ความรู้สึกของชินจิที่มีให้แต่ละคน

คือพึ่งดู3.0+1.01มา ตอนจบคือรับม่ายด้สยสุดๆ มาริคู่พระเอกเนี่ยอะนะ ตอนแรกคิดว่าอย่างดี ก็อาซุกะ ไม่ก็ เรย์ แหละว้ะชินจิ ผม
แต่คือมันหักไม่คิดเลยว่า จะเป็นมาริ ที่แทบไม่เกี่ยวอะไรกับพระมากขนาดนั้น มาเจอหน้าทีก็พูด ลูกหมาๆ แทนที่จะเป็น อาซุกะอ้าาาาาาาาาา
แต่ก็เข้าใจได้อยู่ จากที่ไปอ่านกระทู้อื่นๆมา ก็ทำให้เข้าใจชินจิกับ อะซุกะมากขึ้น แล้ว แต่ก็ตามที่ผมบอกแหละ ถ้าไม่ไช่อะซุกะ ก็เรย์แหละว้า
แต่ก็ไม่ได้คู่กันอยู่ดี แต่ก็แอบชอบอยู่นะ เรย์กับ คาโอรุ แหละด้วยความไม่เข้าใจนี้
เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้น ผมอยากจะทำความเข้าใจ ความรู้สึก ความสัมพัน ที่ชินจิมีให้กับ ทุกๆคน อาซุกะ เรย์ คาโอรุ มาริ และทุกคนรู้สึกและมีความสัมพัน
ยังไงกับชินจิครับ
วิเคราะห์ หรือ หาเหตุว่าทำไมถึงคิดอย่างนี้ ให้ผมเข้าใจที่ครับ ที่อยากรู้มากๆเลย คือ เรย์ รู้สึกว่าชินจิเป็นอะไรกันแน่คนที่ ชอบหรือ รัก หรือห่วงใย??? ยังไงกันน้า  อาซุกะ เคนสุเกะ??แค่คิดก็เจ็บแล้ว ชินจิคุ แต่เห็นว่า ชินจิเป็นคนเปลี่ยน ความรู้สึกชอบ ของอาซุกะเอง ให้เป็นเคนสุเกะ แทน ชินจินายค่อยๆ
ทำความเข้าใจกันก็ได้  

ก็สุดท้ายนี้คนที่อ่านกระทู้ผมจนจบ ช่วยอธิบาย ที่นะครับ กราบงามๆเลย 
(ถ้าผมยังไม่เข้าใจความสัมพันคงมูปออนไม่ได้อะเอาจริง)  eva
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
จะขอตอบ จขกท จากความเข้าใจของผมเองนะครับ ก่อนจะตอบคำถาม ต้องเข้าใจก่อนว่า อีวานเกเลี่ยนแยกไม่ออกจากตัวตนของ ผกก. อันโนะ เรียกได้ว่า อีวานเกเลี่ยนก็คือเรื่องราวและความรู้สึกของตัวอันโนะเอง ซึ่งความคิดจิตใจของแกก็เปลี่ยนไปตามช่วงวัยและเหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเจอ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมภาค Neon Genesis กับ The end of Evangelion ถึงมีธีมเรื่องและบรรยากาศแตกต่างจากภาค Rebuild of Evangelion เป็นอย่างมาก แน่นอน ภาค Rebuild ก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากภาคต่อของภาค TV series นั่นหมายถึงว่า เรื่องราวใน Rebuild ก็กลายเป็นเส้นเรื่องที่จะจบไม่เหมือนกับ The end of Evangelion ซึ่งสื่อว่า อันโนะแกได้คำตอบและบทสรุปสุดท้ายที่ลงตัวที่สุดสำหรับแกแล้วนั่นเองครับ

ในส่วนของ คสพ ระหว่างชินจิต่อตัวละครต่างๆในเรื่อง ผมจะขออธิบายให้กระชับที่สุดนะครับ

