เคล็ดลับ 3 ประการ ที่รถ EV จีน เอาชนะคู่แข่งทั่วโลก

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย สุรินทร์ เจนพิทยา
https://www.bangkokbiznews.com/world/1159241

ตัวแบตเตอรี่” ต้นทุนหลักของรถ ถูกครองโดยบริษัทจีนที่ชื่อว่า CATL ในสัดส่วนสูงถึง 36.7% อันดับ 1 ของโลก ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ BYD อยู่ที่สัดส่วน 16.4%

รัฐบาลอเมริกาขึ้นภาษีรถอีวีให้สูงถึง 100% ในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้น อีวีจากค่ายจีนอย่าง BYD ก็ยังคงถูกกว่า Tesla ของสหรัฐ
แม้แต่ Mercedes-Benz ก็เตรียมหันมาใช้แบตเตอรี่จาก BYD ที่ชื่อว่า “Blade Battery” ภายในปี 2568 ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าแบตเตอรี่เดิม 
 
ท่ามกลางการรุกหนักของ “รถยนต์ไฟฟ้าจีน” ไปทั่วโลก สร้างความหวั่นเกรงให้ค่ายรถประเทศต่าง ๆ จน “ฮอนด้า” (Honda) และ “นิสสัน” (Nissan) สองยักษ์ค่ายรถญี่ปุ่น จับมือควบรวมกิจการครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อต่อกรกับค่ายรถจีน อีกทั้งโลกตะวันตกต่างขึ้นกำแพงภาษีอีวีจีนในอัตราที่สูงลิ่ว
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทรถเทสลา (Tesla) เคยกล่าวไว้ว่า “อุตสาหกรรมรถของประเทศต่าง ๆ จะถูกรถจีนบดขยี้เกือบหมด ถ้าไม่ตั้งกำแพงภาษี”

นี่จึงเป็นคำถามตามมาว่า อะไรทำให้ “ค่ายรถจีน” เจิดจรัสขึ้นมาระดับแนวหน้า แม้แต่ยักษ์ Tesla ยังหวาดหวั่น พบว่ามี “3 จุดเด่น” ได้แก่

1. สเกล จีนเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากเป็นอันดับ 1 ของโลก สูงถึง 14 ล้านคันในปีนี้ ตามข้อมูลจากสมาคมรถยนต์นั่งแห่งประเทศจีน ซึ่งถือว่าครองส่วนแบ่งอีวีของโลกถึง 76% ด้วยปริมาณการผลิตที่สูงเช่นนี้ จึงทำให้รถอีวีจีนเป็นที่เข้าถึงง่าย และช่วยลดต้นทุนการผลิตจนต่ำกว่าคู่แข่งได้
 
2. ต้นทุน ไม่เพียงแต่ต้นทุนที่ต่ำจากการผลิตในปริมาณมาก รัฐบาลจีนยังให้เงินอุดหนุนรถอีวี เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันไปใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งในปัจจุบัน“ตัวแบตเตอรี่” ที่เป็นต้นทุนหลักของรถ ยังถูกครองโดยบริษัทจีนที่ชื่อว่า CATL ในสัดส่วนสูงถึง 36.7% มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ BYD อยู่ที่สัดส่วน 16.4% ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยด้านการตลาด SNE Research

3. นวัตกรรม หลายคนอาจเคยมองว่าสินค้าราคาถูกมักไม่ค่อยดี แต่อีวีจีนดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น  มีลูกเล่นนวัตกรรมแปลกใหม่ที่สู้กับรถยนต์ระดับหรูจากยุโรปได้ เช่น Xpeng’s G9 มาพร้อมเบาะนั่งที่เปลี่ยนเป็นเบาะนอนได้ หรือแม้แต่ Li Auto L9 Pro รถอเนกประสงค์ SUV ที่มีระบบอุ่นร้อนและตู้เย็นภายในรถ ขณะที่ BYD ATTO 3 มีหน้าจอเล่นเกมที่เชื่อมกับจอย PS5 ฯลฯ

ด้วยความโดดเด่นทั้ง 3 อย่างของค่ายรถจีนเช่นนี้ จึงทำให้ 3 ตลาดรถอีวีหลักของโลก อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ จนต้องปรับตัวครั้งใหญ่ดังนี้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่