Interstellar: ทะยานดาวกู้โลก
กำกับโดย Christopher Nolan
ในวาระครบรอบ 10 ปี เรื่อง Interstellar (2014) ยอมรับว่า ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนัง ซึ่งตอนที่ดูผ่านทีวีก็รู้สึกว่าหนังสนุกและว้าวมาก
ครั้งนี้มีโอกาสรับชมในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง ทำให้เรารู้ว่าประสบการณ์จากทีวีและโรง IMAX นั้นคนละเรื่อง !
Interstellar - Official Trailer 10th Anniversary
ความรู้สึกหลังชม
- นับตั้งแต่ปีที่หนังออกฉาย ณ เวลานี้หนังมีอายุครบถ้วน 10 ปี ความรู้สึกหลังจากได้รับชมยังคงประทับใจเช่นเดิม เพิ่มเติมคือ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ที่อินเพิ่มขึ้น (ตามตัวเลขอายุ 😂)
-
Interstellar (2013) พรรณนาเรื่องราวโลกในอนาคตที่ใกล้ล่มสลายส่งผลให้มนุษย์ต้องหาบ้านหลังใหม่นอกเหนือจาก
"โลก" ผ่านการเดินทางสำรวจอวกาศ
ไอเดียของโนแลนเต็มไปด้วยจินตนาการสุดทะเยอทะยาน ไม่ว่าจะการพูดถึงความเข้าในเรื่องกฏฟิสิกส์และแรงโน้ทถ่วง ทฤษฏีสัมพันธภาพ เวลา หลุมดำ รูหนอน และมิติที่ 5 ไปถึงเรื่องนามธรรมอย่างสายสัมพันธ์ ความรัก ความอบอุ่น
อันสะท้อนว่า แม้ว่าวิทยาการของมนุษย์จะไปไกลมากเพียงใด แต่การให้ความสำคัญกับ "ความรักและสายสัมพันธ์" ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยในสัญชาตญาณมนุษย์
Interstellar จึฝเป็นหนังที่พูดถึงสิ่งที่ไปไกลที่สุดกระทั่งแสงอาจไปไม่ถึงอย่างอวกาศ หลุมดำ และพูดถึงสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดอย่าง "ความรัก" ผสมผสานได้อย่างคมคาย
Interstellar 4K HDR IMAX | Into The Black Hole - Gargantua 1/2
- ส่วนถัดมา โนแลนเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เชี่ยวชาญในการทำ
"ภาพยนตร์ไซไฟ" ที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์
"ไอเดียการสร้างโลกจินตนาการ" (Worldbuilding) ของโนแลนเต็มไปด้วยตรรกะที่ละเอียดแน่นหนาเคร่งครัดทำให้งานของเขามีความเป็นเหตุเป็นผลสูง
ยกตัวอย่างการจำลองภาพของ
"วัตถุความโน้มถ่วงสูงยิ่งยวด" อย่างหลุมดำที่สมจริงตามทฤษฏีทางฟิสิกส์
หรือการเดินทางในอวกาศผสมผสานกับ
"ทฤษฏีสัมพันธภาพ" ที่กล่าวว่า เวลาในแต่ละสถานที่อาจแตกต่างกันได้จากผลของแรงโน้มถ่วง ส่งผลกับตัวละครในเรื่องที่ต้องรอคอยบนโลกอย่างยาวนานน่าเจ็บปวด
จินตนาการที่เกิดขึ้นใน Interstellar ผสมกับเทคนิคการเล่าอันแม่นยำ การวางพล็อตเรื่อง การสร้างจุดทวิสต์เซอร์ไพร์สคนดู ทำให้หนังทำงานกับผู้ชมได้เยี่ยม เปี่ยมด้วยสมบูรณ์
Interstellar – Building A Black Hole – Official Warner Bros.