ก่อนอื่น มาพูดกันถึงบุคลิกของชินจิก่อน อิคาริ ชินจิ โดยพื้นฐานเป็นคนเก็บตัว เงียบเหงา ไม่มั่นใจในตนเอง แล้วก็ sensitive มาก เพราะด้วยปมในวัยเด็กที่แม่จากไปตั้งแต่ยังเล็ก พ่อก็ทอดทิ้ง ไม่สนใจใยดี นี่จึงเป็นปมใหญ่ที่ทำให้ชินจิเป็นคนที่อ่อนไหว กลัวการถูกทอดทิ้ง แคร์คนอื่นมาก และปรารถนาให้ใครซักคนโอบกอดดูแลเอามากๆ ในอีกทางหนึ่งก็อยากจะได้รับการยอมรับจากเก็นโด พ่อของเขาเองด้วย แต่เมื่อรู้สึกว่าถูกทรยศ ก็ดื้อดึงโต้ตอบอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ชินจิต้องการใครก็ได้ ที่เข้าใจในตัวเขา และโอบอุ้มเขา 'Beautiful Boy' และตัวละครชินจิก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอันโนะเอง ดังนั้น จะเรียกได้ว่าอันโนะทำอีวาขึ้นมาเพื่อเข้าใจตัวเองก็ว่าได้

อายานามิ เรย์ - ตั้งแต่ภาค TV series แล้ว เรย์คือตัวตนที่ชินจิอยู่ด้วนแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ครับ (แน่นอน เธอคือโคลนของยุย) นั่นอาจสื่อได้ถึงในช่วงวัยหนึ่งของเรา เรามักจะชอบคนที่คล้ายครอบครัวตัวเอง ตรงนี้อาจตีความได้ว่าอันโนะคงจะแทรกๆ ความนัยเรื่องปมเอดิปุสกลายๆ ที่ชินจิรู้สึกไม่ดีที่เกนโดให้ความสนใจเรย์ แล้วก็อยากจะได้ความรักจากทั้งเกนโดและเรย์บ้าง แต่แน่นอนครับ ถ้าได้ดูอีวานเกเลี่ยนตลอดทั้งเรื่อง จะพบว่า ชินจิเจ็บปวดกับเรื่องของเรย์มามากเกินไปแล้ว โดยเฉพาะฉากที่ได้รู้ความจริงว่าเรย์เป็นแค่ตัวโคลนของยุยเท่านั้น และในภาค 3.0 ที่พอรู้ว่าที่ตนเองช่วยเรย์ไปในภาค 2.0 นั้นมันไร้ความหมาย และความรักแบบที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นในคนที่อายุน้อย และยังไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครๆมาก ถามว่าเรย์รู้สึกอย่างไรต่อชินจิ ผมคิดว่า เรย์นั้นมีบุคลิกแทบจะกลวงเปล่าจริงๆ และอาจไม่ได้มองชินจิในแบบคนรักเท่าไหร่นัก แต่เป็นเหมือนแม่ห่วงใยลูกไปโดยสัญชาตญาณเสียมากกว่า และด้วยความที่เรย์ให้อารมณ์แบบแม่ของชินจิที่ตัวเขาเองก็แทบจะจำแม่ไม่ได้แล้ว ชินจิก็เลยยึดติดกับเรย์เป็นพิเศษครับ

