สวัสดีค่ะ
ตอนนี้อายุปาไป30+แล้ว เคยเข้ารับการรักษาอาการวิตกกังวลมาแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องยุติการรักษาเนื่องจากติดปัญหาค่าใช้จ่าย คุณหมอไม่ได้ให้หยุดยา แต่เราเลือกวิธีไม่ไปพบหมอ ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นวิธีที่ผิดมาก เพราะการที่เราขาดยาไปเลยมันมีผลต่อระดับเคมีในสมอง แต่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ มันไม่มีเงินรักษาตัว ไม่สะดวกรพ.รัฐเพราะเรื่องเวลา เราไม่ได้กินยามา8เดือนแล้วค่ะ
เมื่อก่อนเวลาเรามีปัญหา เรามักจะไประบายให้เพื่อน หรือไม่ก็พี่สาวหรือน้องสาวฟัง แต่พี่สาวเราเสียได้หลายปีแล้วค่ะ
ประเด็นหลักที่เรามาตั้งกระทู้วันนี้คือ ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเราไม่เหลือใครแล้ว
ในทุกคนที่เราสบายใจที่จะเล่าปัญหาให้ฟัง และเขาเต็มใจที่จะรับฟังที่สุดคือพี่สาว เขาไม่เคยตำหนิต่อว่าเราไม่ว่าเราจะทำเรื่องที่ผิดมา แต่เขาจะค่อยๆบอกสอนเราว่าอะไรที่ถูกที่ควรทำ แต่พี่ก็ไม่อยู่กับเราแล้ว
วันนี้เรารู้สึกแย่ๆ เราอยากจะเล่าระบาย อยากรับฟังความคิดเห็นให้การหาทางออก เพราะตอนนี้เราไม่มีความสามารถมากพอที่จะพาตัวเองผ่านปัญหานี้ไปได้ เราไม่กล้าทักไปหาเพื่อน เพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดว่าต้องมีปัญหาก่อนหรอถึงจะทักมาหากัน
ไม่อยากบอกแม่เพราะแม่เป็นซึมเศร้าจากการที่พี่สาวเสียไป
ไม่อยากบอกน้องเพราะน้องมักจะหงุดหงิดเวลาที่เราโทรไปรบกวน
มันมีหลายเรื่องมากๆ เช่น วันก่อนพ่อกับน้องทำให้เราเสียใจ คือพ่อบอกว่าจะเลิกทำอาชีพนี้แล้วจะฝากให้เราไปอยู่กับน้อง แกล้งพูดว่าเราใช้เงินไม่เยอะหรอกแค่เดือนละ2หมื่นเอง น้องก็ตอบว่าโอ๊ย ไม่เอา (ประมาณว่าอย่าเอาภาระมาให้) เราได้ฟังก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เพราะเราเคยขอเงินเดือนจากพ่อ2หมื่นจริง แต่หลังจากนั้นแม่มาขอว่าเหลือ1หมื่นได้ไหมขายของไม่ดีเลย เราก็โอเค ปัจจุบันก็ได้ประมาณ1หมื่นมาหลายปี งานเราคือช่วยขายของบ้าง คอยดูแลแม่ ทำกับข้าวให้คนในบ้าน จ่ายตลาด แล้วแต่ใครจะเรียกใช้สอย เราก็คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็สบายดี เราไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิต ไม่เคยไปเผชิญโลกภายนอก อยู่แต่บ้าน ชีวิตนี้มีแต่บ้าน
มาต่อเรื่องที่เราน้อยใจพ่อกับน้อง คือเราก็พอรู้ตัวว่าไม่ได้เป็นที่ต้องการของใคร แต่เราก็มีความคิดเหมือนกันว่าจะไม่ไปเกาะใครกิน เราได้ฟังที่เขาพูดก็คิดน้อยใจว่าทำไมมองเราแบบนั้น เขาพูดแซวเราเฉยๆไม่คิดอะไรเลยหรอ แต่เขาพูดกัน2รอบเลยนะ จากที่เรายิ้มเจื่อนๆก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าๆ ผ่านไป5วัน เรายังปล่อยวางเรื่องนี้ไม่ได้เลย ทำไงดี
