เปิดฤดูกาแฟ “โรบัสต้า” ภาคใต้โค้งแรกพุ่งทะลุ 220 บาท/กก. ห่างจากปีแล้วเท่าตัวเกินกว่า 100 บาท

ส่วนตัวปลูกอาราบิก้า ♥️🕳️❤️

เปิดฤดูกาแฟ “โรบัสต้า” ภาคใต้โค้งแรกพุ่งทะลุ 220 บาท/กก. ห่างจากปีแล้วเท่าตัวเกินกว่า 100 บาท กูรูชี้คาดโค้งสุดท้ายทะลุเกิน 250 บาท แห่จองต้นพันธุ์ สะท้อนผ่านยอดจอง “ศูนย์ผลิตต้นพันธุ์กาแฟรายใหญ่” จ.ชุมพร ผลิตต้นพันธุ์ไม่ทันต้องสั่งจองล่วงหน้ากันข้ามปีถึงปี 2568



“ที่ผ่านมากาแฟที่ผลิตภายในประเทศไทยยังไม่พอต่อการบริโภค 80,000-90,000 ตัน/ปี แต่ไทยสามารถผลิตได้ประมาณ 20,000 ตัน ทางภาคใต้ปลูกสายพันธุ์โรบัสต้าเกือบ 7,000 ตัน ส่วนภาคเหนือเป็นสายพันธุ์อราบิก้ากว่า 10,000 ตัน จึงต้องมีการนำเข้าถึง 60,000-70,000 ตัน”

แหล่งข่าวจากกลุ่มส่งเสริมเกษตรกรปลูกกาแฟเปิดเผยว่า ฤดูกาลกาแฟปี 2567/2568 ได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยเมล็ดกาแฟเชอรี่ ราคาประมาณ 25 บาท/กก. จากเดิม 7-8 บาท ทั้งนี้ ในการแปรรูปเมล็ดกาแฟเชอรี่ 10 กก. จะได้กาแฟสารประมาณ 1 กก. ปี 2568 กาแฟสารมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเกือบเท่าตัว หากเมล็ดเชอรี่ 25 บาท/กก. กาแฟสารจะขายได้ราคาประมาณ 250 บาท/กก.

ทางด้านนายไพรวัลย์ ชูใหม่ อดีตนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ เกษตรจังหวัดพัทลุง ที่ปรึกษาทำสวนการเกษตร เปิดเผยว่า ราคากาแฟในปี 2567/2568 ตอนนี้ซื้อขายกันกว่า 220 บาท/กก. จากปีที่แล้ว 2566 โค้งสุดท้ายราคาปรับขึ้นไปที่ 140-160 บาท/กก. เทียบกับปี 2565 ราคาอยู่ที่ประมาณ 80 บาท/กก.

ทั้งนี้ ปัจจุบัน จ.พัทลุงส่วนใหญ่ปลูกกาแฟแซมตามสวนยาง ประมาณ 3,000 ต้น โดยอำเภอที่ปลูกจะอยู่ริมเทือกเขาบรรทัด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เช่น อ.กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต และ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง

“ในกลุ่มผมได้มีการศึกษาและติดตามสถานการณ์กาแฟมาอย่างต่อเนื่อง และในกลุ่มก็ทำสวนกาแฟ โดยปลูกสายพันธุ์อราบิก้า แซมร่วมการปลูกยางพารา จำนวน 40-50 ต้น แต่ปรากฏความสมบูรณ์ไม่สามารถแข่งขันกับสายพันธุ์อราบิก้าของ จ.เชียงใหม่ได้ เนื่องจากเนื้อกาแฟบาง ถึงแม้ว่าหอมก็ตาม เพราะพื้นที่ต่ำ ขณะที่กาแฟอราบิก้าของภาคเหนือปลูกพื้นที่สูงบนภูเขาที่ตรงกับบริบทกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าจึงได้คุณภาพ” นายไพรวัลย์กล่าว

https://www.prachachat.net/local-economy/news-1723811
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่