โซริว/ชิกินามิ อาสึกะ แลงเลย์ - แม้ว่าในภาค rebuild จะเปลี่ยน background ของอาสึกะไปจากภาค TV series แต่บุคลิก นิสัย นั้นไม่ต่างกัน ผมค่อนข้างมั่นใจว่าแฟนๆอีวาไม่ว่าจะยุคไหนๆ ก็จะอวยอาสึกะมากที่สุดและอยากจะให้คู่กับชินจิ ซึ่งเข้าใจได้ ตัวอาสึกะมีบุคลิกที่ร่าเริง ตื่นตัว กล้าหาญ ปากไม่ตรงกับใจ เรียกได้ว่าเป็นที่มาตัวละครประเภทซึนเดเระเลยทีเดียว ในช่วงวัยรุ่น เรามักจะได้แฟนเป็นแบบอาสึกะครับ (ต่อมาจากช่วงวัยเด็กที่เราปรารถนาคนที่ใกล้เคียงกับครอบครัว) เพราะด้วยความที่ร้อนแรง น่าตื่นเต้น และตรงข้ามกับเราแบบสุดขั้ว (ผมเองก็เคยได้พบผู้หญิงในแนวๆ อาสึกะ แล้วด้วยว่าผมอาจจะมีบุคลิกแบบชินจิหน่อยๆ ทำให้แม้ว่าจะน่าหลงไหลแค่ไหน แต่ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเจ็บปวด แต่กว่าเราจะได้เรียนรู้สิ่งนี้ก็อาจจะช้าไปหน่อยก็ได้) ตรงนี้ในภาคสุดท้าย ชินจิเองก็สารภาพไปว่าเขาเองก็ ‘เคย‘ ชอบอาสึกะเช่นกัน แต่ถ้าได้ดูทั้ง Tv series และ EoE ก็จะรู้สึกได้เลยว่า ความสัมพันธ์แบบชินจิกับอาสึกะนั้นไม่ต่างอะไรจาก Hedgehog’s dilemma เลย ซึ่งเป็นตีมหลักของปมปัญหาจิตใจของชินจิตลอดทั้งเรื่อง ทั้งคู่รู้สึกปรารถนาในกันและกัน แต่เมื่อยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเจ็บปวด อาสึกะนั้นถ้าพูดอย่างไม่เกรงใจคือเป็นคนแรง ชินจิก็เป็นคนอ่อนไหวมาก พูดตามตรงคือชินจิทั้งรักและเจ็บปวดกับอาสึกะมาก เพราะลึกๆแล้วชินจิต้องการผู้หญิงในแบบที่เป็นผู้โอบอุ้มตัวตนอันเปราะบางของเขาเสียมากกว่าในแบบคนรัก (ประเด็นนี้อาสึกะพูดกับมาริเองในภาค 3.0 + 1.0) นี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมชินจิถึงบีบคออาสึกะในตอนจบของ the end of Evangelion แต่ก็ทำไม่ลง เพราะชินจิก็รักอาสึกะมากๆเหมือนกัน แต่ก็มองในอีกแง่หนึ่งได้ว่า อาสึกะก็คืออนิเมะเรื่องอีวานเกเลี่ยนเอง ผกก อันโนะรักอีวานเกเลี่ยนมาก และด้วยเพราะรักมากเกินไป ก็เลยคาดหวัง หมกมุ่น และกลายเป็นเกลียดเอามากๆ จนอยากจะทำลายทิ้ง แต่เขาก็ทำไม่ลง จึงกลายมาเป็นฉากชินจิบีบคออาสึกะแล้วก็ทำไม่ลงจนน้ำตาไหลออกมา ดังนั้น แม้ชินจิจะรักอาสึกะ แต่เขาก็เจ็บปวดมากพอๆกัน ซึ่งอาจไม่ใช่ความผิดใครเลยก็ได้ และบางทีการที่ชินจิยังไม่มูฟออนจากอาสึกะซักที ก็ทำให้ลูปในเรื่องอีวาจะไม่มีวันจบสิ้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับชินจิด้วยเรื่องของอีวาก็จะเป็นทุกข์ คาโอรุก็จะไม่ได้การปลดปล่อย ทุกคนก็จะมาทำให้ชินจิเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป และที่สำคัญที่สุด ถ้า ผกก อันโนะไม่แสวงหาทางเลือกใหม่ๆ เขาก็จะต้องจมอยู่กับอีวานเกเลี่ยนต่อไป ส่วนกรณีที่อาสึกะ(ดูเหมือนว่า)ลงเอยกับเคนเคนนั้น ผมมองว่า อาสึกะเองก็โตขึ้นมากแล้ว