และเราก็มีหลานชายลูกพี่สาวที่เสีย อายุ9ขวบ เราบอกอะไร ใช้ให้ไปหยิบของให้ หลานไม่ทำไม่ฟัง และยายก็มักจะให้ท้ายเสมอ เช่น หลานไม่สบายกินยาไม่หาย เราบอกยายว่าต้องฉีดยาจริงๆแล้วนะ แต่สุดท้ายหลานไม่ยอมฉีด ยายก็ยอมอีก แล้วเราจะทำอะไรได้ในเมื่อไม่มีใครเคยฟังเราเลย
เรารู้สึกเบื่อมาก ทุกทีถ้าเรารู้สึกแย่ก็จะหาวิธีคลายเครียดด้วยการอ่านนิยาย หรือไม่ก็ดูคลิปตลก แต่ช่วงนี้เรารู้สึกว่าไม่มีวิธีอะไรที่ช่วยคลายเครียดให้เราอีกแล้ว ขนาดอ่านนิยายไปเจอพระเอกธงแดงธงดำยังเครียดเลย เฮ่อ
และก็มีเรื่องอะไรอีกหลายๆเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นการเอาเปรียบของเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ขายของแล้วขาดทุน ค่าใช้ของครอบครัวที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายรับ การได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างระหว่างลูกกับเมียคนที่2ของพ่อที่อายุน้อยกว่าเราอีก 5555 ไหนจะลูกติดของเมียคนนี้ก็มาอาศัยอยู่ด้วย
ปัญหาของเราก็อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ทำไมเราท้อเหลือเกิน บางทีนะ เราก็รู้สึกว่าทำไมเราต้องทนอยู่บนโลกนี้ด้วยละ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำร้ายตัวเองหรอก
เคว้ง
ตอนนี้อายุปาไป30+แล้ว เคยเข้ารับการรักษาอาการวิตกกังวลมาแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องยุติการรักษาเนื่องจากติดปัญหาค่าใช้จ่าย คุณหมอไม่ได้ให้หยุดยา แต่เราเลือกวิธีไม่ไปพบหมอ ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นวิธีที่ผิดมาก เพราะการที่เราขาดยาไปเลยมันมีผลต่อระดับเคมีในสมอง แต่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ มันไม่มีเงินรักษาตัว ไม่สะดวกรพ.รัฐเพราะเรื่องเวลา เราไม่ได้กินยามา8เดือนแล้วค่ะ
เมื่อก่อนเวลาเรามีปัญหา เรามักจะไประบายให้เพื่อน หรือไม่ก็พี่สาวหรือน้องสาวฟัง แต่พี่สาวเราเสียได้หลายปีแล้วค่ะ
ประเด็นหลักที่เรามาตั้งกระทู้วันนี้คือ ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเราไม่เหลือใครแล้ว
ในทุกคนที่เราสบายใจที่จะเล่าปัญหาให้ฟัง และเขาเต็มใจที่จะรับฟังที่สุดคือพี่สาว เขาไม่เคยตำหนิต่อว่าเราไม่ว่าเราจะทำเรื่องที่ผิดมา แต่เขาจะค่อยๆบอกสอนเราว่าอะไรที่ถูกที่ควรทำ แต่พี่ก็ไม่อยู่กับเราแล้ว
วันนี้เรารู้สึกแย่ๆ เราอยากจะเล่าระบาย อยากรับฟังความคิดเห็นให้การหาทางออก เพราะตอนนี้เราไม่มีความสามารถมากพอที่จะพาตัวเองผ่านปัญหานี้ไปได้ เราไม่กล้าทักไปหาเพื่อน เพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดว่าต้องมีปัญหาก่อนหรอถึงจะทักมาหากัน
