึ้ม เปา ซี้ไก่ไต่กิก คื้อ ไป๊เจี๊ย อาโกว" (ลูกจ๋า..มาช่วยแม่ห่อส้มไปสวัสดีปีใหม่คุณป้ากัน) ได้ยินเรื่องเที่ยวเด็กน้อยในวันนั้นหูผึ่งขึ้นมาทันทีค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่จะได้ใส่ชุดสวยไปนั่งรถสามล้อ เวลาคนขับบิดที..ใบหน้าเด็กน้อยก็จะได้โต้ลมสนุกสนาน ที่สนุกกว่าคือถ้าโชเฟอร์บิดแรงกว่านั้น..ก้นเราก็จะกระเด้งลอยออกจากเบาะ อาอึ้มต้องคอยจับอาหมวยไว้ (กลัวลูกลอย)
โห..หลานแม่นันเยอะมาก เยอะจริงๆ ตรุษจีนทียั้วเยี้ยไปหมด ปีที่แล้วนั่งนับกับอาหลักแจ้ (พี่สาวคนที่หก) นับวนไปวนมาเรามีหลานเหลนถึง 46 คนแล้ว (ยังไม่รวมที่เกิดใหม่ปีนี้ปีนู้นอีกนะคะ) แม่นันมีพี่น้อง 10 คน แม่นันคนเล็ก หลานคนโตอายุเท่าแม่นัน ลูกแม่นัน (อาตั่วตี๋ โซ้ยตี๋) มีศักดิ์เป็นอากู๋/อาเจ็กตั้งแต่อยู่ในท้อง