วงวัฏฏ์ที่กำลังจะสาบสูญ
ลองมองไปรอบๆตัวเรานะครับ ตอนนี้ก็ได้ ทุกท่านก็คงเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง บ้างก็เป็นสิ่งของ บ้างก็เป็นคน บ้างก็เป็นสัตว์ หรือบ้างก็เป็นต้นไม้ใบหญ้า บางท่านอาจจะมองเห็นห้องว่างๆ หรือบางท่านก็มองไม่เห็นอะไรเลย
นี่เป็นของที่เราๆท่านๆเห็นนะครับ เห็นด้วยตาเพราะมันยังมีอยู่ ทีนี้ลองนึกๆดูว่ามีอะไรที่มันเคยมีแล้วมันหายไป จะหลับตานึกก็ได้ หรือลืมตานึกก็ได้ เพราะเป็นการมองด้วยหัวใจ ถ้ามันอยู่ในความคิดคำนึงเราจะมองเห็นมันเสมอ
กรรไกรแบบหนึ่ง ตระกูลหนึ่งหรือสายวิชาหนึ่ง ที่สืบทอดกันมาร่วมๆสี่ห้าร้อยปีจนถึงยุคของเรา กรรไกรทาเนะ หรือกรรไกรทาเนะแท้ๆ 本種子鋏 กรรไกรทาเนะกาชิมะ กรรไกรแห่งเกาะทาเนะ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่ากรรไกรเมล็ดพันธุ์ กรรไกรชนิดนี้มีช่วงเวลาดีๆของมันร่วมกับประวัติศาสตร์งานฝีมือของญี่ปุ่น งานศิลปะ งานฝีมือ หรือแม้แต่งานทำมาหากิน ตัดผ้าตัดผัก ตัดเนื้อ ตัดกิ่งไม้ ผลไม้ บอนไซต่างๆ เรียกได้ว่าเคยเป็นกรรไกรที่อยู่ร่วมกับทุกวงการ แต่มาถึงวันนี้มันกำลังค่อยๆหายไป
กรรไกรทาเนะกาชิมะ สร้างขึ้นที่เกาะทาเนะกาชิมะ จังหวัดคาโกชิม่า กรรไกรชนิดนี้มีประวัติสืบย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่16 คือราวๆปี ค.ศ. 1543 โดยมันถูกถ่ายทอดวิทยาการทำกรรไกรนี้จากพวกโปรตุเกส พร้อมๆกับการทำปืน แบบปืนกระทุ้ง ปืนคาบศิลา
ทาเนะกาชิมะ หรือเกาะเเห่งเมล็ดพันธุ์ เป็นเกาะหรือท้องที่ชายทะเลซึ่งมีแร่เหล็กอยู่ในทราย แบบที่เรียกกันว่าแร่หยกหรือแร่ทรายเหล็ก ทามะฮากาเนะอันเลื่องชื่อแห่งแดนอาทิตย์อุทัย เหล็กชั้นดี ที่มาของดาบญี่ปุ่น
ตามประวัติแล้วกรรไกรชนิดนี้เกิดขึ้นบนเกาะญี่ปุ่นก่อนหน้ากรรไกรราชาหรือกรรไกรตัดผ้าขนสัตว์และกรรไกรบอนไซ กรรไกรดอกไม้นานหลายปีนัก มีที่มาจากบนเกาะทาเนะกาชิมะและแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันนี้ว่ากันว่าเหลือแหล่งผลิตใหญ่ที่ทำเป็นล่ำเป็นสันอยู่เพียงสามแห่ง และแห่งสำคัญที่สุดหรือสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสายวิชานี้คือยี่ห้อ มากิเสะ 牧瀬 หรือยี่ห้ออุเมกิ
กรรไกรยี่ห้อมากิเสะนี้ ทำโดยตระกูลมากิเสะซึ่งสืบเชื้อสายช่างตีดาบมานับพันปี และทำกรรไกรยี่ห้อมากิเสะมาจนถึงรุ่นสุดท้าย คือรุ่นที่ 37 ของสายตระกูลมากิเสะ ท่านโยชิฟุมิ มากิเสะ 牧瀬義文 ซึ่งได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2559 และไร้ผู้สืบเชื้อสายโดยสายเลือด ทำให้ตระกูลมากิเสะที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปีต้องสิ้นสุดลง
ในปัจจุบันกรรไกรยี่ห้อมากิเสะนี้ ยังมีอยู่โดยถูกสร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กที่ชื่อ 梅木 昌二 อูเมกิ โชจิ ศิษย์ที่สืบทอดสายวิชาจากท่านมากิเสะรุ่นที่37 ถึงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยคนของตระกูลมากิเสะ แต่กรรไกรในแบบของมากิเสะยังมีชีวิตต่อไปโดยผู้สืบสายวิชา