- ชอบการใช้ภาพ เสียง และดนตรีประกอบ
แม้ว่าจะผ่านมา 10 ปี แต่องค์ประกอบด้านภาพและเสียงยังคงงดงาม หนังถ่ายทอดความยิ่งใหญ่และความอ้างว้างของจักรวาลได้อย่างอลังการ
เช่น การฉายยานลำเล็ก ๆ ที่กำลังล่องไปในอวกาศ ขณะที่ใช้ดนตรีประกอบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงความเงียบของจักรวาล
หรือการกลับมาโหมกระหน่ำด้วยเบสต่ำและธีมดนตรีหลักในซีนสำคัญ เช่น ฉากปล่อยจรวด ฉากผ่านดาวเสาร์ ห้วงเวลาขณะเข้ารูหนอน ฉากเข้า Docking และหลุมดำ
นอกจากนี้ธีมดนตรีของ
Hans Zimmer ยังการพรรณนาห้วงอารมณ์แห่งอวกาศ ดวงดาว และความหวังได้ดี สอดคล้องกับคอนเซปต์หลักของเรื่อง
โดยรวม หนังเรื่องนี้มี
"พลังทางภาพยนตร์" สูงผ่านการอาศัยองค์ประกอบทางภาพและเสียง ส่วนตัวแนะนำใน
IMAX with Laser (หนึ่งในระบบฉายภาพยนตร์ที่สุดในปัจจุบัน) เพื่ออรรถรสทางภาพและเสียงที่ดีที่สุดในการรับชม
(ยังสงสัยว่า ตอนดูรอบแรก ดูผ่านทีวีเสียงแตก ๆ มาได้อย่างไร 😂)
Interstellar Official Soundtrack | Full Album – Hans Zimmer | WaterTower
- หนังให้แรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านฟิสิกส์ที่ทำให้รู้ว่า
"ความทะเยอทะยานของมนุษย์ไม่มีทีสิ้นสุด ไอเดียใหม่ ๆ เป็นไปได้เสมอตราบเท่าที่เราฝันและทำมัน"
- ส่วนตัวมองว่าหนังมีส่วนน่าเสียดายอยู่บ้าง ส่วนแรกคือ การอาศัยความบังเอิญในเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยพอสมควร อีกส่วนคือ พาร์ทบนดาวบางดวงที่ยืดเกินไป ถ้าไปขยายเรื่องเกี่ยวหลุมดำที่เป็นส่วนสำคัญในช่วงของเรื่องน่าจะสมเหตุสมผลกว่า
สรุป
บอกได้คำเดียวว่า
"ประทับใจ" คุ้มค่ากับการรอคอย 10 ปีในการได้มารับชมในโรง IMAX
อาจไม่ใช่เรื่องที่ชอบที่สุดของโนแลน แต่ต้องชมว่า โนแลนทำเรื่องออกมาด้วยสมดุลเรื่องที่ดีและสมบูรณ์
ใครสนใจแนะนำเลย อย่าลืมรับชมใน IMAX!
