สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คู่อื่นเราไม่รู้นะ แต่ถ้าคู่เรา เราและสามีไม่เคยมีความคิดอยู่ในหัวว่าใครจะต้องพิสูจน์อะไร
เช่นต้องคอลคาสาย ต้องรายงานซ้ำ ๆ ฯลฯ
สิ่งสำคัญคือ เชื่อใจกันหรือไม่ ถ้าเชื่อก็จบ เราไม่จำเป็นต้องรายงานรายละเอียดว่ากลับกับใคร
แค่บอกว่าวันนี้มีงานนะ กลับบ้านเวลานี้ ๆ จบ
เราก็มีคนมาชอบที่ทำงาน มีเจ้านายมาเต๊าะ เราก็บอกว่าเราแต่งงานแล้ว เราไม่สนว่าตานั่น
จะจีบเราต่อไหม เพราะให้ตายเราก็ไม่สน สามีเราไม่สนเหมือนกัน
และถ้าใครชอบสามีเรา เราก็ไม่สนคือถ้าเขารักเราเขาก็อยู่กับเรา ถ้าเขาหมดรักอยากไปก็ไปได้
ไม่คิดหวงห้าม มันเลยไม่มีไอเดียว่าจะต้องกันท่าไม่ให้ใครเข้าใกล้แฟนเรา
สรุปแล้ว ถ้าเราเป็นแฟนคุณ เราก็จะไม่มีการคาสาย ยิ่งบริสุทธิใจยิ่งไม่ทำ เพราะมันทำให้เราเหมือน
เป็นเด็กที่ไม่น่าไว้ใจจนผู้ใหญ่ต้องคุมความประพฤติ และเราไม่โตพอที่จะดูแลตัวเองเป็น
ซึ่งเราอยู่ดูแลตัวเองมาได้ตั้งแต่ก่อนจะมีแฟน ไม่ใช่พอมีก็กลายเป็นคนอ่อนต่อโลกซะเฉย ๆ
ที่เราบอกทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าให้คนอื่นทำตาม เราแค่เล่าเรื่องที่บ้านเราให้ฟังเฉย ๆ
คุณสบายใจแบบไหนก็ทำเถอะ คนเราไม่เหมือนกัน เราแค่ต่างจากคนอื่นตรงไม่ขี้หึงและไม่ชอบอยู่
กับคนขี้หึง เพราะเราก็เคยให้คนที่ชอบเรามาส่งบ้าน คือก็นั่นมันเพื่อนร่วมงาน และเรารับมือกับคนเป็น
จะชอบเราหรือไม่ชอบ ถ้าล้ำเส้นเราก็ไม่คบ ถ้าคุยรู้เรื่อง อยากชอบเราในใจต่อแต่แสดงออกกับเราสุภาพ
เราก็คบตามปกติ
เช่นต้องคอลคาสาย ต้องรายงานซ้ำ ๆ ฯลฯ
สิ่งสำคัญคือ เชื่อใจกันหรือไม่ ถ้าเชื่อก็จบ เราไม่จำเป็นต้องรายงานรายละเอียดว่ากลับกับใคร
แค่บอกว่าวันนี้มีงานนะ กลับบ้านเวลานี้ ๆ จบ
เราก็มีคนมาชอบที่ทำงาน มีเจ้านายมาเต๊าะ เราก็บอกว่าเราแต่งงานแล้ว เราไม่สนว่าตานั่น
จะจีบเราต่อไหม เพราะให้ตายเราก็ไม่สน สามีเราไม่สนเหมือนกัน
และถ้าใครชอบสามีเรา เราก็ไม่สนคือถ้าเขารักเราเขาก็อยู่กับเรา ถ้าเขาหมดรักอยากไปก็ไปได้
ไม่คิดหวงห้าม มันเลยไม่มีไอเดียว่าจะต้องกันท่าไม่ให้ใครเข้าใกล้แฟนเรา
สรุปแล้ว ถ้าเราเป็นแฟนคุณ เราก็จะไม่มีการคาสาย ยิ่งบริสุทธิใจยิ่งไม่ทำ เพราะมันทำให้เราเหมือน
เป็นเด็กที่ไม่น่าไว้ใจจนผู้ใหญ่ต้องคุมความประพฤติ และเราไม่โตพอที่จะดูแลตัวเองเป็น
ซึ่งเราอยู่ดูแลตัวเองมาได้ตั้งแต่ก่อนจะมีแฟน ไม่ใช่พอมีก็กลายเป็นคนอ่อนต่อโลกซะเฉย ๆ
ที่เราบอกทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าให้คนอื่นทำตาม เราแค่เล่าเรื่องที่บ้านเราให้ฟังเฉย ๆ