กรรไกรทาเนะที่เคยมีคนทำมากมายเป็นสินค้าออกของเกาะทาเนะหรือเมืองคาโกชิมะ ว่ากันว่าเคยมีร้านค้าหรือสำนักที่ทำกรรไกรชนิดนี้อยู่ถึงสามสิบแห่ง แต่ทุกวันนี้เหลืออยู่ไม่กี่แห่ง บางกระแสข่าวว่าเหลืออยู่สามแห่ง บางกระแสว่าเหลืออยู่สองแห่ง หรือบางกระแสว่าเหลือกรรไกรทาเนะแท้ๆที่ทำบนเกาะทาเนะเพียงแห่งเดียวคือสำนักมากิเสะ อีกสองยี่ห้อทำมาจากแหล่งอื่นแล้ว
ที่แน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือมันมีน้อยลงและอาจจะสูญหายไปจากต้นตอหรือแหล่งกำเนิดดั้งเดิมของมัน ถ้ามันยังมีอยู่แต่สร้างขึ้นจากที่อื่นมันจะยังเป็นกรรไกรทาเนะไหม ? ไข่เค็มไชยาถ้าทำที่ลพบุรีมันยังจะเป็นไข่เค็มไชยารึเปล่า หรือจะต้องกลายเป็นไข่เค็มบ้านหมี่ไข่เค็มดินสอพอง และถ้าไข่เค็มดินสอพองทำที่เชียงใหม่มันจะกลายเป็นไข่เค็มเชียงใหม่รึเปล่า ไก่ย่างวิเชียรบุรีทุกวันนี้ร้านที่ขายดีติดอันดับอาจจะมีเจ้าของร้านที่ไม่เคยผ่านไปทางวิเชียรบุรีเลย
ชีวิตแบบปรกติของเรา บางทีก็คล้ายๆกับทุกวันคือเหมือนเมื่อวาน เหมือนวันนี้และเหมือนวันพรุ่งนี้เมื่อมันมาถึง ทุกอย่างดำเนินไปตามปรกติวิสัยของมัน แต่มันก็มีบางสิ่งบางอย่างคงอยู่ และบางสิ่งบางอย่างหายไป หรือเตรียมที่จะหายไป ตั้งแต่สิ่งเล็กๆน้อยๆรอบๆตัวอย่างขนมที่เพิ่งกินเข้าไป หรือกาแฟที่เพิ่งดื่มหมดถ้วย เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันอาจจะเป็นกาแฟโปแลนด์ขวดสุดท้าย หรือซาสี่ขวดสุดท้าย โยเกิร์ตบัลแกเรียถ้วยสุดท้ายของสายการผลิต หรือแม้แต่ไอ้นกตัวโทรมๆที่เกาะอยู่นอกหน้าต่าง พรุ่งนี้มันก็อาจจะไม่ได้มา แล้วเราจะไม่ได้เห็นมันอีกตลอดกาล ถึงเราจะยังอยู่ แต่สิ่งที่มีคุณค่ากับเราเล็กๆน้อยๆหรือหนักแน่นทรงพลังขนาดเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้มันจะไม่มีแล้ว
อยู่กับวันนี้ อยู่กับสิ่งที่มี อยู่กับปัจจุบัน เราไม่สามารถฉุดรั้งบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไปตามกระแสแห่งความเปลี่ยนแปรของวัฏฏวน ในสมองเก่าๆผ่านวันเวลาของเราทุกคนล้วนซ่อนไว้ด้วยความคิดคำนึง ถึงบางสิ่งบางอย่าง บางคน บางช่วงเวลา บางความรู้สึก บางความทรงจำ หรือใครบางคนที่ไม่อาจกลับมา สิ่งเหล่านั้น ผ่านมาแล้ว บางทีก็ผ่านไปในมุมมองของคนทั่วๆไปแต่ไม่ใช่กับความประทับใจเล็กๆอันเป็นส่วนตัว มีความสุขกับทุกๆอย่าง ยิ้มให้กับทุกจังหวะของชีวิต ชีวิตเดิมๆ ผู้คนหน้าเก่า แมวง่วงๆทำตัววุ่นวาย ความรักที่เกิดขึ้นในใจเช่นที่เคยมา รสชาติอาหารคำสุดท้ายในจาน ยอมรับและขอบคุณทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ให้ความสำคัญและซาบซึ้งกับสิ่งดีๆ
บางที ความรู้สึกดีๆเหล่านั้น ถึงเราจะพบมันมาหลายครั้ง แต่จะมีครั้งนึงที่เป็นครั้งสุดท้าย มันก็ไม่ได้กลับมา แม้เราจะโหยหาร่ำร้องซักเพียงใด ให้คิดถึงขนาดไหน มันก็จะไม่กลับมา
สาบสูญไปตลอดอนันตกาล