ความคิดจิตใจก็เปลี่ยนไป (อย่าลืมว่าอาสึกะไม่ได้เจอชินจิตั้ง 14 ปี ระหว่าง 2.0 กับ 3.0) และได้เจอความสบายใจกับใครคนหนึ่งไปแล้ว โดยที่ตัวอาสึกะเองไม่ต้องมายึดติดกับชินจิเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่เราไม่ต้องนิยาม อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง (ประเด็นนี้จะต่อไปที่มาริอีกที) ในจุดนี้ผมคิดว่าเราควรมองตัวละครในฐานะที่เป็นคนจริงๆครับ ที่ความคิด จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ อาสึกะเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น (ที่อาสึกะบอกว่า น่าเสียดาย ฉันโตไปแล้ว)

นางิสะ คาโอรุ - คนนี้มีบทน้อย แต่มีความสำคัญต่อชินจิมากเป็นพิเศษ คาโอรุคือตัวตนที่ผูกกับชินจิมานานแสนนานในลูปก่อนๆๆๆ เป็นตัวละครในแบบที่ชินจิรู้สึกว่าตัวเองได้รับการปลอบประโลมในวันที่เขาไม่เหลือใคร เขาเข้าใจในตัวตนของชินจิ และปรารถนาจะให้ชินจิมีความสุข ซึ่งแน่นอนว่า ชินจิซึ่งมีความเป็นคนอ่อนไหว เขาก็พัฒนาความสัมพันธ์กับคาโอรุได้อย่างรวดเร็วมาก จนมีแฟนๆไม่น้อยอยากให้ชินจิคู่กับคาโอรุ (ไม่แปลกเลย นี่คือตัวตนที่ชินจิปรารถนา และชินจิก็เฉลยแล้วใน 3.0+1.0 ว่าคาโอรุเป็นเหมือนพ่อ ในแบบที่ชินจิปรารถนามาโดยตลอด) แต่คาโอรุก็ไม่ต่างจากตัวตนของเรย์และอาสึกะ ที่มีชะตาอันต้องทำให้ชินจิเจ็บปวดอยู่ร่ำไป แม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ตราบเท่าที่ชินจิยังไม่อาจยอมรับความตายของคาโอรุได้ หรือไม่ก็คาโอรุยังยึดติดกับตัวตนของชินจิ (ตามที่คาจิได้บอกกับคาโอรุใน flashback ว่า 'คุณ (คาโอรุ) อยากทำให้ชินจิมีความสุข นั่นก็เพราะคุณเชื่อว่าถ้าทำอย่างนั้นคุณก็จะมีความสุขไปด้วย') โลกก็จะวนลูปไปอย่างนั้นไม่จบสิ้น คาโอรุก็จะต้องตื่นจากโลงศพบนดวงจันทร์ไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด ดังนั้น การผูกความสุขของเราไว้กับความสุขของใคร จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรยิ่งนัก แน่นอน เราควรปรารถนาให้คนที่เราแคร์มีความสุข แต่ต้องไม่ใช่การยึดติด ไม่เช่นนั้น เราก็จะไม่หลุดพ้น