คุณสบายใจแบบไหนก็ทำเถอะ คนเราไม่เหมือนกัน เราแค่ต่างจากคนอื่นตรงไม่ขี้หึงและไม่ชอบอยู่
กับคนขี้หึง เพราะเราก็เคยให้คนที่ชอบเรามาส่งบ้าน คือก็นั่นมันเพื่อนร่วมงาน และเรารับมือกับคนเป็น
จะชอบเราหรือไม่ชอบ ถ้าล้ำเส้นเราก็ไม่คบ ถ้าคุยรู้เรื่อง อยากชอบเราในใจต่อแต่แสดงออกกับเราสุภาพ
เราก็คบตามปกติ
สมาชิกหมายเลข 7238462 ถูกใจ, noonette ถูกใจ, It is a life ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8109613 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3422241 ถูกใจ, sanhaอะไรนะ!! ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4192299 ถูกใจ, อารีรัตน์ ถูกใจ, แมวเหม่ง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7387281 ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 11
แฟนก็พูดต่อว่า "แล้วถ้าวันไหนเค้าเลิกดึก 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ตี 1 เค้าก็ต้องนั่งแท็กซี่กลับเองใช่มั้ย เธอถึงจะสบายใจกว่า"
ผมก็บอกว่า "ใช่ เค้าไม่ชอบพี่หม้อ ไม่อยากให้เธอใกล้ชิดมากเกินไป"
ตรงนี้เสียคะแนนกะแฟนไปแล้วนะ แทนที่คุณจะบอกว่าถ้าวันไหนกลับดึกคุณยินดีจะไปรับเขาถึงที่เลยเพื่อจะไม่กลับกับพี่หัวหน้าคนนั้น เพราะสำหรับผญ.การขึ้นแท็กซี่คนเดียวตอนดึกๆ(ไม่ว่าตัวเองจะเมาไหม)น่ากลัวมากนะ แฟนคุณคงอยากได้ความสบายใจตรงนี้
คุณอยากให้แฟนแสดงความบริสุทธิ์ใจแต่ไม่แสดงความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆออกมา ในขณะที่พี่คนนั้นเขายินดีทำส่วนนั้นมากกว่ามันก็เกิดข้อเปรียบเทียบกันละ
คือถ้าในมุมเรามองเรา(ถ้าเป็นแฟนคุณ)ก็คงไม่ได้มองว่าจะเลิกกับคุณหรือนอกใจไปหาพี่คนนั้นแค่เพราะเขายินดีขับรถมาส่งหน้าบ้านหรอก แต่มันจะติดลบในใจไว้ไปบวกลบข้อดีข้อเสียตอนที่มีปัญหา(อื่นๆ)กันอ่ะว่าในจุดนี้คุณก็ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัยของเราเลย มีแต่เอาเรื่องความหึงหวงเป็นที่ตั้ง เพื่อจะให้ตัวเองสบายใจคุณยินดีให้เราเสี่ยงอันตรายกับแท็กซี่มากกว่าอะไรงี้ แต่ถ้าคุณเสนอไปรับแล้วเขาบ่ายเบี่ยง อยากจะกลับกับพี่หัวหน้าอันนี้อีกเรื่องละ
ปล.ไม่ได้มองว่าที่เขาให้คนที่จีบเขาไปรับไปส่งโอเคนะ แต่จากสถานการณ์ที่เล่านี่เรียกว่าเราเข้าใจได้ละกันว่าทำไมเขาทำแบบนั้น แม้ว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่เลือกทำแบบเขา
ผมก็บอกว่า "ใช่ เค้าไม่ชอบพี่หม้อ ไม่อยากให้เธอใกล้ชิดมากเกินไป"