ไม่อยากบอกแม่เพราะแม่เป็นซึมเศร้าจากการที่พี่สาวเสียไป
ไม่อยากบอกน้องเพราะน้องมักจะหงุดหงิดเวลาที่เราโทรไปรบกวน
มันมีหลายเรื่องมากๆ เช่น วันก่อนพ่อกับน้องทำให้เราเสียใจ คือพ่อบอกว่าจะเลิกทำอาชีพนี้แล้วจะฝากให้เราไปอยู่กับน้อง แกล้งพูดว่าเราใช้เงินไม่เยอะหรอกแค่เดือนละ2หมื่นเอง น้องก็ตอบว่าโอ๊ย ไม่เอา (ประมาณว่าอย่าเอาภาระมาให้) เราได้ฟังก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เพราะเราเคยขอเงินเดือนจากพ่อ2หมื่นจริง แต่หลังจากนั้นแม่มาขอว่าเหลือ1หมื่นได้ไหมขายของไม่ดีเลย เราก็โอเค ปัจจุบันก็ได้ประมาณ1หมื่นมาหลายปี งานเราคือช่วยขายของบ้าง คอยดูแลแม่ ทำกับข้าวให้คนในบ้าน จ่ายตลาด แล้วแต่ใครจะเรียกใช้สอย เราก็คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็สบายดี เราไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิต ไม่เคยไปเผชิญโลกภายนอก อยู่แต่บ้าน ชีวิตนี้มีแต่บ้าน
มาต่อเรื่องที่เราน้อยใจพ่อกับน้อง คือเราก็พอรู้ตัวว่าไม่ได้เป็นที่ต้องการของใคร แต่เราก็มีความคิดเหมือนกันว่าจะไม่ไปเกาะใครกิน เราได้ฟังที่เขาพูดก็คิดน้อยใจว่าทำไมมองเราแบบนั้น เขาพูดแซวเราเฉยๆไม่คิดอะไรเลยหรอ แต่เขาพูดกัน2รอบเลยนะ จากที่เรายิ้มเจื่อนๆก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าๆ ผ่านไป5วัน เรายังปล่อยวางเรื่องนี้ไม่ได้เลย ทำไงดี
และเราก็มีหลานชายลูกพี่สาวที่เสีย อายุ9ขวบ เราบอกอะไร ใช้ให้ไปหยิบของให้ หลานไม่ทำไม่ฟัง และยายก็มักจะให้ท้ายเสมอ เช่น หลานไม่สบายกินยาไม่หาย เราบอกยายว่าต้องฉีดยาจริงๆแล้วนะ แต่สุดท้ายหลานไม่ยอมฉีด ยายก็ยอมอีก แล้วเราจะทำอะไรได้ในเมื่อไม่มีใครเคยฟังเราเลย
เรารู้สึกเบื่อมาก ทุกทีถ้าเรารู้สึกแย่ก็จะหาวิธีคลายเครียดด้วยการอ่านนิยาย หรือไม่ก็ดูคลิปตลก แต่ช่วงนี้เรารู้สึกว่าไม่มีวิธีอะไรที่ช่วยคลายเครียดให้เราอีกแล้ว ขนาดอ่านนิยายไปเจอพระเอกธงแดงธงดำยังเครียดเลย เฮ่อ
และก็มีเรื่องอะไรอีกหลายๆเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นการเอาเปรียบของเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ขายของแล้วขาดทุน ค่าใช้ของครอบครัวที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายรับ การได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างระหว่างลูกกับเมียคนที่2ของพ่อที่อายุน้อยกว่าเราอีก 5555 ไหนจะลูกติดของเมียคนนี้ก็มาอาศัยอยู่ด้วย
ปัญหาของเราก็อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ทำไมเราท้อเหลือเกิน บางทีนะ เราก็รู้สึกว่าทำไมเราต้องทนอยู่บนโลกนี้ด้วยละ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำร้ายตัวเองหรอก