มากินามิ มาริ อิลลัสเทรียส - นี่คือตัวละครที่ลึกลับที่สุด และหลุดกรอบตัวละครทุกตัวที่ผมได้เอ่ยถึงไปหมดเลย และแน่นอน แฟนๆ สาวกอีวาโดยมาก อาจไม่เข้าใจ ว่าทำไมชินจิถึงเลือกมาริในตอนท้ายสุด (แฟนๆอีวาส่วนมากอาจนิยมชมชอบอาสึกะกันเสียมากกว่า) ซึ่งนางมี air time กับชินจิน้อยมาก แทบจะนับประโยคได้ แต่ด้วยเหตุนี้แหละครับ ตัวละครมาริถึงได้น่าสนใจ ผกก อันโนะเคยกล่าวไว้ว่า มาริ คือตัวละครที่จะมา 'ทำลาย' อีวานเกเลี่ยนลง แต่ในความหมายนี้คือ คนที่จะมาทำให้ทุกอย่างไปสู่บทสรุปที่ควรจะเป็นเสียที นั่นหมายถึง การจบลูปในอีวาครับ ซึ่งตัวเธอ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับอีวานเกเลี่ยนภาค Neon genesis และ EoE มาก่อนเลย เป็นไปได้ว่า มาริ คือทางเลือกใหม่ ที่อันโนะเห็นว่าจะทำให้ทุกอย่างของอีวานเกเลี่ยนไปสู่บทสรุปที่สวยงาม (สังเกตว่าฉากที่ชินจิเจอมาริครั้งแรกในภาค 2.0 track เพลงของชินจิที่เคยวนซ้ำๆไปมาระหว่าง 25-26 ได้เลื่อนไปเป็น 27 แล้ว นั่นหมายถึงว่า มาริคือผู้ที่มาเพื่อทำให้โชคชะตาของชินจิหลุดพ้นจากวังวนแห่งอีวา) และมาริเป็นคนเดียว ที่ชินจิไม่ได้กล่าวคำร่ำลาในตอนจบ

background ของมาริมีน้อยมาก เราแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย รู้แค่ว่า เป็นคนบุคลิกร่าเริง แจ่มใส ใจดี นมโต (อันนี้มาริพูดเองนะครับ ผมไม่ได้ทะลึ่ง) แต่ก็ดุดันเวลาต่อสู้ ดูไม่มีปมในใจ เธอรู้จักกับเก็นโด ยุย และน่าจะเป็นลูกศิษย์ของฟุยุสึกิด้วย ซึ่งแน่ชัดแล้วว่า เธอย่อมรู้เรื่องอีวาแทบจะทั้งหมด และแน่นอนว่ารู้จักชินจิตั้งแต่เขายังเป็นเด็กด้วย (ซึ่งคนมักจะเอาไปแซวว่ามาริคือป้าหน้าเด็กเคลมลูกเพื่อน) ชื่อของมาริแน่นอนว่า มีความนัย ที่เมื่อลองตีความดูแล้วก็ช่างสอดคล้องกันมาก ชื่อมาริ ในความเห็นของผม อาจหมายถึงพระแม่มารีย์ มารดาของพระเยซู หรืออาจจะเป็น แมรี แม็กดาเลน ผู้หญิงที่มีบทบาทในเรื่องราวของพระเยซูเป็นอย่างมาก ซึ่งบางคนก็มองว่าแมรี แม็กดาเลน คือภรรยาของพระเยซูไปเลย อย่างที่แดน บราวน์เอาไปเขียนเป็น Davinci code (ซึ่งในเรื่อง ชินจิก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นภาพแทนของเยซู แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น ชื่อที่แท้จริงของมาริจากปากของฟุยุสึกิ ก็คือ มาริ อิสคาริออต ชัดเจนที่สุดว่า เอามาจากสาวกผู้ทรยศพระเยซู ยูดาส อิสคาริโอต ในความหมายนี้คือ มาริ คือผู้ทรยศคนเล่นบทพระเจ้าปลอมๆ อย่างเก็นโด ฟุยุสึกิ NERV และ Seele ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เพราะมีทั้ง มารีย์ และ อิสคาริออต ในคนๆเดียวกัน) และด้วยจากคำพูดและการกระทำที่เธอมีต่อชินจินั้น เราไม่พบว่าเธอคิดร้ายต่อชินจิเลย