ตรงนี้เสียคะแนนกะแฟนไปแล้วนะ แทนที่คุณจะบอกว่าถ้าวันไหนกลับดึกคุณยินดีจะไปรับเขาถึงที่เลยเพื่อจะไม่กลับกับพี่หัวหน้าคนนั้น เพราะสำหรับผญ.การขึ้นแท็กซี่คนเดียวตอนดึกๆ(ไม่ว่าตัวเองจะเมาไหม)น่ากลัวมากนะ แฟนคุณคงอยากได้ความสบายใจตรงนี้
คุณอยากให้แฟนแสดงความบริสุทธิ์ใจแต่ไม่แสดงความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆออกมา ในขณะที่พี่คนนั้นเขายินดีทำส่วนนั้นมากกว่ามันก็เกิดข้อเปรียบเทียบกันละ
คือถ้าในมุมเรามองเรา(ถ้าเป็นแฟนคุณ)ก็คงไม่ได้มองว่าจะเลิกกับคุณหรือนอกใจไปหาพี่คนนั้นแค่เพราะเขายินดีขับรถมาส่งหน้าบ้านหรอก แต่มันจะติดลบในใจไว้ไปบวกลบข้อดีข้อเสียตอนที่มีปัญหา(อื่นๆ)กันอ่ะว่าในจุดนี้คุณก็ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัยของเราเลย มีแต่เอาเรื่องความหึงหวงเป็นที่ตั้ง เพื่อจะให้ตัวเองสบายใจคุณยินดีให้เราเสี่ยงอันตรายกับแท็กซี่มากกว่าอะไรงี้ แต่ถ้าคุณเสนอไปรับแล้วเขาบ่ายเบี่ยง อยากจะกลับกับพี่หัวหน้าอันนี้อีกเรื่องละ
ปล.ไม่ได้มองว่าที่เขาให้คนที่จีบเขาไปรับไปส่งโอเคนะ แต่จากสถานการณ์ที่เล่านี่เรียกว่าเราเข้าใจได้ละกันว่าทำไมเขาทำแบบนั้น แม้ว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่เลือกทำแบบเขา
สมาชิกหมายเลข 8568963 ถูกใจ, It is a life ถูกใจ, Canossa ถูกใจ, Furious+Rivery ถูกใจ, ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง ถูกใจ, sanhaอะไรนะ!! ถูกใจ, มารกระบี่วายุจี้เชี่ยน ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อคนในที่ทำงานแฟน เคยบอกชอบแฟนเรา แล้วมีประเด็นอื่นๆตามมา จะสรุปให้ฟัง แต่อยากทราบว่าควรทำอย่างไร...
เจอกันช่วงเลิกงานเกือบทุกวัน เพราะบ้านไม่ไกลกันมาก
เขาจะนั่งรถตู้จากออฟฟิศมาลงห้างแถวบ้าน แล้วเราขับรถไปรับที่ห้าง มาส่งที่บ้าน
แต่ถ้าวันไหนผมไม่ได้ไปรับ ก็จะนั่งรถเมล์มาลงหน้าปากซอยบ้าน แล้วต่อมอไซค์เข้าบ้านเอง
แต่มีบางครั้งที่เขามีกินข้าวกับพี่ๆน้องที่ทำงาน กลับดึก
ก็จะติดรถพี่ผู้หญิงคนนึงกลับบ้าง พี่ผู้ชายกลับบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพี่ผู้ชาย 80%
และมาส่งถึงหน้าบ้านทุกวัน
ประเด็นอยู่ที่ พี่ผู้ชาย เป็นหัวหน้าของแฟน ชื่อพี่หม้อ (นามสมมุติ)
และแฟนเคยบอกว่า พี่คนนี้เคยบอกชอบเมื่อปีที่แล้ว พยายามตื๊ออยู่บ่อยครั้ง
แต่แฟนไม่ได้ชอบ แฟนเฉยๆ สุดท้ายเลยบอกว่า ไม่ได้ชอบนะ เป็นพี่น้องทำงานกันดีแล้ว
คือแฟนเป็นคนที่มีอะไรที่ทำงานก็จะเล่าให้ฟังว่า วันนี้ไปไหน ไปกี่คน
