สำรวจกำลังซื้อคนไทยปลายปี คนซื้อหาย-คนขายหด จากปัญหาเศรษฐกิจส่งผลต่อรายได้ ทำให้ใช้จ่ายซบเซา
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/429658

อีกไม่กี่วัน เราจะก้าวสู่ปีใหม่กันแล้ว การจับจ่ายโดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ท่ามกลางความรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาวะเศรษฐกิจ อ้างอิงจากนิด้าโพล ที่สำรวจคนไทยเหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้างในปี 2567 พบว่า เกินครึ่งเป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อรายได้ ทำให้การใช้จ่ายซบเซา ไม่ใช่แค่คนซื้อที่หายไป ร้านเอง ก็ล้มหายไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน เราจะไปฟังจากปากพ่อค้า-แม่ค้ากัน
 
คุณสมชาย พรรัตนเจริญ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง – ปลีกไทย ที่เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ช่วงปีใหม่ ค้าปลีกในกลุ่มโชห่วย ค้าปลีกรายย่อย และร้านค้าดั้งเดิม ไม่คึกคัก เพราะกำลังซื้อระดับล่างไม่ดี มีข่าวลบมาต่อเนื่อง ทั้งการปิดโรงงาน การเลิกจ้าง ทำคนไม่มีอารมณ์จะใช้จ่าย จากปกติจะต้องเห็นการซื้อหาสินค้ากันตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสและยาวไปถึงปีใหม่ แต่ปีนี้เงียบ! แทบไม่เห็นรถขนส่งสินค้าออกต่างจังหวัด การจัดงานสร้างสรรค์ก็มีน้อยลง แม้จะมีข่าวดี การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้นปีนี้ แต่มองว่าไม่ได้ส่งผลให้เกิดการจับจ่ายเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะขึ้นเพียงเล็กน้อย และวันนี้สินค้าแพงแซงค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว และต้นปียังต้องเตรียมรับมือกับราคาสินค้าที่จะขึ้นกันอีกระลอก ชัดเจนแล้วก็กลุ่มกาแฟสำเร็จรูป ที่จะปรับขึ้นอีก 5 ถึง 6% ขณะที่สินค้าหลายตัว ใช้วิธีทยอยปรับขึ้นราคาทีละน้อย

---

ช่อ พรรณิการ์ นำทีมผู้สมัคร นายกฯ-ส.อบจ. ปราจีน หาเสียงขอโอกาสรับใช้ ปลื้มผลตอบรับดี
https://www.matichon.co.th/region/news_4978503

ช่อ พรรณิการ์ นำทีมผู้สมัคร นายกฯ-ส.อบจ. ปราจีนหาเสียง ขอโอกาสรับใช้ ปลื้มผลตอบรับดี
 
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ว่า พรรคประชาชนนำโดย ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง พรรคประชาชน นำทีมผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรีและ ส.อบจ. หาเสียงที่ตลาดสดพระปรงและตลาดสดทิปท็อปกบินทร์บุรี เดินเท้าแจกโบรชัวร์แนะนำตัวผู้สมัครในนามพรรคประชาชน สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ที่ได้พบกับช่อในวันนี้ แฟนคลับได้ขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นไว้เป็นที่ระลึก วันนี้ได้แนะนำตัวผู้สมัครว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี นายจำรูญ สวยดี เบอร์ 2
 
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ได้รับการตอบรับดีมาก ถ้าพูดว่าก้าวไกลพรรคประชาชนจะได้รับการตอบรับเยอะในปราจีนบุรี คนทั่วไปอาจจะนึกไม่ถึง แต่ถ้าเรามาถึงในพื้นที่จริงๆแล้ว ต้องบอกว่าวันนี้ได้รับขวัญและกำลังใจจากพี่น้องประชาชนปราจีนบุรี มีคนเข้ามาทักทายหลายคน บอกว่าเลือกมาตั้งแต่อนาคตใหม่ หลายคนบอกว่าเสียดายมากที่ก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นความหวังของเราว่าครั้งนี้ อบจ.ปราจีนบุรีพวกเราจะได้มีโอกาสมารับใช้พี่น้องประชาชนชาวปราจีนบุรี
 
“ปราจีนบุรีมีธรรมชาติสวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ และเป็นเส้นทางหลักสู่ ชายแดนไทย – กัมพูชา แต่ยังขาดโอกาส หลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผู้บริหารทำอะไรกัน ปล่อยปละละเลยโอกาสได้ผ่านไป พวกเราเสียดายโอกาส เสียดายเวลาที่พี่น้องปราจีนบุรีควรจะได้รับโอกาสที่ดีๆ”
 