และไม่เคยพูดจาว่าร้ายชินจิเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่ได้สปอยชินจิจนเกินไป (และเป็นตัวละครเดียวที่ชินจิไม่มีปมด้วย เพราะเธอไม่ปรากฎในลูปก่อนๆ และต่างจากเรย์และอาสึกะ ที่ชัดเจนว่าทำให้ชินจิเจ็บปวด) ที่เธอเรียกชินจิว่า 'หมาน้อย' นั้นก็ให้ความรู้สึกว่าเธอเรียกด้วยความเอ็นดูชินจิ มาริจึงเป็นตัวตนที่อยู่ระหว่างการเป็น 'แม่และคนรัก' ที่ชินจิปรารถนา ด้วยปมต่างๆ ในชีวิต ชินจินั้นเลยต้องการผู้หญิงที่มาโอบอุ้มดูแลเขา ในภาค 3.0+1.0 ตัวมาริเองก็ประกาศอย่างแรงกล้าไว้ตลอดทั้งเรื่องว่า 'ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน ก็จะตามไปหาเธอให้ได้' (น่าสนใจว่ามาริรู้แล้วหรืออย่างไรจึงพูดประโยคนี้ออกมาตอนที่ทำภารกิจที่ปารีส ว่าชินจินั้นมีชะตากรรมที่จะต้องมาสะสางปมปัญหาสุดท้ายกับเก็นโด พ่อของเขา ที่แม้ในตอนนั้นชินจิอยู่ในสภาะร่อแร่ ไม่พร้อมทำอะไรเลย หลังจากเห็นการตายของคาโอรุ) นั่นก็อาจทำให้ชินจิรู้สึกมั่นคงขึ้นมา และมาริยังเป็นคนสุดท้ายที่มิซาโตะฝากฝังให้ดูแลชินจิก่อนที่เธอจะพลีชีพไปอย่างมีเกียรติ ในฉากเกือบสุดท้าย ชินจิกำลังนั่งอยู่เดียวดายที่ชายหาดในโลกใหม่ที่ไม่เคยมีอีวา แล้วภาพก็ค่อยๆ ไร้สีสันไป จนมาริผุดขึ้นมาจากน้ำ ภาพจึงกลับมามีสีสันอีกครั้ง นี่ย่อมตีความได้ว่า มาริคือผู้ที่ทำให้โลกของชินจิกลับมาสดใสเหมือนเดิมก็เป็นได้ และในฉากสุดท้าย ณ สถานีรถไฟบ้านเกิดของ ผกก อันโนะ ชินจิก็ให้ความรู้สึกเป็นตัวเองเมื่ออยู่กับมาริ ในแบบที่เราไม่อาจเห็นชินจิในมุมนี้ในภาคก่อนๆเลย และให้ความรู้สึกเป็นในแบบความรักในแบบผู้ใหญ่ที่ก้าวข้ามอารมณ์หวานแหวว เขินหน้าแดงแบบในวัยรุ่นไปแล้ว อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจเลือกคู่ชีวิตกันในวัยผู้ใหญ่นี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเลย เพราะเมื่อโตแล้ว เราย่อมรู้ด้วยเซนส์ของเราว่าอยู่กับใครแล้วเราสบายใจ

สุดท้าย แน่นอนว่าหลายๆคนก็คงมองว่ามารินั้นถอดแบบมาจากคุณอันโนะ โมโยโกะ ภรรยาของ ผกก อันโนะ ซึ่งตัวคุณโมโยโกะและ ผกก อันโนะได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ถอดแบบมา อันนี้ก็ว่ากันไปตาม ผกก อันโนะนั่นแหละครับ แต่ผมมองว่ามันก็ไม่แปลกที่แฟนๆอีวาจะคิดว่ามาริได้รับอิทธิพลมาจากคุณโมโยโกะ (ซึ่งมันก็มี sign บางอย่างที่พอดูแล้วก็รู้สึกเชื่อมโ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่