วงวัฏฏ์ที่กำลังจะสาบสูญ
ลองมองไปรอบๆตัวเรานะครับ ตอนนี้ก็ได้ ทุกท่านก็คงเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง บ้างก็เป็นสิ่งของ บ้างก็เป็นคน บ้างก็เป็นสัตว์ หรือบ้างก็เป็นต้นไม้ใบหญ้า บางท่านอาจจะมองเห็นห้องว่างๆ หรือบางท่านก็มองไม่เห็นอะไรเลย
นี่เป็นของที่เราๆท่านๆเห็นนะครับ เห็นด้วยตาเพราะมันยังมีอยู่ ทีนี้ลองนึกๆดูว่ามีอะไรที่มันเคยมีแล้วมันหายไป จะหลับตานึกก็ได้ หรือลืมตานึกก็ได้ เพราะเป็นการมองด้วยหัวใจ ถ้ามันอยู่ในความคิดคำนึงเราจะมองเห็นมันเสมอ
กรรไกรแบบหนึ่ง ตระกูลหนึ่งหรือสายวิชาหนึ่ง ที่สืบทอดกันมาร่วมๆสี่ห้าร้อยปีจนถึงยุคของเรา กรรไกรทาเนะ หรือกรรไกรทาเนะแท้ๆ 本種子鋏 กรรไกรทาเนะกาชิมะ กรรไกรแห่งเกาะทาเนะ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่ากรรไกรเมล็ดพันธุ์ กรรไกรชนิดนี้มีช่วงเวลาดีๆของมันร่วมกับประวัติศาสตร์งานฝีมือของญี่ปุ่น งานศิลปะ งานฝีมือ หรือแม้แต่งานทำมาหากิน ตัดผ้าตัดผัก ตัดเนื้อ ตัดกิ่งไม้ ผลไม้ บอนไซต่างๆ เรียกได้ว่าเคยเป็นกรรไกรที่อยู่ร่วมกับทุกวงการ แต่มาถึงวันนี้มันกำลังค่อยๆหายไป
กรรไกรทาเนะกาชิมะ สร้างขึ้นที่เกาะทาเนะกาชิมะ จังหวัดคาโกชิม่า กรรไกรชนิดนี้มีประวัติสืบย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่16 คือราวๆปี ค.ศ. 1543 โดยมันถูกถ่ายทอดวิทยาการทำกรรไกรนี้จากพวกโปรตุเกส พร้อมๆกับการทำปืน แบบปืนกระทุ้ง ปืนคาบศิลา
ทาเนะกาชิมะ หรือเกาะเเห่งเมล็ดพันธุ์ เป็นเกาะหรือท้องที่ชายทะเลซึ่งมีแร่เหล็กอยู่ในทราย แบบที่เรียกกันว่าแร่หยกหรือแร่ทรายเหล็ก ทามะฮากาเนะอันเลื่องชื่อแห่งแดนอาทิตย์อุทัย เหล็กชั้นดี ที่มาของดาบญี่ปุ่น
ตามประวัติแล้วกรรไกรชนิดนี้เกิดขึ้นบนเกาะญี่ปุ่นก่อนหน้ากรรไกรราชาหรือกรรไกรตัดผ้าขนสัตว์และกรรไกรบอนไซ กรรไกรดอกไม้นานหลายปีนัก มีที่มาจากบนเกาะทาเนะกาชิมะและแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันนี้ว่ากันว่าเหลือแหล่งผลิตใหญ่ที่ทำเป็นล่ำเป็นสันอยู่เพียงสามแห่ง และแห่งสำคัญที่สุดหรือสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสายวิชานี้คือยี่ห้อ มากิเสะ 牧瀬 หรือยี่ห้ออุเมกิ
กรรไกรยี่ห้อมากิเสะนี้ ทำโดยตระกูลมากิเสะซึ่งสืบเชื้อสายช่างตีดาบมานับพันปี และทำกรรไกรยี่ห้อมากิเสะมาจนถึงรุ่นสุดท้าย คือรุ่นที่ 37 ของสายตระกูลมากิเสะ ท่านโยชิฟุมิ มากิเสะ 牧瀬義文 ซึ่งได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2559 และไร้ผู้สืบเชื้อสายโดยสายเลือด ทำให้ตระกูลมากิเสะที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปีต้องสิ้นสุดลง
ในปัจจุบันกรรไกรยี่ห้อมากิเสะนี้ ยังมีอยู่โดยถูกสร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กที่ชื่อ 梅木 昌二 อูเมกิ โชจิ ศิษย์ที่สืบทอดสายวิชาจากท่านมากิเสะรุ่นที่37 ถึงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยคนของตระกูลมากิเสะ แต่กรรไกรในแบบของมากิเสะยังมีชีวิตต่อไปโดยผู้สืบสายวิชา