ตอนกลับก็จะบอกว่า กำลังจะกลับแล้วนะ
ผมเลยขอว่า "เธอมีเค้าแล้ว เธอไม่ต้องให้พี่เขามาส่งถึงบ้านได้ไหม
เธอนั่งรถตู้มาลงห้าง เค้าจะออกไปรับเอง"
แฟนบอก โอเคๆ
ผมก็เสริมไปว่า แต่ถ้าวันไหนจำเป็นจริงๆ ก็กลับกับพี่เขาก็ได้
แต่โทรมาหาตอนขึ้นรถสักนิดนึง คุยให้พี่เขาได้ยินว่าเธอมีแฟนแล้วนะ
พี่เขาจะได้รู้ตัวว่าควรทำยังไง
จนเมื่อวานตอนเย็น แฟนบอกว่า ไปกินข้าวเลี้ยงส่งน้องที่ทำงานนะ
มีพี่คนนั้นคนนี้ และพี่หม้อก็ไป
และตอน 20.30 น. บอกว่า กำลังจะกลับแล้ว
ทักมาอีกทีตอน 21.13 น. บอกว่า "พี่หม้อไปส่งนะ"
และตอน 21.24 บอกว่า "ถึงแล้วนะ เพิ่งถึงบ้าน"
ผมเลยถามว่า "ทำไมถึงเร็วจัง 10 นาทีนิดๆเอง 20 กว่าโลเนี่ยนะ และทำไมไม่บอกว่ากลับกับพี่หม้อตั้งแต่ตอนกำลังจะกลับ"
แฟนบอกว่า "เค้าบอกแล้วนะ ตอนที่บอกว่ากำลังจะกลับอ่ะ" (แต่ทำเหมือนว่า ไลน์ส่งไม่ไป)
ผมก็ไม่รู้ว่าแฟนตั้งใจไม่บอก หรือไลน์ส่งไม่ไปจริงๆ
ผมเลยรู้สึกวุ่นวายใจ เพราะปกติถ้ากลับกับพี่หม้อ
ตอนแฟนขึ้นรถ แฟนจะโทรมาบอกว่ากำลังกลับแล้วนะ ให้พี่เขาได้ยิน (ไม่ถึง 20 วินาที)
แต่เมื่อคืน ส่งข้อความมา แล้วบอกส่งไม่ไป
คือส่งไม่ไป โอเคเข้าใจ อาจจะผิดพลาดได้ แต่ไม่โทรมาบอกตอนขึ้นรถสักหน่อยหรอ
ผมเลยบอกความรู้สึกไปตรงๆให้ชัดเจนอีกครั้งว่า
"ไม่ต้องกลับกับพี่หม้ออีกแล้วได้ไหม"
แฟนก็พูดต่อว่า "แล้วถ้าวันไหนเค้าเลิกดึก 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ตี 1 เค้าก็ต้องนั่งแท็กซี่กลับเองใช่มั้ย เธอถึงจะสบายใจกว่า"
ผมก็บอกว่า "ใช่ เค้าไม่ชอบพี่หม้อ ไม่อยากให้เธอใกล้ชิดมากเกินไป"
แฟนก็เงียบไปสักพัก และบอกว่า "ก็เมื่อคืนพี่ๆที่ไปกินด้วยกันเห็นว่ามันดึกแล้ว กลับกับพี่หม้อไปเถอะ ก็เลยกลับมากับพี่เขา"
และแฟนก็เงียบไปสักพักใหญ่ ไม่ได้พิมพ์อะไรต่อ
สุดท้ายผมไม่อยากให้แฟนอึดอัดใจ
ผมเลยยอมและบอกว่า "เค้าขอโทษนะ ถ้าทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ
โอเค ถ้าเธอกลับกับพี่เขา แล้วสะดวกใจกว่า ก็กลับได้ แต่ขออย่างเดียว
ให้เธอคาสายเค้าตลอดทาง ตั้งแต่ขึ้นรถ จนถึงบ้านเลยได้มั้ย เธอไม่ต้องพูดอะไร เค้าขอฟังอย่างเดียว"
แฟนก็บอกว่า จะพยายามนะ
ผมไม่รู้เลยครับว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วอนาคตจะเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปไหม
จัดการกับความคิดตัวเองไม่ถูกเลย เพราะแฟนผมไม่พูดคำว่า ขอโทษ กับผมเลยสักคำ
เหมือนกับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องผิด และเขาไม่ได้ทำผิดอะไรกับผม