____________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
Lemon8: BENJI Review
IG: benjireview
Interstellar (2014) - ห้วงอวกาศแสนอ้างว้าง หลุมดำ และพลังแห่งรัก
- นับตั้งแต่ปีที่หนังออกฉาย ณ เวลานี้หนังมีอายุครบถ้วน 10 ปี ความรู้สึกหลังจากได้รับชมยังคงประทับใจเช่นเดิม เพิ่มเติมคือ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ที่อินเพิ่มขึ้น (ตามตัวเลขอายุ 😂)
ไอเดียของโนแลนเต็มไปด้วยจินตนาการสุดทะเยอทะยาน ไม่ว่าจะการพูดถึงความเข้าในเรื่องกฏฟิสิกส์และแรงโน้ทถ่วง ทฤษฏีสัมพันธภาพ เวลา หลุมดำ รูหนอน และมิติที่ 5 ไปถึงเรื่องนามธรรมอย่างสายสัมพันธ์ ความรัก ความอบอุ่น
อันสะท้อนว่า แม้ว่าวิทยาการของมนุษย์จะไปไกลมากเพียงใด แต่การให้ความสำคัญกับ "ความรักและสายสัมพันธ์" ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยในสัญชาตญาณมนุษย์
Interstellar จึฝเป็นหนังที่พูดถึงสิ่งที่ไปไกลที่สุดกระทั่งแสงอาจไปไม่ถึงอย่างอวกาศ หลุมดำ และพูดถึงสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดอย่าง "ความรัก" ผสมผสานได้อย่างคมคาย
"ไอเดียการสร้างโลกจินตนาการ" (Worldbuilding) ของโนแลนเต็มไปด้วยตรรกะที่ละเอียดแน่นหนาเคร่งครัดทำให้งานของเขามีความเป็นเหตุเป็นผลสูง
ยกตัวอย่างการจำลองภาพของ "วัตถุความโน้มถ่วงสูงยิ่งยวด" อย่างหลุมดำที่สมจริงตามทฤษฏีทางฟิสิกส์
หรือการเดินทางในอวกาศผสมผสานกับ "ทฤษฏีสัมพันธภาพ" ที่กล่าวว่า เวลาในแต่ละสถานที่อาจแตกต่างกันได้จากผลของแรงโน้มถ่วง ส่งผลกับตัวละครในเรื่องที่ต้องรอคอยบนโลกอย่างยาวนานน่าเจ็บปวด
จินตนาการที่เกิดขึ้นใน Interstellar ผสมกับเทคนิคการเล่าอันแม่นยำ การวางพล็อตเรื่อง การสร้างจุดทวิสต์เซอร์ไพร์สคนดู ทำให้หนังทำงานกับผู้ชมได้เยี่ยม เปี่ยมด้วยสมบูรณ์
แม้ว่าจะผ่านมา 10 ปี แต่องค์ประกอบด้านภาพและเสียงยังคงงดงาม หนังถ่ายทอดความยิ่งใหญ่และความอ้างว้างของจักรวาลได้อย่างอลังการ
เช่น การฉายยานลำเล็ก ๆ ที่กำลังล่องไปในอวกาศ ขณะที่ใช้ดนตรีประกอบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงความเงียบของจักรวาล
หรือการกลับมาโหมกระหน่ำด้วยเบสต่ำและธีมดนตรีหลักในซีนสำคัญ เช่น ฉากปล่อยจรวด ฉากผ่านดาวเสาร์ ห้วงเวลาขณะเข้ารูหนอน ฉากเข้า Docking และหลุมดำ
นอกจากนี้ธีมดนตรีของ Hans Zimmer ยังการพรรณนาห้วงอารมณ์แห่งอวกาศ ดวงดาว และความหวังได้ดี สอดคล้องกับคอนเซปต์หลักของเรื่อง
โดยรวม หนังเรื่องนี้มี "พลังทางภาพยนตร์" สูงผ่านการอาศัยองค์ประกอบทางภาพและเสียง ส่วนตัวแนะนำใน IMAX with Laser (หนึ่งในระบบฉายภาพยนตร์ที่สุดในปัจจุบัน) เพื่ออรรถรสทางภาพและเสียงที่ดีที่สุดในการรับชม
(ยังสงสัยว่า ตอนดูรอบแรก ดูผ่านทีวีเสียงแตก ๆ มาได้อย่างไร 😂)
- ส่วนตัวมองว่าหนังมีส่วนน่าเสียดายอยู่บ้าง ส่วนแรกคือ การอาศัยความบังเอิญในเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยพอสมควร อีกส่วนคือ พาร์ทบนดาวบางดวงที่ยืดเกินไป ถ้าไปขยายเรื่องเกี่ยวหลุมดำที่เป็นส่วนสำคัญในช่วงของเรื่องน่าจะสมเหตุสมผลกว่า
สรุป
อาจไม่ใช่เรื่องที่ชอบที่สุดของโนแลน แต่ต้องชมว่า โนแลนทำเรื่องออกมาด้วยสมดุลเรื่องที่ดีและสมบูรณ์
ใครสนใจแนะนำเลย อย่าลืมรับชมใน IMAX!