กรรไกรทาเนะที่เคยมีคนทำมากมายเป็นสินค้าออกของเกาะทาเนะหรือเมืองคาโกชิมะ ว่ากันว่าเคยมีร้านค้าหรือสำนักที่ทำกรรไกรชนิดนี้อยู่ถึงสามสิบแห่ง แต่ทุกวันนี้เหลืออยู่ไม่กี่แห่ง บางกระแสข่าวว่าเหลืออยู่สามแห่ง บางกระแสว่าเหลืออยู่สองแห่ง หรือบางกระแสว่าเหลือกรรไกรทาเนะแท้ๆที่ทำบนเกาะทาเนะเพียงแห่งเดียวคือสำนักมากิเสะ อีกสองยี่ห้อทำมาจากแหล่งอื่นแล้ว
ที่แน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือมันมีน้อยลงและอาจจะสูญหายไปจากต้นตอหรือแหล่งกำเนิดดั้งเดิมของมัน ถ้ามันยังมีอยู่แต่สร้างขึ้นจากที่อื่นมันจะยังเป็นกรรไกรทาเนะไหม ? ไข่เค็มไชยาถ้าทำที่ลพบุรีมันยังจะเป็นไข่เค็มไชยารึเปล่า หรือจะต้องกลายเป็นไข่เค็มบ้านหมี่ไข่เค็มดินสอพอง และถ้าไข่เค็มดินสอพองทำที่เชียงใหม่มันจะกลายเป็นไข่เค็มเชียงใหม่รึเปล่า ไก่ย่างวิเชียรบุรีทุกวันนี้ร้านที่ขายดีติดอันดับอาจจะมีเจ้าของร้านที่ไม่เคยผ่านไปทางวิเชียรบุรีเลย
ชีวิตแบบปรกติของเรา บางทีก็คล้ายๆกับทุกวันคือเหมือนเมื่อวาน เหมือนวันนี้และเหมือนวันพรุ่งนี้เมื่อมันมาถึง ทุกอย่างดำเนินไปตามปรกติวิสัยของมัน แต่มันก็มีบางสิ่งบางอย่างคงอยู่ และบางสิ่งบางอย่างหายไป หรือเตรียมที่จะหายไป ตั้งแต่สิ่งเล็กๆน้อยๆรอบๆตัวอย่างขนมที่เพิ่งกินเข้าไป หรือกาแฟที่เพิ่งดื่มหมดถ้วย เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันอาจจะเป็นกาแฟโปแลนด์ขวดสุดท้าย หรือซาสี่ขวดสุดท้าย โยเกิร์ตบัลแกเรียถ้วยสุดท้ายของสายการผลิต หรือแม้แต่ไอ้นกตัวโทรมๆที่เกาะอยู่นอกหน้าต่าง พรุ่งนี้มันก็อาจจะไม่ได้มา แล้วเราจะไม่ได้เห็นมันอีกตลอดกาล ถึงเราจะยังอยู่ แต่สิ่งที่มีคุณค่ากับเราเล็กๆน้อยๆหรือหนักแน่นทรงพลังขนาดเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้มันจะไม่มีแล้ว
อยู่กับวันนี้ อยู่กับสิ่งที่มี อยู่กับปัจจุบัน เราไม่สามารถฉุดรั้งบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไปตามกระแสแห่งความเปลี่ยนแปรของวัฏฏวน ในสมองเก่าๆผ่านวันเวลาของเราทุกคนล้วนซ่อนไว้ด้วยความคิดคำนึง ถึงบางสิ่งบางอย่าง บางคน บางช่วงเวลา บางความรู้สึก บางความทรงจำ หรือใครบางคนที่ไม่อาจกลับมา สิ่งเหล่านั้น ผ่านมาแล้ว บางทีก็ผ่านไปในมุมมองของคนทั่วๆไปแต่ไม่ใช่กับความประทับใจเล็กๆอันเป็นส่วนตัว มีความสุขกับทุกๆอย่าง ยิ้มให้กับทุกจังหวะของชีวิต ชีวิตเดิมๆ ผู้คนหน้าเก่า แมวง่วงๆทำตัววุ่นวาย ความรักที่เกิดขึ้นในใจเช่นที่เคยมา รสชาติอาหารคำสุดท้ายในจาน ยอมรับและขอบคุณทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ให้ความสำคัญและซาบซึ้งกับสิ่งดีๆ
บางที ความรู้สึกดีๆเหล่านั้น ถึงเราจะพบมันมาหลายครั้ง แต่จะมีครั้งนึงที่เป็นครั้งสุดท้าย มันก็ไม่ได้กลับมา แม้เราจะโหยหาร่ำร้องซักเพียงใด ให้คิดถึงขนาดไหน มันก็จะไม่กลับมา
สาบสูญไปตลอดอนันตกาล