นายจำรูญ สวยดี ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี เบอร์ 2 เดินแจกแผ่นพับหาเสียงพร้อมนโยบายด้านต่างๆ อาทิ การให้บริการประชาชนในเขตชุมชนขนาดใหญ่ แหล่งนิคมอุตสาหกรรมหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี หรือ ย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ มีศูนย์บริการทางการแพทย์เมื่อเจ็บป่วยไม่ต้องแออัด, การจัดบริการเดินรถเมล์เพื่อการคมนาคม และการบริการน้ำประปาสะอาดดื่มได้สู่ชุมชนท่ามกลางการตอบรับจากประชาชน
 
จากการสอบถามนางดาวรุ่ง แม่ค้าขายผักกล่าวว่า อยากได้นายก อบจ. เป็นคนดีเข้ามาบริหารจังหวัดเราให้เข้าถึงประชาชน พัฒนาบ้านเมืองเพื่อประชาชน
 
นางบัวศรี แสงพันมา แม่ค้าขายข้าวโพดกล่าวว่า อยากได้นายก อบจ. ที่เข้าถึงประชาชน ดูแลทุกข์สุขของประชาชน และเป็นคนดีของประชาชน ตอนนี้ยังไม่มีเบอร์ผู้สมัครในใจว่าจะเลือกใคร ต้องรอดูว่ามีผู้สมัครใครบ้างแล้วจะตัดสินใจว่าจะเลือกใคร

---

วิโรจน์ ควง ‘มานะ’ ลุยหาเสียง ประกาศปักธงส้ม อบจ.จันทบุรี สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9570776

วิโรจน์ ควง “มานะ ชนะสิทธิ์” ลุยหาเสียง ประกาศปักธงส้ม อบจ.จันทบุรี ชูนโยบายโดรนเฝ้าระวังช้างป่า อาสาปลอดภัยได้กลับบ้าน-หมอออนไลน์ ระบายแออัดรพ.
 
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2567 ที่อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วย นายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จันทบุรี พรรคประชาชน ขึ้นรถปราศรัยหาเสียงรอบบริเวณตลาดสันทราย
โดยนายวิโรจน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วลีที่ว่า 28 ปี จันทบุรีดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน หรือทำอะไรแล้ว นั่นเป็นเรื่องจริงหรือ ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลประจำจังหวัด แออัด คนก็ยังต้องเข้าคิวต่อคิวตั้งแต่ตอนเช้า ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ทำไมคนจันทบุรี หาหมอดีใกล้บ้านไม่ได้
 
นอกจากนี้ ทำไมคนจันทบุรีจึงถูกโขลงช้างป่าบุกสวนรุกสวนผลไม้ หรือมีข่าวว่าถูกช้างกระทืบเสียชีวิต พวกเราพรรคประชาชน และผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน เชื่อว่าจันทบุรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ได้
 
อย่าให้ใครมาหลอกเราว่า จันทบุรีดีอยู่แล้ว เพราะคนเหล่านั้นต้องการให้เราอยู่ในวังวนที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร แล้วพวกเขาก็จะได้ผลประโยชน์เดิมๆ เหมือนกับที่หลายสิบปี ที่เขาได้มา ถึงเวลาแล้ว ไม่มีโอกาสไหน เวลาไหนดีกว่านี้อีกแล้ว ที่จันทบุรีจะไปข้างหน้า จะพัฒนาให้ไปไกลกว่าเดิม
 
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ของเรา พร้อมจัดสรรงบประมาณในการจัดทำแหล่งน้ำเพิ่มเติม จันทบุรีฝนตกชุก ถ้าใส่ใจกับระบบกักเก็บน้ำ ถ้าน้ำพอน้ำถึงเชื่อว่าจะเปลี่ยนน้ำเป็นผลไม้ เปลี่ยนผลไม้เป็นการส่งออกมูลค่ามหาศาล หมุนเวียนเศรษฐกิจจันทบุรี ให้ทุกคนมั่งคั่ง มั่งมี ไปด้วยกัน
นายวิโรจน์ ปราศรัยถึงนโยบายแก้ปัญหาช้างป่าว่า หากเรามีนโยบายสนับสนุนโดรนให้อาสาสมัครเฝ้าระวังช้าง พวกเขาจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย สวนทุเรียนของทุกคนจะรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ไม่ต้องกลัวช้างรุกสวน
 
ขณะที่นโยบายเรื่องโรงพยาบาล ถ้าได้รับการสนับสนุน มีหมอเก่งๆ เจ้าหน้าที่ดีๆ ถ้าลงทุนสนับสนุน ชาวจันทบุรีจะได้หาหมอดีๆ ใกล้บ้าน มีหมอออนไลน์ จากอบจ.จันทบุรี มาช่วยตรวจวินิจฉัย ไม่ต้องแออัด ที่โรงพยาบาล
 
ทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับงบประมาณ 700-800 ล้านบาทต่อปี โดย 4 ปี รวมก็เกือบ 3 พันล้านบาท ดังนั้น ได้เวลา ปักธงสีส้ม 1 ก.พ. กาเบอร์ 1 ทั้งนายก และทั้ง สมาชิก อบจ. พาจันทบุรีให้ไปไกลกว่านี้ ดีกว่าเดิม อย่าเชื่อว่าจันทบุรีเปลี่ยนไม่ได้ ส่งนายมานะ เป็นนายก อบจ.จันทบุรี คนใหม่

---

โรม มอง ภูมิธรรม ยกตัวเลขปราบยาเสพติด 6 เดือน ชี้ สักแต่สั่ง-พูด ลั่น เรื่องน่าซักฟอกมีอื้อซ่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4978653

โรม มอง ภูมิธรรม ยกตัวเลขปราบยาเสพติด 6 เดือน เย้ย สักแต่สั่ง-พูด กลายเป็นรบ.ที่ดีแต่พูดไปแล้ว ลั่น เรื่องน่าซักฟอกมีอื้อซ่า หวั่น เวลาไม่พอพูด
 
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม พูดถึงตัวเลข 6 เดือน ในการปราบยาเสพติด ว่า กรณีรัฐบาล สั่งให้ปราบยาเสพติดไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกรัฐบาลพูดหมด แต่ต้องแยกระหว่างพูดกับทำจริง ซึ่งปัญหานี้ หากพิเคราะห์ต้องดูที่ต้นตอว่าทำไมไม่สามารถปราบได้ โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินต่างๆ ทุกวันนี้ขบวนการยาเสพติด ไม่เหมือนเมื่อก่อน มันมีความสลับซับซ้อน มีการใช้เทคโนโลยี ถ้าไม่มีการปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนการปฏิบัติ การแก้ปัญหาของเราจะล้าหลังมาก ซึ่งปัญหานี้
 
หากพิเคราะห์ต้องดูที่ต้นตอ คือ 1.ต้องเริ่มต้นทำให้ทรัพยากรของชาติ ไม่ต้องไปอยู่ในมือของผู้ค้ายาเสพติดก่อน ทุกวันนี้ ไฟฟ้าของประเทศไทย ตกไปอยู่ในมือขบวนการว้า แหล่งยาเสพติดใหญ่ที่สุดในโลก หรือไม่ นายภูมิธรรม ต้องดูด้วย ว่าไทยไม่ใช่แค่ปลายทาง แต่ยังเป็นทางผ่าน ไทยแทบจะเป็นแบตเตอรี่ให้ขบวนการยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยซ้ำไป
 
2. เรื่องการรุกล้ำของว้า อาจล้ำเขตแดนไทย ความชัดเจนในเรื่องนี้ยังไม่มีว่าตกลงเอาอย่างไร หมายความว่า รัฐบาลกำลังส่งสัญญาณว่า อย่าว่าแต่ปราบขบวนการยาเสพติดเลย วันนี้ยังให้ขบวนการค้ายาเสพติดเข้ามาในดินแดนไทย ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้
 
“กลายเป็นว่า รัฐบาลไม่มีความชัดเจนอะไร สักแต่สั่ง สักแต่พูด ดีแต่พูด มันกลายเป็นรัฐบาลที่ดีแต่พูดไปแล้ว ตนก็ไม่เชื่อว่า เรื่องยาเสพติดจะได้ผลอย่างจริงจัง ถ้าตราบใดขบวนการค้ายาเสพติด เหล่านี้ไม่ถูกกำราบ” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า และ3.ประการสุดท้าย เรื่องเส้นทางลำเลียง วันนี้ไม่มีแค่มาจากแค่ฝั่งตกวันตกของไทย แต่ถ้าถ้าเราไม่มีมาตรการป้องกันการขนยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ เราปราบปรามเรื่องยาเสพติดไม่ได้ และบทสรุปแก้ปัญหาต้องคำนึงถึงต่างประเทศด้วย และทุ่มทรัพยากร หลายๆกระทรวง ทั้งกระทรวงต่างประเทศ กลาโหม รวมถึงตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ตนพูดมาก็อาจจะเกี่ยวกับพรรคการเมืองบางพรรค ที่ดูแลคนละกระทรวงด้วย ดังนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่เป็นวาระสำคัญที่รัฐบาล จะสักแต่พูดไม่ได้
 
เมื่อถามว่า เรื่องปรายาเสพติดปัญหา จะถูกนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับ ตอนนี้มีเรื่องให้อภิปรายเยอะมากๆ สมมติแค่ว่า ถ้าเอาแค่เป็นซีรีส์ผิดสัญญา นี่มันก็เยอะแยะเต็มไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้พรรคปชน.เรายังไม่ตัดสินใจ โดยอยู่ระหว่างการ พิจารณาว่า จะมีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องอภิปราย แต่ตนเป็นห่วงจริงๆ ว่า เวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมันจะไม่พอ เพราะรัฐบาล ทำสิ่งที่ผิดพลาดหลายเรื่อง และทำผิดพลาดเรื่อยมา